pearleus

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561

โดนตรวจซ้ำซากโรงงานปล่อยกลิ่นเหม็นชวนอาเจียน ต.นาโคก สมุทรสาคร

 


                 เจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงตรวจที่เก็บกองขยะอิเล็กทรอนิกส์ในตำบลนาโคก หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านเจ้าของพื้นที่พบว่ามีการเตรียมเคลื่อนย้ายออกจากที่เก็บเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
 เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 ตุลาคม ทางเจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ลงตรวจสถานที่เก็บกองขยะอิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลนาโคก  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร รองปลัด อบต.นาโคก กำนันตำบลนาโคก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลนาโคก
ซึ่งการตรวจครั้งนี้เป็นการตรวจครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกได้ตรวจไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา และได้มีการขอความร่วมมือกันแบบปากเปล่าว่าอย่าเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ เพราะต้องรอการตรวจพิสูจน์ก่อนว่าขยะพวกนี้เข้าข่ายขยะอันตรายหรือไม่  และหลังจากนั้น ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลนาโคก พบว่ามีการเตรียมลำเลียงถุงบิ๊กแบ๊กบรรจุวัตถุเหล่านี้ออกนอกพื้นที่ จึงขอระงับไว้เพื่อการตรวจสอบก่อน
สำหรับการตรวจในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงานได้มีการเดินตรวจสอบวัตถุจากถุงต่างๆ โดยพบว่าส่วนใหญ่เป็นเศษที่บดละเอียดมาแล้ว มีทั้งชิ้นส่วนพลาสติก และแผงวงจร บางถุงพบชิ้นส่วนแบตเตอรี่
  ส่วนทางฝ่ายเจ้าของพื้นที่ ซึ่งบอกว่าเป็นชื่อของนายเหลียง ชาวจีน มาเป็นผู้เช่าต่อจากเจ้าของรายเดิม (โดยเจ้าของรายเดิมประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการทำสแตนเลศ เจ้าของเป็นตนไทย)  ตอนนี้มีการทำสัญญาเช่าแล้ว แต่ยังไม่มีการขออนุญาตประกอบกิจการแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบบัตรประจำตัวคนต่างชาติก็พบว่า เป็นวีซ่าท่องเที่ยวที่จะหมดอายุวันที่ 8 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นความผิด เพราะไม่ได้ขออนุญาตเข้ามาเพื่อทำงาน แต่อย่างไรก็ต้องตรวจสอบไปยัง ตม.ว่ามีการขอเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และจากการสอบถามถึงที่มาของวัตถุเหล่านี้ นายเทพ ยิ้มพาย ผู้ทำหน้าที่ช่วยประสานเรื่องต่างๆของสถานที่แห่งนี้ และนายบูรพา ทิมแจ ซึ่งเป็นผู้ดูแลสถานที่ ชี้แจงว่า มีการรับมาจากผู้ที่นำมาส่งหลายคน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นใครบ้างและเอาจากที่ไหน บอกว่าเป็นการซื้อแบบไม่มีลายลักษณ์อักษร เหมือนการซื้อขายแบบชาวบ้านทั่วไป และบอกว่าทำไปโดยไม่รู้ว่าที่ถูกต้องต้องทำอย่างไร ส่วนนายเหลียง ชาวจีน ผู้เช่ากิจการ ซึ่งได้อธิบายผ่านล่าม บอกว่า ส่วนใหญ่วัตถุนั้นจะมาจากจังหวัดระยองและชลบุรี ซึ่งคนที่นำมาส่งเหมือนกับเป็นพ่อค้าคนกลางอีกที แต่ยืนยันว่าไม่ได้นำเข้ามาจากต่างประเทศ และจะนำเอกสารการซื้อขายเท่าที่มีมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ภายในสิ้นเดือนนี้
ส่วนการดำเนินการกับวัตถุเหล่านี้ ทางเจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานให้ทางเจ้าของแบ่งการเก็บกองระหว่างเศษพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกออกจากกัน และให้ใช้พลาสติกคลุมป้องกันการชะล้างปนเปื้อน และห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายเข้าและออก จนกว่าจะทราบผลการตรวจพิสูจน์ ส่วนสถานที่แห่งนี้จะสามารถขอเปิดดำเนินการแบบถูกต้องได้หรือไม่ ก็ต้องรอหลักฐาน ว่าวัตถุเหล่านี้เป็นขยะอันตรายหรือไม่ นำเข้ามาจากที่ใด และจะขออนุญาตทำในรูปแบบใดด้วย
  และจากการสำรวจภายในสถานที่พบว่ามีการก่อสร้างอ่างร่อนกากขยะเหล่านี้แล้ว แต่การตรวจครั้งแรกนั้นยังสร้างไม่เสร็จ โดยมีทั้งหมดราว 4 เครื่อง และจากการสังเกตพบว่ามีชิ้นส่วนพลาสติกยังกองอยู่ที่เครื่อง คล้ายว่ามีการคัดแยกแล้ว ซึ่งผู้ดูแลสถานที่บอกว่า มีการทดลองเปิดเครื่องอยู่บ้าง ส่วนระบบบำบัดน้ำนั้น เท่าที่สังเกตยังไม่แล้วเสร็จ มีการสูบน้ำจากบ่อด้านข้างมาใช้แล้วก็ปล่อยออก แต่ทางผู้ดูแลสถานที่บอกว่า บ่อบำบัดจะอยู่อีกฝากฝั่งของโกดังนี้ เป็นระบบกรองน้ำแบบตู้ปลา ส่วนแรงงานคนอื่นที่พบจากการตรวจครั้งแรก ไม่พบคนอื่น นอกจากนายเหลียง ซึ่งครั้งนี้ บอกว่าตัวเองเป็นผู้มาเช่ากิจการต่อ
ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่ลงตรวจได้ให้ผู้นำชุมชนช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายออกและเข้า จนกว่าจะมีการพิสูจน์เป็นที่เรียบร้อย 
อย่างไรก็ตามก็ต้องขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่ให้ช่วยตรวจสอบแหล่งที่มาที่ไปของวัตถุเหล่านี้ด้วยว่ามาจากที่ใดกันแน่ มีอันตรายหรือไม่ และที่สำคัญนำเข้ามาจากต่างประเทศหรือเปล่า

 โดยเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 ดร.พสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แถลงข่าวถึงแนวทางการจัดการซากอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 5/2561 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ได้มีข้อสั่งการ ห้ามการนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมยกร่างคำสั่ง ห้ามใช้วัตถุดิบ ประเภทซากอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 มาตรา 32 (2) ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศ หรือสาธารณชน ส่วนกรณีของการนำเข้าเศษพลาสติกนั้นอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 ของกระทรวงพาณิชย์ แต่ได้มอบหมายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ดำเนินการออกใบอนุญาตนำเข้า ในส่วนนี้ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมก็จะใช้วิธีการออกคำสั่งกรมฯ ระงับการพิจารณาการออกใบอนุญาตให้ผู้นำเข้า
โดยที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วน ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ไปแล้วมี 3 แนวทาง คือ 1. ระงับการอนุญาตนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์ของโรงงานที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามอนุสัญญาบาเซลจำนวน 5 ราย เวลา 1 ปี ซึ่งเป็นโทษสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด 2. ผลักดันให้นำซากอิเล็กทรอนิกส์ส่งกลับโรงงานต้นทาง และ 3. กรณีนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกส่งต่อไปยังโรงงานที่ไม่ถูกต้องตามใบอนุญาต กรณีนี้หากตรวจพบให้ส่งกลับโรงงานที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งสั่งให้ผู้ประกอบการติดตั้งระบบ GPS และจัดส่งบันทึกเส้นทางการเดินรถ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงบริษัทผู้นำเข้า เพื่อป้องกันการลักลอบทิ้งระหว่างทางขนส่งอย่างเข้มงวด รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามข้อสั่งการของคณะกรรมการต่อไป
ส่วนทางนายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า การสั่งห้ามนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกครั้งนี้เป็นมาตรการถาวร ตามนโยบายรัฐบาลครั้งนี้มี 2 ส่วน คือ ในส่วนของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ก็จะออกประกาศระงับการพิจารณาขอใบอนุญาตนำเข้า ทั้งซากอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก ส่วนที่ 2 เป็นประกาศกระทรวง ห้ามใช้วัตถุดิบ ซากอิเล็กทรอนิกส์ และเศษพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศ























 
 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น