pearleus

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครลุกฮือประท้วงเพื่อนตายในคุก


เมื่อ 16 มีนาคม 2556  ที่ผ่านมา นักโทษชายในแดน 4 ประมาณ 50 คน ของเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร รวมตัวประท้วงขว้างปาสิ่งของ ใช้ถังแก๊สทำลายกล้องวงจรปิด และพยายามที่จะลุกฮือกันมาที่ประตูทางเข้าออก เนื่องจากไม่พอใจที่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีนักโทษชาย ชื่อ สมชาย พีรานุวัฒน์ อายุ25 ปี ผู้ต้องขังในคดีพยายามฆ่าและค้ายาเสพติดเสียชีวิตลง โดยที่ทางผู้คุมไม่ไปนำศพออกมาส่งรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการประท้วงไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทางผู้คุมสามารถเข้าควบคุมไว้ได้ จนกระทั่งต่อมาในช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. นักโทษชายได้รวมตัวกันประท้วงอีกครั้ง คราวนี้สถานการณ์ได้ตรึงเครียดกว่าครั้งแรก เพราะได้มีการขว้างปาสิ่งของและทำลายทรัพย์สินทางราชการ นอกจากนี้จากแหล่งข่าวภายในยังบอกอีกว่ามีนักโทษคนหนึ่งพยายามที่จะปีนรั้วหนี แต่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนยิงขู่ 3 – 4 นัด ทำให้นักโทษรายนั้นกลับลงมารวมตัวประท้วงกับกลุ่มเพื่อนนักโทษด้วยกัน ซึ่งต่อมาประมาณ 30 นาทีหลังเกิดเหตุ ก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หรือผู้คุมที่นักโทษชายให้ความไว้วางใจเข้าไปเจรจาเพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นใช้เวลาประมาณ 15 นาที กลุ่มนักโทษที่ก่อเหตุเริ่มรับฟังและยอมหยุดการประท้วง แต่ยังไม่ยอมขึ้นเรือนนอนเพราะเกรงว่าหากขึ้นไปแล้วจะถูกจับแยกขัง ทั้งนี้เพื่อให้สถานการณ์ที่เริ่มคลี่คลายลงแล้ว กลับสู่ภาวะปกติทางผู้คุมจึงได้ปล่อยให้นักโทษทั้งหมดทำกิจกรรมต่างๆ ภายในสนามต่อไป เช่น เล่นกีฬา ทำความสะอาด และกินอาหารกันตามปกติ โดยไม่มีการบังคับให้ขึ้นเรือนนอนแต่อย่างใดทั้งสิ้น เนื่องจากเกรงว่าหากบังคับให้กลับขึ้นเรือนนอนในขณะนี้ ก็จะทำให้นักโทษที่รวมตัวประท้วงกลับมาใช้ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่กลุ่มนักโทษรวมตัวประท้วงก็คือ ต้องการให้มีคำสั่งย้ายนายวิโรจน์ ชุ่มชื่นจิต ทัณฑปฏิบัติ เนื่องจากเป็นผู้คุมที่มีความเข้มงวดมากโดยเฉพาะในเรื่องของการเข้าตรวจค้นเพื่อหาสิ่งต้องห้ามในเรือนนอน ด้านนายโสภณ ยิ้มปรีชา ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยในเบื้องต้นว่า การประท้วงในครั้งนี้ยังไม่เข้าขั้นรุนแรง เพราะไม่มีการจับผู้คุมเป็นตัวประกัน ไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่มีการแหกคุก ส่วนสาเหตุก็มาจากเมื่อเวลาประมาณ 02.10 น. ของวันที่ 16มีนาคม 2556 ทางผู้คุมเรือนจำได้รับแจ้งว่า มีต้องขังป่วยและถึงแก่ความตายชื่อนายสมชาย พีรานุวัฒน์ อายุ 25 ปี ซึ่งต้องโทษ 4 คดี ได้แก่ คดีที่ 1 ฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ,ความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืน มีโทษ 7 ปี 15 เดือน,คดีที่ 2 ละเมิดอำนาจศาล ตามหมายจำคุกระหว่างอุทธรณ์ฎีกา มีโทษ 4 เดือนแต่พ้นกำหนดโทษแล้ว,คดีที่ 3 คดีความผิดต่อชีวิต และ พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยศาลจังหวัดสมุทรสาครมีคำสั่งให้ปล่อยตัว และคดีที่ 4 ความผิดต่อชีวิต และพ.ร.บ.อาวุธปืน ศาลจังหวัดสมุทรสาครได้มีหมายขังระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง โดยให้ขังไว้ในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น  ซึ่งเมื่อนักโทษชายรายนี้เสียชีวิตลง ก็ทำให้นักโทษชายที่อยู่ในเรือนนอนเดียวกันไม่พอใจโดยกล่าวหาว่าผู้คุมนั้นไม่ได้ดูแลเพื่อนนักโทษชายที่เสียชีวิตโดยไม่ยอมพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งก่อนหน้านี้นักโทษรายดังกล่าวก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี เพราะเคยได้ให้แพทย์ตรวจสุขภาพก็ปกติไม่เป็นอะไร โดยเบื้องต้นก็คาดว่าน่าจะมาจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งก็จะได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าชันสูตรพลิกศพก่อน จึงจะนำศพออกมาจากเรือนนอนได้ ส่วนที่ผู้คุมไม่สามารถเข้าไปนำนักโทษชายที่เสียชีวิตออกมาตั้งแต่แรกได้นั้น ก็เพราะว่าช่วงเวลาดังกล่าวยังถือเป็นยามวิกาลซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้คุมหากจะเข้าไปในเรือนนอนของนักโทษ และกำลังผู้คุมที่เข้าเวร ก็ไม่เพียงพอต่อการดำเนินการ จึงได้แจ้งให้ผู้ต้องขังที่อยู่เรือนนอนเดียวกันห้ามเคลื่อนย้ายหรือแตะต้องศพอย่างเด็ดขาด กระทั่งต่อมามีนักโทษชายชื่อ กิตติศักดิ์ หรือโจ ยอดวงศ์ กับพวก 50 คน ไม่พอใจจึงได้รวมตัวกันประท้วงขว้างปาสิ่งของและพังประตู 4 บริเวณป้อม 1 เพื่อเข้ามาในที่ทำการควบคุมและทำลายทรัพย์สินของทางราชการเสียหายจำนวนหนึ่ง กระทั่งในที่สุดได้มีการส่งผู้คุมเข้าไปเจรจาและก็สามารถทำให้นักโทษทั้งหมดสงบลงจนสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติในที่สุด ส่วนทางด้านบริเวณภายนอกเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครนั้น พล.ต.ต.ธยาน์ฤทธิ์ เอกเผ่าพันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ก็ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 400 นาย มาควบคุมสถานการณ์ภายนอกเรือนจำ หากมีเหตุจำเป็นต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วย ก็จะสามารถเข้าปฏิบัติการตามคำสั่งได้ทันที ทั้งนี้ต่อมานายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เดินทางมารับฟังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น