ด่วน! ผู้ว่าฯ นริศ-ผู้การฯ ธีระเดช ผนึกกำลังกวาดล้างยาเสพติด ย้ำ "หมดเวลาทำผิด-หมดสิทธิ์นอนบ้าน!"

ผู้ว่าฯ นริศ นิรามัยวงศ์ และ พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ผนึกกำลังแถลงผลปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดครั้งใหญ่ตามนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” ย้ำชัด ผู้ค้ายาเสพติด “หมดเวลาทำผิด-หมดสิทธิ์นอนบ้าน” ชี้ทางเลือกมีแค่เข้าคุกหรือหนีออกนอกพื้นที่

การแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 1 ส.ค. 2568 ณ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลางที่น่าสนใจ ได้แก่ ยาบ้ารวมกว่า 2,300 เม็ด, ยาไอซ์ 6.24 กรัม, เคตามีน, และอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง

สถิติยังน่าห่วง ผู้ว่าฯ ยันเดินหน้าปราบปรามไม่หยุด

ผู้ว่าฯ นริศเผยว่า จากสถิติล่าสุด จ.สมุทรสาคร ยังมีผู้ค้ายาเสพติดกว่า 90 ราย และผู้เสพอีกกว่า 300 ราย โดยปฏิบัติการในห้วงเดือนนี้จะเน้นการนำผู้ค้ายาเสพติดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายให้ครบทุกคน ส่วนผู้เสพจะถูกนำตัวเข้ารับการบำบัดรักษาเป็นเวลา 4 เดือน โดยผู้ว่าฯ ประกาศกร้าวว่า เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจจะตามล่าผู้ค้าทุกคน “ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ไม่มีโอกาสได้นอนบ้านอีกแล้ว”

ปิดล้อม 29 จุด รวบผู้ต้องหา 10 คน ยึดทรัพย์กว่า 3.4 แสน

ด้าน พล.ต.ต.ธีระเดช เสริมว่า เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติด 29 จุดทั่วจังหวัด ผลการปฏิบัติจับกุมผู้ต้องหาได้ 10 คน ยึดยาบ้าได้ 2,307 เม็ด พร้อมยาไอซ์และเคตามีนจำนวนหนึ่ง และยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 340,000 บาท

นอกจากนี้ ผลการปฏิบัติโดยรวมตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. - 1 ส.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมตรวจค้นไปแล้ว 42 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ถึง 94 คน ยึดยาบ้ากว่า 10,551 เม็ด และยาไอซ์กว่า 1.04 กก. พร้อมยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 875,498 บาท

รวบผู้ค้ารายสำคัญ! "เบญจพล" ค้ายาพร้อมหมายจับค้างเก่า

การปราบปรามยาเสพติดครั้งนี้มีการจับกุมนายเบญจพล หรือเอ สุขมโน อายุ 47 ปี ผู้ค้ารายสำคัญที่เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยสามารถล่อซื้อยาบ้าและยาไอซ์ได้ และเข้าจับกุมได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลางยาไอซ์ 30.65 กรัม และยาบ้า 1,200 เม็ด

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายเบญจพลมีหมายจับค้างเก่าในคดีสมคบคิดกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และยังเคยต้องโทษในคดีครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้ามาแล้วเมื่อปี 2559 และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2562 และยังกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

Posted in: