pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ชาวสวนกล้วยไม้บางยาง“ระทมเจอวิกฤติ”น้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตร-ขาดน้ำจืดรดต้นไม้ “ร้องรัฐช่วย” อบต.ตามรวบรวมความเสียหาย

144140       วันที่ 25 ธ.ค.57 ชาวเกษตรกรสวนกล้วยไม้ ที่ ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กว่า 30 ราย นำโดยนายพิชยา เจริญสุขใส เจ้าของสวนกล้วยไม้ และมะม่วงกว่า 50 ไร่ ได้ร้องเรียนหลังมีชาวสวนนัดรวมตัวกัน ว่า ขณะนี้ได้เกิดปัญหาความเดือดร้อนกรณีน้ำเค็มรุกล้ำลำน้ำท่าจีนเข้าในเขตพื้นที่เกษตรกร ทำให้เกษตรกรขาดแคลนน้ำจืด เป็นเหตุให้รับผลกระทบเพราะไม่มีน้ำจืดใช้งานและไม่มีน้ำต้นไม้ อันเนื่องจากปัญหาน้ำเค็มรุกพื้นที่เข้ามา ทั้งนี้ชาวสวนกล้วยไม้ผู้เดือดร้อนซึ่งกำลังเก็บผลผลิตกล้วยไม้เริ่มจะเหี่ยวเฉาใกล้ล้มตาย สร้างความเสียหายมาโดยลำดับขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามล่าสุดหลังเกิดเหตุจากปัญหาดังกล่าว บางรายต้องหาซื้อน้ำเพื่อมาใช้รดน้ำกล้วยไม้แก้ขัด บางรายต้องว่าจ้างรถบรรทุกน้ำเพื่อมาบรรเทาความเสียหาย  “ขณะที่น้ำประปาหมู่บ้านของ อบต.บางยางที่สูบขึ้นมาบริการประชาชน โดยชาวสวนได้อาศัยนำมาใช้รดกล้วยไม้แก้ขัดเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า กระทั่งล่าสุดมีปัญหาบ่อสูบขึ้นแท็งก์น้ำประปาหมู่บ้านนั้นปั้มน้ำไหลไม่ทันใช้บางจุด นอกจากนี้บางรายต้องอาศัยจ้างรถดับเพลิงบรรทุกขนน้ำข้ามตำบลมาใช้รดต้นไม้ พร้อมกันนี้ยังมีปัญหาน้ำเสียถูกน้ำเค็มจากทะเลที่หนุนสูง ผลักดันเข้ามาสมทบทำให้น้ำในคลองมีสภาพขุ่นสีแดง สร้างความเสียหายให้แก่ชาวสวนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน”  จากการลงตรวจสอบขณะนี้มีการล่ารายชื่อผู้เสียหายไว้แล้วเพื่อร้องเรียนความเสียหายกว่า 30 รายต่อไป โดยมีนายสุเทพ ใจบางยาง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) หมู่ 12 ตำบลบางยาง 1 ในกลุ่มชาวบ้านผู้ร้องเรียนความเดือน เผยว่า ในรอบ 7 วันที่ผ่านมาหรือสัปดาห์นี้เกิดปัญหาของสภาพน้ำเค็มของทะเลและแม่น้ำท่าจีน ไหลรุกล้ำเข้ามาถึงลำน้ำซึ่งเป็นสาขาของท่าจีนมาตลอดทั้งสาย ซึ่งในรอบกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขนาดผักตบชาวยังตาย ไม่เคยมีมาก่อนโดยเขตบางยางนั้นชาวเกษตรกรยึดอาชีพทำสวนกล้วยไม้เป็นหลักมากที่สุดจึงได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้า เพราะไม่มีน้ำจืดใช้ทำการเพาะปลูกที่สำคัญใช้รดน้ำกล้วยไม้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากทาง อบต.ให้แล้ว แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มากนักเนื่องจากทาง อบต.เองก็ไม่มีงบประมาณเพียงพอเพราะเป็น อบต.ขนาดเล็ก ทำให้ช่วยได้แค่การใช้รถไปวิ่งไปขนน้ำจืดจากคลองแถบอำเภอบ้านแพ้ว เพื่อมาช่วยแจกจ่ายให้ชั่วคราว ซึ่งบางรายที่ผลิตกล้วยไม้ต้องยินยอมนำน้ำประปาในบ้านมาบรรเทาใช้รดกล้วยไม้แม้มีต้นทุนที่สูง เพื่อมิไม่ให้ต้นไม้ตาย     นายสุเทพ ส.อบต.บางยาง กล่าวว่า ขณะที่สาเหตุที่เกิดผลกระทบจากเรื่องน้ำเค็มทะลักดันเข้ามาถึงพื้นที่ชาวสวนบางยาง ซึ่งอยู่ห่างจากปากทะเลกว่า 50 -60 กิโลเมตร นั้นอันดับแรกน่าจะมาจากปัญหาของระดับน้ำบริเวณนี้ต่ำลงกว่าอดีต ขณะที่เขื่อนหรือประตูน้ำ (แก้มลิงโคกขาม) ก็ปล่อยระบายน้ำออกลงทะเลมีปริมาณน้อยกว่าปรกติ ส่งผลให้ลำคลองแถบบางยางมีน้ำน้อยลงไปด้วย เป็นเหตุให้แม่น้ำท่าจีนซึ่งมีสภาพเค็มอยู่ จึงสร้างปัญหาให้แก่ชาวสวนดังกล่าวขึ้น ซึ่งพื้นที่บางยางทั้งตำบล ล้วนติดลำน้ำท่าจีนทั้งหมดรวมทั้งสิ้นมี 12 หมู่ อย่างไรก็ตาม ในฐานะตัวแทนชาวบ้าน จึงฝากเรียกร้องไปยังผู้เกี่ยวข้องของทางจังหวัด เร่งหาวิธีดำเนินการลงช่วยเหลือชาวสวนกล้วยไม้เพื่อบรรเทาปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

นายเศกสรรค์ ฮีสวัสดิ์ (นายกโอ) นายก อบต.บางย
      สอบถามนายเศกสรรค์ ฮีสวัสดิ์ (นายกโอ) นายก อบต.บางยาง ล่าสุดขณะรวบรวมผลหลังเกิดประเด็นปัญหาน้ำเค็มหนุนทะลักเข้าแหล่งพื้นที่เกษตร 100 % ของบางยางและความเสียหาย ได้เตรียมเข้ารายงานต่อทางจังหวัดเพื่อให้ได้รับทราบผลการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวสวนกล้วยไม้แล้วเพื่อเป็นการประคับประครองยืดอายุความสูญเสียของผลผลิตทั้งกล้วยไม้ สวนมะม่วง และฝรั่ง อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ประสานขอความช่วยเหลือจาก อบต.ท่าเสา และ อบต.ใกล้เคียง เพื่อขอยืมรถดับเพลิงมาใช้บรรทุกขนน้ำจืดจากต่างตำบลเข้ามาแจกจ่ายแก่ชาวบ้าน ตลอดจนติดต่อยืมเครื่องสูบน้ำ ของ อปท.ในเขตตำบลอ้อมใหญ่ จ.นครปฐม เพื่อเตรียมสูบน้ำจืดในคลอง ผ่านเข้ามาในพื้นที่บางยาง เพื่อยกระดับน้ำจืดให้สูงขึ้นและเป็นการดันน้ำเค็มของท่าจีน ที่ทะลักเข้ามา หวังให้กลับไป 144145 144147 144149 144155
             นายก อบต.บางยางกล่าวว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจล่าสุดตนได้ประสานกับทางชลประทานจังหวัด ปรากฏว่าปัญหานี้เกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่วนเหนือปล่อยน้ำลงมาน้อยด้วย ดังนั้นความเดือดร้อนจากเหตุน้ำเค็มทะลักเข้าเขตบางยางนั้นยังอยู่อีกนานไม่ต่ำกว่า 4 เดือนซึ่งยอมรับว่าหลีกเลี่ยงได้ยากมาก

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น