pearleus

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

"ระยอง ต้องลอง ต้องมา OTOP นวัตวิถี”เปิด40หมู่บ้านท่องเที่ยว มุ่งสร้างรายได้เศรษฐกิจท้องถิ่นยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ร้อยตรีพิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นประธานกล่าวเปิดงาน “โครงการเที่ยวชุมชนระยอง ต้องลอง ต้องมา OTOP นวัตวิถี กิจกรรมเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยว 3 เส้นทาง ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน สร้างรอยยิ้มคืนความสุขเพื่อคนไทย” มีผู้นำชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง พร้อมสื่อมวลชนจากแขนงต่างๆเดินทางลงพื้นที่



โดยว่าที่ร้อยตรี พิรุณ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและมุ่งเน้นการสร้างรายได้และความเจริญเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน จังหวัดระยองจึงได้จัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวแต่ละท้องถิ่น  กับการตลาดท่องเที่ยวภาคธุรกิจ ในระดับจังหวัด อำเภอ และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดรายได้กับชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึง กระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศให้มีความเข้มแข็ง

"กิจกรรมครั้งนี้จะช่วยสร้างการประชาสัมพันธ์ชุมชนท่องเที่ยวOTOP นวัตวิถี จ.ระยอง ให้เป็นที่รู้จักทำให้คนในชุมชนเกิดความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนาสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน"รองผู้ว่าฯระยองกล่าวและว่า  โครงการดังกล่าว เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยว 3 เส้นทาง โดยเลือกเยี่ยมชม 20 จุดท่องเที่ยวใน 8 อำเภอ จากทั้งหมด 40 หมู่บ้าน รวมระยะเวลา 6 วัน 5 คืน ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน

เพื่อสร้างรอยยิ้มคืนความสุขเพื่อคนไทย ดังนี้ 1.เส้นทางที่ 1: “ท่องเที่ยวเศรษฐกิจตามเส้นทาง EEC” ที่อำเภอบ้านค่ายและอำเภอนิคมพัฒนา 2.เส้นทางที่ 2: “ท่องเที่ยว มนต์เสน่ห์วิถีชาวเล” ที่อำเภอบ้านฉาง อำเภอเมืองและอำเภอแกลง 3.เส้นทางที่ 3: “ท่องเที่ยว อารยธรรม ดื่มด่ำธรรมชาติ” ที่อำเภอเขาชะเมา อำเภอวังจันทร์และอำเภอปลวกแดง

ว่าที่ร้อยตรี พิรุณ กล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสบรรยากาศจุดท่องเที่ยวทั้ง 40 หมู่บ้านของจังหวัดระยอง ที่มีเอกลักษณ์และสินค้าเฉพาะตัว เพื่อช่วยกันสนับสนุนสินค้าภายในชุมชน  สร้างการกระจายรายให้แก่เศรษฐกิจฐานรากและสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นภายในชุมชนได้อย่างแท้จริง

นายประเมิน อุมา หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน กล่าวรายงานถึงเส้นท่องเที่ยวชุมชนว่า เส้นทางที่ 1 "ท่องเที่ยวเศรษฐกิจตามเส้นทาง EEC" ที่อำเภอบ้านค่าย และอำเภอนิคมพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดระยอง สู่การท่องเที่ยวระดับโลก รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เส้นทางที่ 2 "ท่องเที่ยว มนต์เสน่ห์วิถีชาวเล" ที่อำเภอเมือง อำเภอแกลง และอำเภอบ้านฉาง สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมง เดินเที่ยวชุมชนที่ทำประมงเชิงอนุรักษ์ ชุมชนประมงเก่าแก่  เชื่อมต่อระหว่างน้ำจืดและน้ำทะเล เป็นแหล่งทำประมงพื้นบ้านและประมงน้ำลึกของชาวบ้านยังคงอนุรักษ์ไว้ และเส้นทางที่ 3 "ท่องเที่ยว อารยธรรม ดื่มด่ำธรรมชาติ" อำเภอเขาชะเมา อำเภอปลวกแดงและอำเภอวังจันทร์  เน้นการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเพื่อให้ชาวระยองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยการมีส่วนร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกประทับใจและช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เป็นการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวมาลองสัมผัสการท่องเที่ยวแบบชุมชน ชมความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งสามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าว เปิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2562 ณ ลานไอที สตาร์ ชั้น 1 โรงแรม Star Convention โดยนำสื่อและเครือข่ายเพื่อการท่องเที่ยวลงในพื้นที่ทั้งหมด 40 หมู่บ้าน ระยะเวลา 6 วัน จากวันที่ 29 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2562  สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางมาเยือนสอบถามได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดระยอง หมายเลขโทรศัพท์ 0-3869-4105 หรือเข้าไป เพจ เที่ยวชุมชน ระยอง ต้องลอง ต้องมา  https://www.facebook.com/rayongtourismthailand/

สำหรับเส้นทางการท่องเที่ยวในวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ 2562    เป็น 2 เส้นทางที่ 2 และ3 ทั้งหมด 12 หมู่บ้าน ในเส้นทางที่ 2  "ท่องเที่ยว มนต์เสน่ห์วิถีชาวเล" มีหมู่บ้านมาบจันทร์  หมู่ 7 ต.แกลง อ.เมืองระยอง หมู่บ้านธงหงส์  หมู่ 1 ต.กระเฉด อ.เมืองระยอง  หมู่บ้านเนินฆ้อ หมู่ 3 ต.เนินฆ้อ อ.แกลง  หมู่บ้านแสมผู้ หมู่7 ต.ปากน้ำประแสร์ อ.แกลง

หมู่บ้านอาบจันทร์ หมู่ 7 ต.แกลง อ.เมืองระยอง หมู่บ้านที่มีป่าเขาสลับกับแหล่งน้ำ จึงมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ป่าชุมชนสำนักสงฆ์ป่าสักอยู่บนเทือกเขายายดา อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับเป็นเส้นทางของนักปั่นจักรยาน ร่วมกิจกรรมการทำฝาย ณ โครงการป่าชุมชน ที่หมู่บ้านมาบจันทร์ อดีตเป็นพื้นที่แห้งแล้งเมื่อหน้าแล้งจะเกิดไฟป่า  ยามหน้าฝนจะเกิดดินถล่ม ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันทำฝายหินชลอน้ำ ซึ่งสามารถซ่อมแซมได้ตลอดเพราะเป็นพื้นที่เขาที่มีหินจำนวนมากใช้เป็นวัสดุในการทำฝาย

มีสวนสละสุมาลี เราแวะสวนของคุณระเบียบ สวนปลอดสารพิษเปิดให้พวกเราได้ชิมกันสดๆจากต้น และเรียนรู้การช่วยผสมเกสรของสละเพื่อเพิ่มผลผลิต แล้วชมสวนทุเรียนของคุณจรูญ ของฝากและสินค้าโอทอปขึ้นชื่อของที่มาบจันทร์ คือ สละลอยแก้ว ทุเรียนทอด น้ำพริกเห็ดฟู น้ำพริกทุเรียน และกล้วยกรอบแก้ว เป็นต้น

หมู่บ้านธงหงส์ อัตลักษณ์คือ เสาธงหงส์ เป็นไม้ตะเกาและหงส์สำริดที่ตั้งอยู่บนยอดเสาอยู่คู่หมู่บ้านมาแต่โบราณชาวบ้านนับถือมาก ในทุกเทศกาลจะมีการชักธงขึ้นสู่ยอดเสาหงส์ มีหลวงพ่อทอง ผู้ก่อตั้งวัดธงหงส์ เป็นที่นับถือบูชา วัดตั้งอยู่บนเนินเขาในหมู่บ้าน ร่มรื่น สงบ มีอาคารปฏิบัติธรรมรองรับผู้คนได้ถึง 300 คน มีลานอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไว้สักการะ ของฝากขึ้นชื่อคืองานจักสานจากเส้นพลาสติก ยาสระผม กระเป๋าสาน หมอนฟักทอง

หมู่บ้านเนินฆ้อ  เป็นพื้นที่ตัดกันระหว่าง 3 หมู่บ้าน ซินแสทำนายว่า 3 หมู่บ้านนี้เปรียบเสมือนมังกร ที่สามารถทำกินได้แต่ไม่ร่ำรวย เลยได้ให้ทำมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท ไว้สักการะบูชา  มีพื้นที่ป่าชายเลน 30 ไร่ ให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน  มีวัดวังหว้า ที่พัฒนาโดย หลวงปู่คร่ำ ยโสธโร พระที่มีอายุยืนยาวและมีเมตาธรรมสูง นอกจากพัฒนาวัดแล้วท่านยังให้ความสำคัญกับโรงเรียนวัดวังหว้าเป็นอย่างมาก มีหุ่นขี้ผึ้งและสรีระสังขารของท่านไว้บูชา

มีอาหารพื้นถิ่นขึ้นชื่อ "ขนมนิ่มนวล"ขนมไทยโบราณของที่นี่ ที่หาทานยากและทำยากเช่นกัน สินค้าโอทอปเป็น กะปิ น้ำปลา เคยอบแห้ง ชาใบขลู่ เป็นต้น

หมู่บ้านเนินทราย เป็นหมู่บ้านระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ทั้งน้ำและป่า เป็นพื้นที่ป่าโกงกางทั้งหมด 35 ไร่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง มีที่ท่องเที่ยวโดดเด่น คือ สะพานรักษ์แสม สะพานไม้เก่าแก่ยาวประมาณ 1  กม.เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตอนุรักษ์และเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ มีธนาคารปู มีทางเดินไม้ยาวชมความงดงามของป่าโกงกางและเรือนำชม  มีปูแสมจำนวนมาก  ยังเป็นแหล่งอาศัยของปูก้ามดาบ และด้วยระบบนิเวศที่สมบูรณ์ จึงได้รับขนานนามว่า "อเมซอนไทยแลนด์" อาหารขึ้นชื่อ หมี่ผัดกุ้งพื้นเมือง  กระยาสารทโบราณ ปลาเค็มแดดเดียว ปราหมึกแปรรูป ให้นักท่องเที่ยวได้ชิม ช้อป ด้วย

หมู่บ้านแสมผู้ ที่นี่เราได้สัมผัสความเรียบง่ายของวิถีคนท้องถิ่น  นั่งรถสามล้อพ่วงเพื่อล่องเรือชมธรรมชาติแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ,เดินชมป่าชายเลนที่สูงจนปกคลุมเส้นทางคล้ายอุโมงค์จนเข้าไปถึง"ทุ่งโปรงทอง" ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านใน อุดมสมบูรณ์และงดงามด้วยการสะท้อนแสงตามธรรมชาติ เป็นจุดเชคอินและถ่ายภาพได้สวยมาก ทุกคนสูดอากาศบริสุทธิ์ เข้าปอดกันจนเต็มอิ่มและอยากจะเก็บเอามาฝากคนรักกันเลยทีเดียว มีศาลเจ้าพ่อแสนผู้ เดิมเป็นศาลไม้เสาต้นเดียวที่ชาวบ้านสร้างไว้เพื่อขอให้หาปูปลาได้เพียงพอกับการยังชีพ เมื่อสำเร็จจึงสร้างศาลใหม่จนเป็นที่ศรัทธาและชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ   

เส้นทางที่ 3 "ท่องเที่ยวอารยธรรม ดื่มด่ำธรรมชาติ" ที่อ.ชะเมา ประกอบด้วย หมู่บ้านมะเดื่อ หมู่ 2 ต.เขาน้อย  หมู่บ้านเขาน้อย หมู่ 3   หมู่บ้านตะขบ หมู่  5 ,อ.วังจันทร์ มี หมู่บ้านบ้านคลองไผ่ หมู่ 3 ต.,หมู่บ้านแก่งหวาย หมู่ 6  ต.ชุมแสง และสุดท้าย อ.ปลวกแดง  หมู่บ้านพัฒนาผัง 2 หมู่ 6 หมู่บ้านชากมันเทศ หมู่ 4 ต.แม่น้ำคู้ 

หมู่บ้านมะเดื่อ พื้นที่ติดน้ำและเขาจำนวนมาก สถานที่ท่องเที่ยวเด่นคือ วัดถ้ำเขาโบสถ์ มีพระพุทธรูปปั้นมือสมัยอยุธยา  ภูเขาลักษณะเหมือนโบสถ์หลังใหญ่ ที่เป็นภูเขาพิงกัน มีต้นไม้พระเจ้าห้าพระองค์ อยู่ในบริเวณนี้ด้วย ,วัดถ้ำเขาลอย เป็นถ้ำหินปูนธรรมชาติหลากหลายชนิดยังเป็นแหล่งมรดกโลก สินค้าขึ้นชื่อ สัปปะรดกวน น้ำสัปปะรด ทุเรียนทอด ไข่เค็ม น้ำพริกเผา น้ำยาล้างจาน เป็นต้น

หมู่บ้านเขาน้อย ภูมิทัศน์ เป็นป่าไม้ ภูเขาและแหล่งน้ำ มีวัฒนธรรมบายศรีสู่ขวัญแก่นักท่องเที่ยวและแขกที่มาเยือน ที่นี่เรานั่งเรือลอดถ้ำเขาชะอางคร่อมคลอง เป็นภูเขาหินปูนธรรมชาติ มีน้ำไหลผ่านจนกลายเป็นถ้ำระยะทางที่ให้นักท่องเที่ยวได้ลอดชมประมาณ 350 เมตร ชมหินงอกหินย้อย ของฝากขึ้นชื่อ ทองม้วนสด ข้าวเกรียบฟักทอง ขนมดอกจอก กล้วยอบเลย กล้วยฉาบ เป็นต้น

หมู่บ้านตะขบ ไหว้พระวัดถ้ำวัฒนมงคล หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดถ้ำเจ้าคุณ มีโยมจากพัทยาถวายที่ดินเพื่อสร้างวัด ซึ่ง"ท่านเจ้าคุณ"จะเน้นเรื่องพระคุณของแม่ บุคคลใดปฏิบัติดีต่อแม่จะส่งผลเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิต มีสถานที่ชมวิวท้องนาอันกว้างใหญ่ หรือ "ฟ๊อกแลนด์ ดินแดนผืนนาชายป่าและทิวเขา" มีต้นไม้ปลิวไหวลู่ลม ซึ่งชาวบ้านสร้างกระท่อมหลังเล็กไว้เฝ้าช้าง ซึ่งอาจลงมาเยือนยามค่ำคืน ของช้อป มีข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวเหนียวแดง สัปปะรดกวน ตะกร้าก้านมะพร้าว ผักสดปลอดสารพิษ เป็นต้น

























หมูบ้านคลองไผ่  สองข้างทางมีภูมิทัศน์ร่มรื่นด้วยสวนยางพาราสลับกับป่าไม้ ชาวบ้านทำการเกษตรและสวนผลไม้ปลอดสารพิษเป็นหลัก มีของฝากเป็นชาดอกดาวเรือง และชาใบขลู่ ทำผักดองโบราณ มีการแสดงดนตรีจากชมรมผู้สูงอายุ เป็นการแสดงดนตรี รวมทั้งร้องเพลง ทั้งลูกทุ่งและลูกกรุง ณ ตลาดขวัญใจชาวไร่ เป็นตลาดที่ขายผลิตภัณฑ์และของดีของหมู่บ้าน การแสดงจะมีทุกวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น.




หมู่บ้านแก่งหวาย ความเป็นธรรมชาติของที่นี่ยังคงไว้ได้อย่างงดงาม ชาวบ้านทำการประมง สวนยางพารา บางส่วนก็ทำสวนผลไม้ปลอดสารพิษ มีโฮมสเตย์ไร่นายพล ตั้งอยู่ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำประแสร์ จัดประเพณีปล่อยโคมกะลา ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำโคมจากกะลา  เมื่อถ่ายภาพจากมุมสูงเห็นไฟระยิบระยับสวยงาม  เชื่อว่าเป็นการปล่อยทุกข์ปล่อยโศกไปกับสายน้ำ หากนักท่องเที่ยวสนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 085-699-7793

หมู่บ้านพัฒนาผัง 2 เป็นหมู่บ้านที่จัดตั้งโดยนิคมได้จัดสรรพื้นที่อยู่อาศัย ครัวเรือนละ 2 ไร่ และให้ที่ทำกินครัวเรือนละ 16 ไร่ ประกอบอาชีพเกษตรกร ทำไร่มันสัมปะหลังและยางพารา นั่งแพชมคลองควายขุดบ่อที่ไร่ไพรวัลย์ ซึ่งเป็นคลองแบบธรรมชาติ ขุดเพื่อช่วยเหลือด้านการอุปโภค-บริโภคและการเกษตรของราษฎรในพื้นที่

หมู่บ้านชากมันเทศ เพราะพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยดินทำให้มันเทศไปเกิดงอกงามอยู่ใต้ขอนหัวใหญ่ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า"ชากมันเทศ"ชาก หมายถึงมากมาย  ที่นี่มีสวนเมล่อนพิณกรีนฟาร์ม ปลูกเมล่อนทุกสายพันธุ์ หลักๆคือพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่น และที่มีชื่อเสียงที่นี่เรียกว่า"ระยองทองคำ" เมล่อน"บารมี"และผักผลไม้อื่นๆในเรือนกางมุ้งด้วย

เราปิดท้ายอำลากันที่นี่ด้วย ความเอร็ดอร่อยของแมล่อน หลากหลายเมนู ส้มตำ และหมูเส้น...หลังชิมแล้วต้องช้อป ติดมือกลับมาให้คนที่บ้านได้ลิ้มรสด้วย..แล้วเราจะกลับไปอีกระยอง...








0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น