pearleus

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2562

“แอนิเทค” เปิดตัวปลั๊ก anitechIOT ที่แรกในประเทศไทย เจาะกลุ่มคนรักบ้านอัจฉริยะ ชูนวัตกรรมสุดล้ำ ควบคุมการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน


บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย อุปกรณ์ประเภท คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ภายใต้แบรนด์ “แอนิเทค” (anitech) จัดงาน “anitechInnovation turns on your life” IOT PlatformwithData Analyticsเปิดตัวปลั๊ก anitech IOT ตอบโจทย์ความสะดวกสบายและการันตีความปลอดภัยผ่าน "มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม" (มอก.) พร้อมสาธิตการใช้งานเป็นครั้งแรกด้วยการควบคุมการสั่งงานผ่านanitechIOT Applicationรองรับระบบปฏิบัติการทั้งIOS และ Android เจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับบีบวกอัพ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมปลั๊กไฟไทย

นายพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ ประเภทคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้แบรนด์ “แอนิเทค” (anitech) เปิดเผยว่า แนวความคิดเริ่มต้นของการออกแบบปลั๊ก anitechIOT  เกิดจากการนึกถึง Sunlight  แสงอาทิตย์แรกยามเช้านั่นคือแสงแห่งชีวิตได้ตื่นขึ้นมาพบกับแสงวันใหม่พร้อมเติมเต็มพลังให้กับทุกๆชีวิตแอนิเทคจึงเลือกที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ทรงพลังด้วยการผสานเอกลักษณ์ในเชิงวัฒนธรรมกับความร่วมสมัย สะท้อนความเป็นมืออาชีพ และมาตรฐานสากลเข้าด้วยกัน ภายใต้แนวความคิด “นวัตกรรมด้านการดีไซน์ผสานความเป็นไทย เพื่อคนไทย” จึงออกมาเป็นตัวปลั๊กล้ำสมัยอย่างanitech IOTเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความสุขคู่บ้านคุณอย่างแท้จริง  



อีกทั้งในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่าเป็นยุคของ IOT (Internet of Things) อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันด้วยการใช้เพียงอุปกรณ์เดียวก็สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลากหลาย แอนิเทค จึงได้พัฒนาระบบการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันที่มีรูปแบบเรียบง่าย แต่มอบประสบการณ์ความสะดวกสบายสูงสุด เพื่อการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดขึ้นภายในบ้านอัจฉริยะโดยเทรนด์ของผู้บริโภคปัจจุบันการใช้งานแบบ IOT จะมีอยู่ 2 ปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดการซื้อมากที่สุดร้อยละ 75 ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ได้รับจากการใช้งาน ร้อยละ 68 เป็นการพิจารณาถึงประสิทธิภาพในการใช้งานที่คุ้มค่า เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดที่มาพร้อมความปลอดภัยและขาดไม่ได้ในเรื่องของความสะดวกสบายซึ่งปลั๊ก anitech IOT  คือคำตอบ


นายพิชเยนทร์  กล่าวว่า ก่อนหน้านี้แอนิเทคได้ทดลองพัฒนาปลั๊ก anitech IOT ในรุ่น H900 โดยใช้ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ ภายหลังพบปัญหาการพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ต่อเนื่อง   จึงตัดสินใจจัดตั้งทีมพัฒนาขึ้นเองในปลั๊ก anitech IOT รุ่น H1000 ออกแบบมาเป็น 4 Sockets ปุ่มเปิด-ปิด เป็นแบบ Touch Screen ตอบโจทย์เรื่องดีไซน์ที่ทันสมัย   แบ่งเป็น 4 ฟังก์ชันได้แก่ 1.ฟังก์ชันการตั้งค่าการเปิด-ปิด,2. ฟังก์ชันการเปิด-ปิดล่วงหน้าโดยระบุวันและเวลาได้ 3.ฟังก์ชันการตั้งค่าเปิด-ปิด แถมตั้งเวลานับถอยหลัง และ 4.ฟังก์ชัน Power Consumption  คือการแสดงค่าการใช้กำลังไฟฟ้าแบบ Real-Time พร้อมดูสถิติการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าย้อนหลังสูงสุดได้ถึง 3 เดือน ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชันanitech IOT Application บนสมาร์ทโฟนทั้งระบบ IOS และ Android เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะอยู่ภายในบ้านและนอกบ้านก็สามารถควบคุมได้ 
           นอกจากนี้ แอปพลิเคชันยังถูกออกแบบ User Interfaceทั้งหมดด้วยทีมดีไซน์คนไทย รวมถึงการเขียนและวางโครงสร้าง  Cloud Server ก็อยู่ในประเทศไทย ข้อดีคือเมื่อเกิดปัญการใช้ง่าย ด้านการ Service จะง่ายต่อการแก้ไขและประสานงาน  พูดได้เต็มปากว่านวัตกรรมโดยคนไทยเพื่อคนไทย 

สำหรับราคาของปลั๊ก anitech IOT เปิดตัวอยู่ที่ 2,590 บาท พร้อมการันตีด้วยวงเงินการรับประกันความเสียหายสูงสุด 5 แสนบาท นานถึง1 ปี  ในอนาคตจะพัฒนาปลั๊ก anitech IOT ให้มีระบบเซนเซอร์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น อาทิเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ การวัดแสง และการตรวจจับความเคลื่อนไหว มาเป็นข้อมูลใช้งานในการเปิด - ปิด ปลั๊กไฟเมื่อมีการเคลื่อนไหว ซึ่งลูกค้าสามารถกำหนดเงื่อนไขการทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้น 
          ทั้งนี้ปัจจุบันแอนิเทคได้ต่อยอดพัฒนาในรูปแบบของ B2B ซึ่งสามารถเข้าถึงประเภทธุรกิจLogistics, Smart City, Retail, Factory, Food, Hospital, Smart BuildingโดยIOT Platform with Data Analytics สามารถเก็บข้อมูลประเมินผลและวิเคราะห์ช่วยวางแผนแจ้งเตือนถึงความผิดปกติสามารถควบคุม ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น, ลดปัญหาการทำงานที่ไม่จำเป็นลง, ได้ Data ที่สำคัญมาวิเคราะห์ธุรกิจ โดยทาง anitechได้ทำการทดสอบการทำงานกับ Partner ประเภทร้านอาหารที่มาสาขาทั่วประเทศ
       นอกจากนี้ยังมี Service level ตลอด 24 ชั่วโมง ต่อ 7 วัน ไม่มีวันหยุด Service Maintenance ระดับมืออาชีพ พร้อมบริการหลังการขายในการให้ข้อมูลคำแนะนำต่าง ๆ ในการใช้งานได้รวดเร็ว ซึ่งเรามีทีมพัฒนา App และ Firmware เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการใช้งานและทำการ Update ให้ผู้ใช้งานอยู่เสมอในส่วนของมาตรฐานทาง Cyber security มีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสารหรือส่งข้อมูลระหว่าง Server กับแอปพลิเคชัน ซึ่งจะใช้การเข้ารหัส TLS 2048 บิต เป็นมาตรฐานของ Server สากล และ ส่วนของการ รับ-ส่ง ข้อมูลของตัวปลั๊กมีการตรวจสอบและระบุตัวตนของปลั๊กอย่างปลอดภัย ด้วยมาตรฐาน jwtecc256
              อย่างไรก็ตามการควบคุมด้วยคำสั่งเสียง และ data analytics dash board สำหรับ B2B เราจะพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับ B2B ให้สามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆแบบ Real-time และเพิ่มการทำงานของ Sensor รูปแบบต่าง ๆ นำข้อมูลมาผ่านกระบวนการ Data Analytics โดยจะแสดงในรูปแบบ Dash Board เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบสถานะการพัฒนาในเวอร์ชั่นถัดไปของแอปพลิเคชันเราจะพัฒนาให้มีการควบคุมด้วยคำสั่งเสียง ผ่าน Google Home หรือ Amazon Alexa ได้ด้วย 
             นายพิชเยนทร์ สรุปภาพรวมของบริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด เมื่อปี2561 ที่ผ่านมายอดขายในปี 2561 อยู่ที่ 330 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนชิ้นอยู่ที่ประมาณ  2  ล้านชิ้น เติบโตจากปี 2560 อยู่ที่ 25% งบประมาณการตลาดปีนี้อยู่ที่ 45 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10% ของรายได้ประมาณการณ์ในปีนี้  โดยงบประมาณในส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าในครึ่งปีหลัง บุกตลาดปลั๊กanitechIOT หรือ เป็น Product Highlightและตั้งเป้ายอดขายปลายปี 2562ไม่ต่ำกว่า 450  ล้านบาท

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น