ตามที่ศาลจังหวัดสมุทรสาครได้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่
20 ธันวาคม 2555 กรณีที่นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์
อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม
2554 โดยมีนายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครคนปัจจุบัน
ซึ่งเป็นบิดาของผู้เสียชีวิต เป็นโจทก์ในการยื่นฟ้อง และมีนายครรชิต ทับสุวรรณ
ส.ส.สมุทรสาครเขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นจำเลยในคดีนั้น ปรากฏว่าเมื่อเวลา 08.50
น.ของวันนี้ นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาครฯ
ก็ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อร่วมรับฟังการสืบพยานโจทย์ครั้งแรก
ซึ่งตามกฎหมายระบุว่าต้องมีจำเลยมาร่วมรับฟังด้วย ขณะที่ฝ่ายของผู้เสียหายก็เดินทางมาที่ศาลในเวลาเดียวกันมีนายมณฑล
ไกรวัตนุสสรณ์ ,นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ น้องชายนายอุดรฯ คนในครอบครัวไกรวัตนุสสรณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง
มารับฟังการสืบพยานโจทก์ในครั้งนี้ที่ห้องบัลลังก์
8 โดยศาลได้เริ่มทำการสืบพยานโจทก์ปากแรกในเวลาประมาณ
10.30 น. ซึ่งในวันนี้ได้นัดสืบพยานโจทก์ทั้งหมด 4 ปากด้วยกัน ส่วนที่บริเวณด้านล่างหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร
ก็มีกลุ่มกองเชียร์ของทั้งสองฝ่ายมาเฝ้ารอให้กำลังใจ
ซึ่งแม้จะมีการพูดจากระทบกระเทียบกันบ้างเล็กน้อย
แต่เหตุการณ์ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งในเวลา 12.40 น. นางทัศนีย์ ทับสุวรรณ
มารดาของ ส.ส.ครรชิต ได้ลงมาจากศาลเป็นคนแรก ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
พร้อมกับพูดคุยกับกลุ่มที่มารอให้กำลังใจเกือบ 100 คน
ก่อนที่จะขึ้นรถออกไปจากบริเวณหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร
ต่อมาในเวลาประมาณ 12.55 น. นายมณฑล
ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีก็ได้ลงมาที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร
โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ใส่เสื้อจิตอาสา นายกอุดร และผู้ที่มาคอยให้กำลังใจเกือบ
100 คนเช่นกัน เข้ามาหาพร้อมกับแสดงความยินดีกับเฮียม้อ
ที่วันนี้กระบวนการยุติธรรมได้เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งทางด้านของนายมณฑลเองก็ได้เปิดใจว่าการเดินทางมาในครั้งนี้ตนเองไม่ได้เข้าไปนั่งฟังในห้องไต่สวนสืบพยานโจทย์
เพราะมีคนในครอบครัวเข้าไปรับฟังแล้ว
แต่โดยส่วนตัวก็เชื่อมั่นว่าความยุติธรรมยังมีอยู่จริง
เพราะพยานคนสำคัญที่มาให้ปากคำในวันนี้ เป็นบุคคลที่ไม่รู้จักใครเลยทั้งนายกตุ่น
หรือแม้แต่ผู้ที่ตกเป็นจำเลยในคดี
ซึ่งการพิจารณาคดีนั้นตนเองและครอบครัวก็อยากจะให้เรื่องนี้ดำเนินการให้เร็วที่สุด
เพราะยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งไม่เป็นการดีสำหรับฝ่ายโจทย์
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลที่ต้องทำไปตามกระบวนการ
ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้ถามกับนายมณฑลฯ
ว่า ในการสืบพยานโจทย์วันนี้เป็นวันที่ใกล้กับวันที่นายอุดรถูกยิงเสียชีวิตนั้น
ทางด้านของเฮียม้อมีอะไรที่อยากจะบอกกับดวงวิญญาณของอดีตนายก อบจ.หรือไม่ ซึ่งคำถามนี้ก็ทำให้นายมณฑล
ถึงกับตาแดงและพูดไม่ออก บอกได้เพียงแค่ว่า ความยุติธรรมกำลังเกิดขึ้นกับลูกชายแล้ว
จากนั้นก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร
และในเวลาประมาณ 13.15 น.
นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร
จำเลยในคดีก็ได้เดินลงมาขึ้นรถที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร
โดยมีกลุ่มคนที่เฝ้ารอเข้าไปให้กำลังใจพร้อมกับส่งเสียงเชียร์และมอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจ
ซึ่งนายครรชิตก็ได้กล่าวเพียงสั้นๆว่า เรื่องการสืบพยานโจทก์ในวันนี้
ตนเองมีหน้าที่เพียงแค่มานั่งรับฟังพร้อมกับทนายความอีก 4 คนเท่านั้น และโดยส่วนตัวก็ไม่เคยคิดหนีไปไหนตามที่มีกระแสข่าวออกมา
ส่วนเรื่องการต่อสู้คดีขอให้เป็นหน้าที่ของทนาย
และเรื่องการตัดสินคดีก็เป็นอำนาจหน้าที่ของศาลที่ท่านจะพิจารณา
โดยส่วนตัวไม่ขอพูดอะไรทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากที่นายครรชิตให้สัมภาษณ์สั้นๆ เสร็จแล้ว
ก็ได้ขึ้นรถขอตัวไปรับประทานอาหารก่อนที่จะกลับมารับฟังการสืบพยานโจทก์ต่อ โดยต้องใช้เวลายาวนานถึง
6 ชั่วโมง นับตั้งแต่การสืบพยานโจทก์ปากแรกจนถึงปากสุดท้าย
สำหรับการนัดสืบพยานโจทก์นั้น
ก่อนหน้านี้ศาลจังหวัดสมุทรสาครได้นัดนายครรชิต ทับสุวรรณ ให้มารับฟังการสืบพยานโจทก์ครั้งที่
1 เมื่อวันที่ 12 และ 13 ธันวาคม เวลา 09.00 – 10.30 น. ที่ผ่านมา
แต่นายครรชิตได้ยื่นเรื่องต่อศาลเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2555 ตามคดีหมายเลขดำที่
4591/2555 ขอเลื่อนมาเป็นวันที่ 20 ธันวาคม 2555 เนื่องจากติดภารกิจต้องเดินทางไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศกับคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬาสภาผู้แทนราษฎร
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น