pearleus

วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โรงเรียนวัดธรรม อ. บ้านแพ้ว "ป่วน"กก.ร้อง คสช.สอบ

นายสมชาย บุตรเลียบ ฐานะประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานประจำโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร พร้อมผู้ปกครองนักเรียน ได้เข้าร้องเรียนว่า จากกรณีปัญหาคาราคาซังค้างเก่าที่มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้คับข้องใจจึงเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการประจำโรงเรียนและหน่วยงานอื่นเกี่ยวข้อง หลังเกิดความไม่โปร่งใสในการใช้อำนาจบริหารโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ และการใช้งบประมาณกรณีเกี่ยวกับโครงการสนับสนุนค่าครองชีพแก่นักเรียน ตามที่นโยบายโครงการเรียนฟรี 15 ปี (450 บาทต่อคน) อ้างส่อเกิดความทุจริตกรณีหลังมีการแจกอุปกรณ์เครื่องแบบนักเรียนที่ไม่ตรงต่อความต้องการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่บรรดานักเรียนและผู้ปกครอง ต่อมาจึงพากันเข้าร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม และให้ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้อำนาจมิชอบของโรงเรียน โดยระยะเวลาได้ผ่านมานานพอสใควรแล้วแต่ยังไม่ได้คำตอบ
     
  นายสมชาย เผยว่า สำหรับคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนฯ มีทั้งนายก อบต.หลักสาม ร่วมเป็นคณะกรรมการโรงเรียน ที่ผ่านมากรรมการได้ร้องเรียนความเดือดร้อนเข้ามามากในข้อสังเกตส่อทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของโรงเรียน (ที่มีนายบัณฑิตย์ ลิมปนชัยพรกุล ผอ.โรงเรียน) อย่างเช่น กรณีแจกอุปกรณ์เครื่องแบบให้แก่เด็กนักเรียนในลักษณะถูกยัดเยียดที่ไม่ตรงกับความจำเป็น เช่น เข็มขัด ถุงเท้า กระเป๋านักเรียน และรองเท้า เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์ไม่สอดคล้องกับหลายรายที่นักเรียนมีอยู่แล้ว ส่งผลให้มีปัญหาความขัดแย้งตามมา
   นอกจากนี้มีเรื่องปัญหาการสั่งโยกย้ายร้านค้าเก่าแก่ในโรงเรียนให้พ้นออกจากโรงเรียนซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ที่ผ่านมาจึงพร้อมตัวแทนผู้ปกครองกว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ร...อาทิตย์ บุญญะโสภัต ผวจ.สมุทรสาคร และถัดมาได้เข้ายื่นส่งหนังสือร้องยัง คสช. ผ่านทางทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน อ.กระทุ่มแบน เพื่อหวังให้หน่วยงานต้นสังกัดตั้งกรรมการตรวจสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อแก้ความไม่ชอบมาพากลที่ยังคาราคาอยู่"
    “
       นายสมชายกล่าวว่า ส่วนปัญหากรณีเรื่องการขับไล่ร้านค้าเก่าขายน้ำประจำโรงเรียน ซึ่งเกิดเรื่องขึ้นประมาณ พ.ค.57 หลังจู่ๆได้มีคำสั่งว่าจะมีผู้ค้ารายใหม่เข้ามาประมูลแข่งขันกับรายเดิม (คือบริษัทซันดิว) ต่อมาก็มีการเลื่อนเวลาประมูลไปก่อนเพื่อความเหมาะสม อย่างไรก็ตามโดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นล้มเหลว โดยรายใหม่ยังไม่เข้ามาค้าขาย แต่ร้านค้ารายเก่าแก่ต้องถูกสั่งให้พ้นออกจากพื้นที่ เป็นเหตุให้ล่าสุดได้มีการจัดครูทิ้งการสอนเพื่อมาขายน้ำดื่มและขนมให้กับนักเรียนแทน ทั้งนี้สร้างความอึดอัดไม่พอใจให้แก่บรรดานักเรียนและคณะกรรมการประจำโรงเรียน ในยุคปรับเปลี่ยนผู้บริหารคนใหม่
         "จากการสอบถามปัญหานักเรียนและผู้ปกครองต่างไม่พอใจในการจ่ายเงินช่วยเหลือนักเรียนของงบในโครงการเรียนฟรี 15 ปี (ทั้งระดับชั้นประถมและมัธยม) ของทางโรงเรียนที่จะต้องได้รับเงินอุดหนุนผู้ปกครอง 450บาทต่อเด็กหนึ่งคน เพื่อนำไปใช้ซื้อเกี่ยวกับการเรียนหรือเครื่องแบบ ปรากฏว่า หลายรายได้เป็นชุดนักเรียนแทนเงิน 450 .โดยผู้ปกครองไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้ามาก่อน ขณะที่บางรายได้ของไม่จำเป็นมา อาทิ ได้นำถุงเท้า 8 คู่, บางรายได้กระเป๋านักเรียนจำนวน 2 ใบ และบางรายได้เข็มขัดถึง 3 เส้น โดยสิ่งเหล่านี้ต่างยืนยันว่าสิ่งของที่ได้จากโรงเรียนยัดเยียดให้มาไม่ได้เกี่ยวข้องกับความจำเป็นซึ่งก็มีกันอยู่แล้ว "ทั้งนี้ส่วนใหญ่ต่างต้องการได้รับเป็นเงินสดแทน เพื่อจะได้ไปหาซื้ออุปกรณ์ตามที่ต้องการและจำเป็น ซึ่งอาจจะมีราคาสูงกว่าหรือน้อยกว่างบประมาณ 450บาทของทางโรงเรียนจัดให้ เช่นเดียวกับโรงเรียนอื่นๆเขาปฏิบัติกัน
    
  ด้านนางห่อ มหาปราบ อายุ 45 ปี ชาวตำบลหลักสาม ท้องที่เดียวกับโรงเรียน ซึ่งเป็นแม่ค้าน้ำดื่มและขนมปัจจุบันตั้งอยู่ข้างรั้วโรงเรียนฯ เปิดเผยว่า อดีตก่อนหน้าตนมีร้านค้าปักหลักในโรงเรียนเพื่อขายน้ำดื่มและหวานทั้งขนมมาก่อน ซึ่งมีทั้งนักเรียนประถมและมัธยมมากว่า 30 ปีแล้ว ผ่าน ผอ.มากว่า 10 คน กระทั่งจนลูกหลายเรียนก็เรียนจบไปหลายคนแล้ว ยืนยันว่าที่ผ่านมานั้นก็ไม่เคยเจอปัญหากระทบกระทั่งกับผู้บริหารรายใดแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังได้ช่วยเหลือปัจจัยแก่โรงงานตลอดมา ขายมาตั้งแต่สมัยนั้นมีจำนวนนักเรียนกว่า 1,000 พันคน แต่ขณะนี้น้อยลงเหลือราว600 คน ซึ่งเน้นขายในราคาถูกเป็นหลักเพราะเด็กนักเรียนก็ไม่ค่อยมาเงิน อย่างไรก็ตามล่าสุดหลังถูกสั่งย้ายออกมาก็ยังมีลูกค้านักเรียนมาอุดหนุนจำนวนมากแม้เด็กถูกสั่งไม่ให้มาซื้อกินก็ตาม
      "สำหรับเรื่องเงินค่าบำรุงอุดสนุนเงินช่วยเหลือแก่ทางโรงเรียนหรือค่าเช่าที่ผ่านมาเรียกเก็บค่าเช่ารายปีๆละประมาณ 5-6 หมื่นบาท ไม่รวมปัจจัยช่วยเหลือโรงเรียนด้านอื่นๆ โดยล่าสุดตนยังได้ซื้อรถตู้ป้ายแดง (เงินผ่อน) จัดมอบให้แก่โรงเรียนคันละกว่า 1.2 ล้านบาทเพื่อไว้ใช้งานอย่างเต็มใจ อย่างไรก็ตามกระทั่งเดือน พ..57 ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งให้ทางร้านแข่งขันชิงประมูลกับร้านค้ารายใหม่ 1 ราย พร้อมมีข้อแม้ขึ้นใหม่เข้ามาคือ ให้ขายน้ำหวานในราคาแก้วละ 5 บาท ในช่วงเช้าถึง 12.00 .หรือเที่ยง ขณะที่ช่วงบ่ายได้ขายน้ำดื่มขาดขุ่นขวดละ 5 บาทและขวดใสราคา 7 บาท ซึ่งเงื่อนไขค่อนข้างบังคับมากไปหน่อย"
     อดีตแม่ค้าโรงเรียนวัดธรรมฯ เผยด้วยว่า ต่อมาก็มีข้อกำหนดคำสั่งระบุให้ตนเสนอราคาประมูลแข่งขันร้านขายของดังกล่าวเป็นรายปี แต่ไม่นานก็มีการสั่งเลื่อนไปหลายครั้ง กระทั่งมาทราบอีกครั้งภายหลังว่าให้ตนย้ายร้านค้าออกพ้นโรงเรียนไป เนื่องจากมีผู้ค้ารายใหม่เสนอมาให้ผลตอบแทนให้แก่โรงเรียนที่มากกว่า ทั้งนี้หลังเกิดปัญหาขั้นตอนการปฏิบัติของโรงเรียนไม่โปร่งใสขึ้นตนจึงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม "อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ผู้ค้าที่ชื่อบริษัทซันดิว รายใหม่ก็ยังไม่มา ขณะที่ร้านเก่าของฉันก็ถูกไล่พ้นรั้วออกมา ซึ่งล่าสุดทางโรงเรียนได้จัดครู (อ.วิภา) มานั่งขายน้ำขายขนมให้นักเรียนเอง ทั้งที่จริงแล้วเป็นครูต้องไปสอนหนังสือนักเรียน" 
      คณะกรรมการโรงเรียนวัดธรรมฯ  เล่นไม้เด็ด นัดปิดโรงเรียนยื่นเสนอ คสช.3 ข้อ"ไล่ ผอ.เหตุไม่พอใจบริหารความโปร่งใส-ไล่แม่ค้าเก่าค่ายทหารรับทราบ  จากกรณีบรรดาผู้ปกครองนักเรียนและคณะกรรมการประจำโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ได้พากันร้องเรียนคณะผู้บริหารฯ อ้างเกิดความไม่โปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ภายงานภายในโรงเรียน และการใช้อำนาจในงบประมาณเกี่ยวกับโครงการสนับสนุนค่าครองชีพแก่นักเรียนตามที่นโยบายโครงการเรียนฟรี 15 ปี ที่ถูกยัดเยียดสิ่งของอุปกรณ์การเรียนและเครื่องแบบแต่งกายไม่ตรงกับความต้องการ เป็นเหตุให้มีนักเรียนและผู้ปกครอง ที่มีนายสมชาย บุตรเลียบ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานประจำโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ แกนนำชาวบ้าน 50 คน เข้าร้องเรียนต่อ ผวจ.และ คสช.เพื่อขอให้  ตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในปัญหาคณะผู้บริหาร และโยกย้าย นายบัณฑิตย์ ลิมปนชัยพรกุล  ผอ.โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ออกพ้นจากสถานศึกษา ซึ่งระยะล่วงเลยผ่านระยะมานานพอสมควรแต่ยังไม่ได้คำตอบ ปรากฏว่า...ล่าสุดมีรายงานคืบหน้าว่า นายสมชาย บุตรเลียบ ปธ.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนฯ เผยว่า ได้เข้าติดตามเพื่อทวงถามด้วยตนเองต่อทาง คสช.พร้อมยื่นหนังสือที่มีข้อเสนอรวม 3 ข้อ ผ่านทางทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชร อ.กระทุ่มแบน ถึงความคืบหน้าในข้อเรียกต้องข้างต้น ประกอบด้วย ข้อ1.ให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ภายใน 24 ชั่วโมง, ข้อ 2.เร่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผ.อ.ชุดใหม่ (ซึ่งไม่ใช่ ส.พ.ม.ที่เคยเพิกเฉยต่อปัญหาในโรงเรียนฯ) และ ข้อ 3.ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคณะกรรมการสอบสวนคณะชุดปัจจุบันว่าช่วยเหลือพวกพ้องหรือไม่ เนื่องจากได้เลยกำหนดเวลาชี้แจงตอบข้อเรียกร้องของชาวบ้าน ที่เคยยื่นร้องเรียนและถูกนัดมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
   นายสมชายกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้แจ้งบอกกล่าวทางค่ายทหารฯให้ทราบ โดยวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ยืนยันจะมีประชาชนทั้งบรรดาผู้ปกครองที่ต่างไม่พอใจ นายบัณฑิตย์ ลิมปนชัยพรกุล  ผอ.โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์  นัดรวมตัวจำนวนมากมาปิดโรงโรงเพื่อกดดันผู้เกี่ยวข้องอย่างแน่นอนตั้งแต่ เวลา 9.00 น. ซึ่งไม่มีการต่อรองแล้ว จึงขอให้ทหารจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลสถานการณ์ให้ด้วย
    นายสมชาย ได้ให้ดูหนังสือที่แจ้งไปถึง คสช.มีใจความว่า ผมเชื่อว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ทำการปราบปรามคอรัปชั่นอย่างจริงจังในเหตุทุจริตที่เกิดขึ้นในชุมชนทั่วประเทศซึ่งมีเป็นพันๆแห่ง ขณะที่โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ อ.บ้านแพ้ว ในภาครัฐนี้ก็มีปัญหาความไม่โปร่งใสส่อทุจริต โดยหากสามารถจัดการใน 3 ข้อเรียกร้องให้แล้วเสร็จนั้น ทางคณะกรรมการสถานศึกษาประจำโรงเรียนวัดธรรม เต็มใจจะลาออกกันทุกคนต่อไป  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดต่อสอบถามถึงความเคลื่อนไหวดังกล่าวไปยังผู้บังคับการกองทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ได้รับคำตอบว่าได้ทราบเหตุการณ์ที่ร้องเรียนเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางค่ายกำแพงเพชรกำลังระหว่างดำเนินการตามที่ร้องขอให้ช่วยอยู่
   บ้านแพ้วจ่อระดม 400 นัดชาวบ้านปิด รร.วัดธรรมฯไล่ ผอ.ส่อทุจริตเหตุไร้ทางเลือก
     จากกรณีนายสมชาย บุตรเลียบ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานประจำโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ฐานะแกนนำชาวบ้าน 50 คน ที่เข้าร้องเรียนต่อปัญหาความไม่โปร่งอ้างส่อทุจริต ในการบริหารงานของคณะผู้บริหารงานของในโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ต่อหลายหน่วยงาน และ คสช.เพื่อขอให้จัดตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงแก้ปัญหา และสั่งโยกย้าย ผอ.ออกพ้นจากโรงเรียน เช่น โครงการแจกอุปกรณ์แก่นักเรียนภายใต้มนโยบายเรียนฟรี 15ปี ที่ช่วยค่าครองชีพผู้ปกครอง (วงเงินรายละ 450 บาท) ซึ่งไม่ตรงต่อความจำเป็นและความต้องการของบรรดาผู้ปกครองนักเรียน และขั้นตอนโครงการเปลี่ยนร้านค้าน้ำดื่มในโรงเรียนสภาพไม่โปร่งใสไร้ ขับไล่ร้านค้าเก่าพ้นโรงเรียน และอื่นๆขัดต่อหลักการคณะกรรมการฯ เป็นเหตุให้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนมาก โดยต่อมาก่อนหน้า นายสมชาย บุตรเลียบ ยังได้เข้าทวงถามความคืบหน้าต่อตัวแทน คสช.พร้อมมีหนังสื่อ 3 ข้อเสนอ อาทิ สั่งย้าย ผอ.พ้นโรงเรียนทันที และตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อสอบปัญหาความไม่โปร่งใสผู้บริหารฯ โดยมีบอกนัดชาวบ้านร่วมปิดโรงเรียนช่วยขับไล่ ผอ.อย่างแน่นอน ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.เพื่อจะแถลงข้อเท็จจริงของปัญหาที่ผ่านมา ต่อเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน อ.กระทุ่มแบน ในฐานะตัวแทน คสช.ที่ได้รับทราบเรื่องมาโดยตลอดว่าระยะเวลาล่วงเลยมานานพอสมควร    ปรากฏว่าล่าสุด (21 ธ.ค.57) นายสมชาย ประธานคณะกรรมการประจำโรงเรียนฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเสียงจากบรรดาชาวบ้านในตำบลหลักสาม และผู้ปกครองนักเรียน ในสัญญาณร่วมนัดดำเนินการปิดโรงเรียนตามที่ได้มีกำหนดนัดหมายไว้แล้ว จากผู้นำชุมชนท้องถิ่น และนายก อบต.หลักสาม พร้อมพากันออกเรียกร้องผู้มีอำนาจช่วยแก้ไขปัญหาปฏิบัติหน้าที่ไม่โปร่งใส ซึ่งจะรวมกันแล้วประมาณ 400 คน ที่ต่างไม่พอใยผู้บริหารโรงเรียนคนล่าสุดนี้  นายสมชาย กล่าวด้วยว่า เหตุดังกล่าวซึ่งตนได้เข้าร้องเรียนเรื่องปัญหานี้มานานมากพอแล้วตั้งแต่ ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่คืบหน้าล่าสุดยังได้เข้าทวงถามต่อตัวแทน คสช.ยังค่ายกำแพงเพชรอ.กระทุ่มแบน พร้อมมีหนังสื่อ 3 ข้อเสนอ เช่น ย้าย ผอ.พ้นโรงเรียน และสั่งตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อสอบปัญหาความไม่โปร่งใสผู้บริหาร โดยมีบอกนัดชาวบ้านร่วมปิดโรงเรียนช่วยขับไล่ ผอ.อย่างแน่นอนตามวันเวลาข้างต้น โดยจะแถลงข้อเท็จจริงของปัญหาในที่สาธารณะต่อเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธินในฐานะตัวแทน คสช.ที่ได้รับทราบเรื่องมาโดยตลอดว่าระยะเวลาเรียกร้องล่วงเลยมานานหลายเดือนแล้วจึงต้องปิดเท่านั้นเพราะเราไร้ทางออก
   บ้านแพ้วจ่อระดม 400 นัดชาวบ้านปิด รร.วัดธรรมฯไล่ ผอ.ส่อทุจริตเหตุไร้ทางเลือก
      จากกรณีนายสมชาย บุตรเลียบ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานประจำโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ฐานะแกนนำชาวบ้าน 50 คน ที่เข้าร้องเรียนต่อปัญหาความไม่โปร่งอ้างส่อทุจริต ในการบริหารงานของคณะผู้บริหารงานของในโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ต่อหลายหน่วยงาน และ คสช.เพื่อขอให้จัดตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงแก้ปัญหา และสั่งโยกย้าย ผอ.ออกพ้นจากโรงเรียน เช่น โครงการแจกอุปกรณ์แก่นักเรียนภายใต้มนโยบายเรียนฟรี 15ปี ที่ช่วยค่าครองชีพผู้ปกครอง (วงเงินรายละ 450 บาท) ซึ่งไม่ตรงต่อความจำเป็นและความต้องการของบรรดาผู้ปกครองนักเรียน และขั้นตอนโครงการเปลี่ยนร้านค้าน้ำดื่มในโรงเรียนสภาพไม่โปร่งใสไร้ ขับไล่ร้านค้าเก่าพ้นโรงเรียน และอื่นๆขัดต่อหลักการคณะกรรมการฯ เป็นเหตุให้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนมาก โดยต่อมาก่อนหน้า นายสมชาย บุตรเลียบ ยังได้เข้าทวงถามความคืบหน้าต่อตัวแทน คสช.พร้อมมีหนังสื่อ 3 ข้อเสนอ อาทิ สั่งย้าย ผอ.พ้นโรงเรียนทันที และตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อสอบปัญหาความไม่โปร่งใสผู้บริหารฯ โดยมีบอกนัดชาวบ้านร่วมปิดโรงเรียนช่วยขับไล่ ผอ.อย่างแน่นอน ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.เพื่อจะแถลงข้อเท็จจริงของปัญหาที่ผ่านมา ต่อเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน อ.กระทุ่มแบน ในฐานะตัวแทน คสช.ที่ได้รับทราบเรื่องมาโดยตลอดว่าระยะเวลาล่วงเลยมานานพอสมควร     21 ธ.ค.57  นายสมชาย ประธานคณะกรรมการประจำโรงเรียนฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเสียงจากบรรดาชาวบ้านในตำบลหลักสาม และผู้ปกครองนักเรียน ในสัญญาณร่วมนัดดำเนินการปิดโรงเรียนตามที่ได้มีกำหนดนัดหมายไว้แล้ว จากผู้นำชุมชนท้องถิ่น และนายก อบต.หลักสาม พร้อมพากันออกเรียกร้องผู้มีอำนาจช่วยแก้ไขปัญหาปฏิบัติหน้าที่ไม่โปร่งใส ซึ่งจะรวมกันแล้วประมาณ 400 คน ที่ต่างไม่พอใยผู้บริหารโรงเรียนคนล่าสุดนี้    นายสมชาย กล่าวด้วยว่า เหตุดังกล่าวซึ่งตนได้เข้าร้องเรียนเรื่องปัญหานี้มานานมากพอแล้วตั้งแต่ ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่คืบหน้าล่าสุดยังได้เข้าทวงถามต่อตัวแทน
คสช.ยังค่ายกำแพงเพชรอ.กระทุ่มแบน พร้อมมีหนังสื่อ 3 ข้อเสนอ เช่น ย้าย ผอ.พ้นโรงเรียน และสั่งตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อสอบปัญหาความไม่โปร่งใสผู้บริหาร โดยมีบอกนัดชาวบ้านร่วมปิดโรงเรียนช่วยขับไล่ ผอ.อย่างแน่นอนตามวันเวลาข้างต้น โดยจะแถลงข้อเท็จจริงของปัญหาในที่สาธารณะต่อเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธินในฐานะตัวแทน คสช.ที่ได้รับทราบเรื่องมาโดยตลอดว่าระยะเวลาเรียกร้องล่วงเลยมานานหลายเดือนแล้วจึงต้องปิดเท่านั้นเพราะเราไร้ทางออก



4 ความคิดเห็น:

ออกไป
ออกไป
อกกไป

ต้องหาคนดีเข้ามาดีกว่านะชาวบ้าน

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

แสดงความคิดเห็น