pearleus

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ธนิต ปรีเปรมโอน ครูนิต ‘เนรมิต ดินจนเป็นดาว ‘เตะ’



            ฟุตบอลถือเป็นกีฬายอดฮิตที่หลายคนให้ความสนใจ  ฟุตบอลสำหรับใครบางคนอาจเป็นแค่เพียงความบันเทิงหน้าจอหรือในสนาม บางคนใช้เป็นเส้นทางในการทำเงิน นอกกฎหมายในขณะที่ใครบางใช้เกมส์ฟุตบอลเป็นธุรกิจที่ทำเงินทองได้มากมายมหาศาล  
             สำหรับ นายธนิต ปรีเปรมโอน หรือครูนิต ของนักเรียนโรงเรียนเทศบางวัดดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร แล้ว  ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬายอดฮิต  เป็นมากกว่าเกมส์การออกกำลังกาย  หรือเป็นมากกว่างานตามหน้าที่ในฐานะครูพละ  หากแต่ ฟุตบอลเป็นเสมือนชีวิต ที่ครูนิต ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ทั้งในฐานะโค้ช ไล่รวมไปถึงฐานะ พ่อคนที่ 2’ ของเด็ก ๆ อีกหลายคน
            คนกล้าคนเก่งฉบับนี้ ขอใช้พื้นที่ตรงนี้นำเสนอ แนวคิดและมุมมองของครูนิต นักปั้นนักเตะ  ที่สร้างทีมฟุตบอลระดับเยาชนของจังหวัดสมุทรสาคร จนมีชื่อชั้นขึ้นเป็นทีมระดับแนวหน้าของประเทศ
………………………………………….…..
            ทีมงานคนกล้าคนเก่ง นัดแนะกับครูนิต ที่สนามกีฬาแห่งหนึ่งของอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาครในช่วงเวลาเย็นของการฝึกซ้อมของทีมนักบอลเยาวชนที่ครูรับผิดชอบ
            เด็กพวกนี้มีฝีเท้าดี  แต่ไม่ค่อยมีโอกาสที่ดีนักหรอกครับ ครูนิต กล่าวขึ้นมาหลังการแนะนำตัวได้ไม่นาน
            ก่อนที่จะมาทำรู้จักครูนิตให้ดีกว่านี้  ทีมงานคนกล้าคนเก่งขอใช้พื้นที่สักเล็กน้อยในการสาธยายความเก่งกาจของทีมฟุตบอลที่อยู่ในความรับผิดชอบของครูนิตอย่างสังเขปว่า ทีมฟุตบอลชุดนี้เป็นเด็กที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดีทั้งหมด มีอายุเฉลี่ย 12 – 14 ทำให้สามารถจัดทีมฟุตบอลเยาวชนได้ 2 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี
            ทีมฟุตบอล 2 ชุดนี้ สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนที่สังกัด รวมถึงหน่วยงานหลาย ๆ แห่งที่นำทีมไปในฐานะตัวแทน ในหลายทัวร์นาเม้นต์  ทั้งในระดับจังหวัด ระดับภาค ไล่รวมไปถึงระดับประเทศ  ซึ่งส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ล้วนเกิดขึ้นจากความมานะ มุ่งมั่น ของ ‘’ครูนิต ในคนปั้นนักเตะ จากเด็กธรรมดา ๆ ที่เดียงสาในเกมส์ฟุตบอล จนกลายเป็นนักเตะฝีเท้าเยี่ยมเหนือนักเตะในรุ่นเดียวกันอย่างเหลือเชื่อ
            เราเปิดการสนทนาด้วยคำถามพื้น ๆ ว่า ครูนิต เป็นใคร มาจากไหน และทำไมถึงเข้ามาอยู่ในวงการฟุตบอล ก็ได้คำตอบว่า ครูเป็นคนจังหวัดราชบุรี ชอบเล่นฟุตบอลเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นกิจกรรมเดียวที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย  ใช้เพียงแรงกายและความรักในการเล่นฟุตบอล  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เด็กชายธนิต เก่งกาจเหนือเด็กรุ่นเดียวกัน จนถูกชักชวนให้เป็นนักเตะของทีมโรงเรียนวัดจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี  อย่างไม่ยากเย็น   
            จากความรัก กลายเป็นความมุ่งมั่นและแน่วแนว ส่งผลให้ฝีเท้ามีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จนสามารถพาตัวเองไต่ระดับขั้นจากนักเตะธรรมดา กลายเป็นนักเตะเยาวชนฝีเท้าเยี่ยม ที่คว้าแชมป์ของ จ.ราชบุรี ในรุ่นเล็กถึง 2 ปีซ้อน   และพออายุมากขึ้นก็ยังได้เล่นเป็นตัวเยาวชนรุ่นใหญ่ให้กับเขตพื้นที่การศึกษาราชบุรี พร้อม ๆ ติดทีมของวิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง ที่ตนเองเข้ามาศึกษา  จนสุดท้ายสามารถพาฝีเท้าอันเก่งกาจเข้าสู่การเป็นนักเตะตัวจริงของจังหวัดราชบุรีในที่สุด  
            ผมก็แค่ทำในสิ่งที่รักและชอบ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของคนอื่นในการพิจารณา ครูนิต กล่าวอย่างถ่อมตัว
             หลังจบการศึกษาจากวิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง ราชบุรี ครูนิต ก็ได้บรรจุเป็นครูที่โรงเรียนอันนาลัย ต.ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร  ซึ่งแน่นอนว่า ครูนิตไม่ทิ้งความรักในเกมส์ฟุตบอลอย่างแน่นอน โดยได้ทำการฟื้นฟูทีมฟุตบอลของโรงเรียนอันนาลัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นทั้งนักโค้ตและจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนในระแวกท่าฉลอม  เมื่อเด็กคนไหนมีแววในเชิงฟุตบอลแต่ยากจน  ครูก็จะเป็นธุระจัดการเรื่องเงินทุนการศึกษาให้เรียน พร้อม ๆ กับเล่นฟุตบอล เพื่อดึงความสนใจให้ห่างไกลยาเสพติด
            “ ผมทำทีมโรงเรียนอันนาลัย จากโรงเรียนที่แทบไม่รู้จักฟุตบอล จนเราสามารถคว้าแชมป์ระดับเยาวชนของจังหวัด เป็นตัวแทนจังหวัดไปแข่งระดับภาค ได้ทั้งลุ้นแชมป์  เป็นแชมป์หลายถ้วย  จนทีมสามารถทะลุไปแข่งระดับประเทศหลายครั้ง ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา”
            ครูนิต สอนอยู่โรงเรียนอันนาลัยอยู่ถึง 15 ปี จึงถูกเรียกตัวมาประจำที่โรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดี ในตำแหน่ง ครู คศ. 2  เพราะทางเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน ต้องการโค้ชมาดูแลทีมฟุตบอลของโรงเรียน  ซึ่งครูนิตก็ตอบตกลงและเริ่มเข้ามาฟื้นฟูทีม  โดยการหาเด็กใหม่เข้ามาเสริมทีม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่ขาดโอกาส และยากจน  ได้เอามาเล่นบอลและเรียนหนังสือไปพร้อม ๆ กัน โดยจัดการในรูปของโรงเรียนกีฬากินนอน
            “ถ้าเราจะสร้างทีมฟุตบอลให้แข็งแกร่ง การนำเด็กมาเก็บตัวแบบเต็มตัว หรือให้กินนอน ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะได้ทั้งความคล่องตัว และเรื่องระเบียบวินัย ซึ่งสำคัญมากในการทำทีมฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จ ”
            การนำเด็กมากินนอนเสมือนเป็นบ้านอีกหลัง แน่นอนว่าย่อมมีค่าใช่จ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งครูนิตเล่าให้ฟังว่า ได้รับความอนุเคราะห์จากหลายฝ่ายทั้งทางเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน ทางโรงเรียนเทศบาลวัดดอน กลุ่มผู้ประกอบการเบญจรงค์ดอนไก่ดี รวมถึงผู้ปกครองนักเรียน ที่ส่งลูกมาฝึกฟุตบอลกับครูนิต
            “ค่าใช้จ่ายสูงครับ หลายหมื่นอยู่ ก็คิดดูนะครับ เอาเด็กเกือบ 50 มากินนอน  มีทั้งอาหารคาวหวานครบ  3 มื้อ ไหนจะนมสด ที่ต้องบำรุงนักกีฬาอีก”    ครูนิตบอกเมื่อเราถามถึงยอดค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน
              ปัจจุบันโรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดีแห่งนี้มีทีมฟุตบอล 2 ทีม คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี กับรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ซึ่งรวม ๆ แล้วจะมีเด็กประมาณ 40-45 คน  ซึ่งผลงานที่ผ่าน ๆ มาก็คือ การแข่งขั้นกีฬาเทศบาลจากทั่วประเทศ ซึ่ง 2 ทีมนี้บางปีก็ได้แชมป์ระดับภาค  บางปีถึงขั้นทะลุเข้าไปแข่งระดับประเทศก็เคยมี 
            ถึงชั่วโมงนี้ก็ต้องยอมรับกันล่ะว่า ครูนิต คือ นักเจียระไนเพชรเม็ดงามแห่งวงการฟุตบอลเมืองสมุทรสาคร ที่ยากจะหาใครเทียบเทียม ซึ่งจากประสบการณ์ที่คลุกคลีกับวงการฟุตบอลมาหลายปี  ครูนิตคนนี้ได้สร้างนักเตะระดับเยาวชนขึ้นประดับวงการ เด็กหลายคนเมื่อเติบใหญ่ก็ได้เข้าไปเล่นฟุตบอลและฟุตซอลกับทีมสโมสรดังระดับชาติก็หลายทั้งคน  สร้างทั้งชื่อเสียง ความภาคภูมิใจให้กับตัวครูนิต รวมผู้ใหญ่ใจดีหลาย ๆ คนที่คอยให้ความสนับสนุนภารกิจของครูนิตอยู่เสมอมา
            ปัจจุบันนอกเหนือจากการเป็นโค้ชที่ได้รับการรับรองจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยแล้ว ครูยังเป็นกรรมการตัดสินฟุตบอลของสมาคมอีกด้วย ซึ่งความรู้ ความสามารถที่ได้รับการฝึกฝนมา ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญในการนำมาต่อยอดให้กับการพัฒนาวงการฟุตบอลเด็กของจังหวัดสมุทรสาคร  ซึ่งประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น คงไม่ใช่แค่วงการฟุตบอลอย่างเดียวได้รับการพัฒนา หากแต่เยาวชนของชาติ ก็จะได้รับการพัฒนาควบคู่ไปด้วย ทั้งร่างกาย ระเบียบวินัย และความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคม  ด้วยฝีมือจากพ่อคนที่  2 ของพวกเค้าที่ชื่อ ครูนิต …….

·       สำหรับผู้ใหญ่ใจดี ที่ต้องการสนับสนับทีมฟุตบอลเยาวชน สามารถติดต่อได้ที่โรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดี หรือ ที่เบอร์โทร. 089 - 6094314

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น