วิบากกรรม "พวงกุญแจมรณะ": ไรเดอร์เกือบเป็นเหยื่อ สวมบท "สายลับ" ล่อจับด้วยทักษะ "เซลล์มือทอง"
นี่คือเรื่องราวที่ไม่ได้เกิดขึ้นในภาพยนตร์ แต่คือเรื่องจริงของ "ไรเดอร์หนุ่ม" ผู้เคราะห์ร้ายที่เกือบต้องติดคุกตลอดชีวิต จากการถูกวางงานให้เป็น "แพะ" ส่งยาเสพติดข้ามจังหวัด! แต่ด้วยสัญชาตญาณและความแค้นที่อัดแน่นในอก เขาได้เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส สวมบทบาทเป็น "สายลับจำเป็น" ประสานงานกับตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมผู้บงการได้อย่างสุดมัน!
##ฉาก 1: "แจ็กพอต" ที่มาพร้อมกับ "หายนะ"
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อไรเดอร์หนุ่มรับงานส่งของที่ดูเหมือนจะเป็น "ลาภลอย" ในรอบวัน: ส่งพวงกุญแจจาก เจริญสินธานีมหาชัย ไปยัง ซอยบุญอยู่ ราชเทวี ได้ค่าจ้างถึง 304 บาท! นี่คือตั๋วเข้าเมืองชั้นดีที่เปิดโอกาสให้วิ่งงานต่อได้ยาว ๆ
ผู้ว่าจ้างไม่ได้ขอให้ส่งคน แต่เป็นเพียง "พวงกุญแจมอเตอร์ไซค์" โดยอ้างว่าเพื่อนลืมไว้ในเบาะรถ ด้วยน้ำใจของคนทำมาหากิน เขาจึงรับงานนี้ไปโดยไม่ลังเล สิ่งที่ผิดปกติเดียวคือ พวงกุญแจนั้นถูกพันด้วย "เทปสีดำ" อย่างหนาแน่น ปิดบังแผ่นบาร์โค้ดไว้มิดชิด!
##ฉาก 2: วินาที "เอะใจ" ที่แยกอัสสัมชัญ
จังหวะที่จอดรถติดไฟแดงที่แยกอัสสัมชัญ ไอเดียที่จะถ่ายรูปพวงกุญแจโพสต์ลงโซเชียลเพื่ออวดงานดี ๆ ก็เกิดขึ้น แต่ภาพที่ปรากฏทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว!
> "เอะใจว่าทำไมมันต้องพันเทปดำตรงแผ่นบาร์โค้ดมาด้วย พันหลายรอบ พันซ่ะนูนเลย กลัวเรารู้บาร์โค้ดงี้หรอหรือยังไง..."
>
ทันใดนั้นเอง ความคิดเรื่อง "ยาเสพติด" ที่เคยได้ยินตามข่าวก็พุ่งเข้าสมอง! ด้วยสัญชาตญาณที่สั่งการ เขาตัดสินใจจอดรถข้างทาง และใช้ความ "ขี้สงสัย" ที่กลายเป็นฮีโร่ในยามนี้!
ผลลัพธ์คือความตกตะลึง! เมื่อแกะเทปออก เขาพบซองพลาสติกบรรจุ "เคตามีน" น้ำหนักเกือบ 5 กรัม ซ่อนอยู่!
##ฉาก 3: จากไรเดอร์สู่ "สายลับ" ภายใต้การนำของตำรวจ
ความตื่นตระหนกถูกแทนที่ด้วย "ความแค้น"! หากเขาไม่เอะใจ และไปเจอด่านตรวจกลางทาง ชีวิตการงานและหน้าตาของครอบครัวต้องพังพินาศแน่นอน!
หลังการประสานงานอย่างรวดเร็วผ่านพี่เขย และเข้าพบตำรวจที่ ห้องสืบสวน สน. ทันที รอง ผกก.ตำรวจผู้รับเรื่องได้ยืนยันความจริง: "ไอ้น้อง บุญถึงนะวันนี้ ถ้าไปโดนกลางทางยาวแน่นอน..."
ความแค้นกลายเป็นแรงผลักดัน ไรเดอร์หนุ่มเสนอตัวเข้าร่วมแผนจับกุมทันที!
> "ผมช่วยคิดแผนล็อคตัวแม่ง แค้นแม่งครับบอกตรงๆ!"
>
##ฉาก 4: แผนล่อซื้อ "สองต่อ" ด้วยทักษะการพูดขั้นเทพ
ภารกิจคือการล่อผู้บงการให้ออกมายังจุดนัดรับเดิม ด้วยทักษะการพูดและเจรจาที่ได้มาจากการเป็น "เซลล์" ถึงสองบริษัท ไรเดอร์หนุ่มเริ่มปฏิบัติการ!
* ตีเนียน: ติดต่อฝ่ายสนับสนุนแอปฯ อ้างว่า "ยางรั่ว" หมุดไม่เคลื่อน และต้องการให้ติดต่อลูกค้ากลับมา
* ดึงเกม: เมื่อผู้บงการโทรกลับมา เขาใช้คำพูดที่ฟังดูเป็นปกติ แต่แฝงไปด้วยการดึงผู้บงการออกมาให้ได้มากที่สุด: "จะเอากุญแจไปคืนนะ... โทรในแอปฯ มึงไม่รับเลย..." และนัดหมายจุดเดิม!
ขณะเตรียมออกรถ ไฮไลต์สุดระทึกก็เกิดขึ้น! เจ้าหน้าที่สืบสวนนายหนึ่งที่หายตัวไป ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ในชุด "ไลน์แมน" เต็มยศ! ภาพของเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่สวมรอยเป็นไรเดอร์ด้วยกัน กลายเป็นภาพที่ดุดันไม่แพ้ในภาพยนตร์!
##ฉากจบ: "คนทำมาหากิน" ไม่ใช่เครื่องมือส่งยา!
เมื่อไปถึงจุดนัดหมาย ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไรเดอร์หนุ่มควบคุมอารมณ์และความตื่นเต้นไว้ได้อย่างดี ใช้คำพูดดึงผู้ต้องหาให้ออกมาคุย ไม่ถึง 10 คำ เจ้าหน้าที่สืบสวนในชุดไลน์แมนก็เข้าล็อกตัวผู้บงการได้อย่างรวดเร็ว!
บทสรุป: ไรเดอร์หนุ่มคนนี้ไม่ได้เพียงแค่รอดพ้นจากคดีใหญ่ แต่ยังได้พิสูจน์ให้เห็นว่า "คนทำมาหากิน" อย่างสุจริต ไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือของอาชญากร! เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ชิ้นสำคัญถึงภัยมืดที่แฝงมากับงานบริการส่งของ และตอกย้ำถึงความสำคัญของ "ไหวพริบ" ที่สามารถช่วยชีวิตได้จริง!
[ทีมข่าวชี้ชัดเจาะลึกออนไลน์]
pearleus






















0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น