เดือนธันวาคมปีนี้ ไม่ได้มาแบบสงบเงียบ แต่กลับพัดพาคลื่นน้ำทะเลหนุนสูงเข้าปกคลุมพื้นที่ชายฝั่งสมุทรสาครอย่างหนักหน่วง จนถนนหนทางและชุมชนหลายจุดได้รับผลกระทบชนิดตั้งรับแทบไม่ทัน โดยเฉพาะถนนพระราม 2 เส้นเลือดใหญ่ของการเดินทาง ที่ต้องสู้รบกับมวลน้ำทะเลหนุนอย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตนี้ สิ่งที่เห็นชัดไม่แพ้น้ำทะเล คือพลังของ “ความร่วมมือ” ระหว่างทุกหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ปภ.จังหวัดสมุทรสาคร อปท. ในเขตพื้นที่ริมทะเล หน่วยชลประทาน หน่วยงานท้องถิ่น ตลอดจนทีมเจ้าหน้าที่ในพื้นที่คูคลองชายฝั่ง ต่างระดมกำลังแบบไม่รอช้าเพื่อช่วยประชาชนเต็มกำลัง
ปภ.จังหวัดสมุทรสาครยืนยันว่า ภาวะน้ำทะเลหนุนรอบนี้จะยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ทำให้ทุกหน่วยงานต้องจัดกำลังคน-กำลังเครื่องมือเสริมลงพื้นที่แทบตลอดทั้งวัน ทั้งคืน และทุกจุดที่น้ำทะเลพัดเข้าท่วม
ไม่ว่าจะเป็นการตักดินอุดคันกั้นน้ำชั่วคราว การส่องไฟทำงานกลางดึก การอำนวยความสะดวกการจราจรบนถนนพระราม 2 ที่จมน้ำเป็นช่วง ๆ หรือแม้แต่การเดินลุยเข้าไปให้คำแนะนำชาวสวนผัก-สวนผลไม้ที่โดนมวลน้ำทะเลซัดสวนจนเสียหาย ทุกการเคลื่อนไหวคือภาพสะท้อนความทุ่มเทที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมทีมข้าราชการระดับจังหวัดก็ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นหน้าแนวถนน บ้านเรือนประชาชน หรือสวนเกษตรริมคลอง เพื่อรับฟังปัญหาและสั่งการแก้ไขแบบรายจุด รายพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนที่สุด
แม้จะเป็นงานหนักที่ต้องลุยตั้งแต่เช้าจรดเที่ยงคืน แต่เจ้าหน้าที่ทุกนาย ทุกสังกัด ต่างพร้อมทำงานเพื่อชาวบ้าน เหนื่อยก็ยอม เปียกก็ลุย และหลายคนยังบอกว่า “นี่คือหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อคนสมุทรสาครทุกคน”
วิกฤตน้ำทะเลหนุนครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่บททดสอบของธรรมชาติ แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์หัวใจของข้าราชการทุกหน่วยงานในจังหวัดสมุทรสาคร ที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ
นี่คือเรื่องจริงที่ควรชื่นชม และเป็นพลังบวกที่สมุทรสาครต้องได้รับในยามยาก
pearleus



























0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น