pearleus

วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2568

๕ มีนาคม​ วันนักข่าว หรือวันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ

            ๕ มีนาคมของทุกปี​ ถือเป็นวันนักข่าวหนังสือพิมพ์ซึ่งต่อมารวมถึงนักข่าวสื่อมวลชนทุกแขนงด้วย​ เรียกว่า​ "วันสื่อสารมวลชน​แห่งชาติ"  ผู้เขียนเคยเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์​มากว่า​ ๕๐ ปี​ ขอเขียนเล่าประวัติมาให้ฟังแบบย่อ​ ๆ​ กล่าวคือ  กิจการหนังสือพิมพ์มีกำเนิดขึ้นในแผ่นดินสยามเริ่มตั้งแต่สมัยรัชกาลที่​ ๓​ โดย​ พ.ศ.​ ๒๓๗๙ คณะมิชชันนารี ชาวอเมริกันที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในสยามและได้ตีพิมพ์คำสรรเสริญ "กิตติคุณของพระเยซูคริสต์"  เป็นภาษาไทย​ จำนวน​ ๔,๐๐๐​  แผ่น​ โดยใช้แท่นพิมพ์​ระบบเลตเตอร์​ (ใช้แรงคนถีบ)​ ส่งมาจากสิงคโปร์​ ส่วนตัวพิมพ์หล่อที่เมืองกัลกัตตา​  อินเดีย​  ต่อมา​ พ.ศ.​ ๒๓๘๔ นายแพทย์แดเนียล​ บีช​ บรัดเลย์​ (หมอบลัดเลย์)​ ได้ออกหนังสือพิมพ์​ชื่อจดหมายเหตุบางกอกรีคอเดอร์​ (Bangkok Recodar)​ พิมพ์​ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ​ ซึ่งต่อมาได้มีหนังสือพิมพ์​ออกมาอีกหลายฉบับเช่นบางกอกคาเลนเดอร์​ บางกอกเดลี​ โดยเจ้าของและบรรณาธิการ​เป็นฝรั่ง



        ในรัชกาลที่​ ๔​ พ.ศ.​ ๒๔๐๑ ได้มีหนังสือพิมพ์ภาษาไทยรายวันเกิดขึ้นได้แก่หนังสือราชกิจจานุเบกษา​เพื่อแจ้งข่าวสารราชการ​ พระราชภารกิจ​ และชี้แจงข่าวคลาดเคลื่อนที่ตีพิมพ์​ในหนังสือพิมพ์​ฝรั่ง ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่​ ๕​ ได้มีหนังสือพิมพ์​ฉบับแรกที่แพร่หลายสู่ประชาชนทั่วไปทั้งประเทศคือ​ "ดรุโณวาท"  ซึ่งในยุคนี้วงการหนังสือพิมพ์​ไทยตื่นตัวมาก​ มีหนังสือพิมพ์​ออกจำหน่ายถึง​ ๕๙ ฉบับ​ และฉบับทึ่มีชื่อเสียงด้านการเมืองและสังคมได้แก่หนังสือพิมพ์​ "สยามประเภท" ซึ่งมีนักเขียน​ปัญญาชน​ ก.ศ.ร.​กุหลาบ​ และ​  ต.ว.ศ.วัณณาโก​ (เทียนวรรณ)​ เป็นเจ้าของและบรรณาธิการ 



                    ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์​ กิจการหนังสือพิมพ์​เฟื่องฟู​ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้า​เจ้า​อยู่หัว​ รัชกาลที่​ ๖​ เนื่องจากพระองค์ทรงส่งบทความและข้อโต้แย้งมาลงพิมพ์​โดยใช้หลายนามปากกา​ อาทิ​ อัศวพาหุ​ ศรีอยุธยา​ ราม​ ณ​ กรุงเทพ​ รามสูร รามพันธุ์​ รามจิต​ เป็นต้น

                   กิจการหนังสือพิมพ์​ในประเทศ​ไทย​มีพิมพ์จำหน่ายต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน​ และมีการรวมตัวกัน​ก่อตั้งเป็นสมาคมครั้งแรกเมื่อ​  ๕​ มีนาคม​ ๒๔๙๘ คือสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไ​ทย  โดยมีคณะผู้ก่อตั้งประกอบด้วยนักข่าวหนังสือพิมพ์​ ๑๖ ฉบับ​ นักข่าว​ ๑๕ คน​ได้แก่​ ชาญ​ สินสุข​ โชติ​ มณีน้อย​ เท่ห์​ จงคดีกิจ​ สนิท​ เอกชัย​ เลิศ​ อัศวเวศน์  เชาว์​ รูปเทวินทร์​ อนงค์​ เมษประสาท​ เป็นต้น​ และได้​ อิสรา อมันตกุล​ นักข่าว​ นักเขียนอาวุโสเป็นนายกสมาคมถึงสามสมัย ต่อมา​ พ.ศ.​ ๒๕๐๘ มีการก่อตั้งสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยขึ้นอีกหนึ่งสมาคม​ แต่ในที่สุดเมื่อวันที่​ ๒​ มีนาคม​ ๒๕๔๓ สมาคมทั้งสองสมาคมได้รวมกันเป็น​ "สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย" มาถึงทุกวันนี้ 

                นับตั้งแต่​ ๕​ มีนาคม​ทึ่ก่อตั้งสมาคมนักข่าวเป็นต้นมา​ ผู้ที่อยู่ในแวดวงข่าวสารรวมถึงสื่อมวลชนแขนงต่าง​ ๆ​ และสมาคมสื่อสารที่ก่อตั้งมาในภายหลังเช่นสมาคมหนังสือพิมพ์​ส่วนภูมิภาค​ สมาคมนักข่าววิทยุและ​โทรทัศน์​ไทย​ สมาคมนักข่าวออนไลน์​ สมาคมนักข่าวเศรษฐกิจ​ สมาคมนักข่าวบันเทิง​ ฯลฯ​ ก็ได้ถือเอาวันที่​ ๕​ มีนาคมเป็นวันสื่อมวลชนด้วย​ เพราะผู้ที่อยู่ในวงการนี้ต่างตระหนักถึงความสำคัญของการทำหน้าที่ผดุงไว้ซึ่งมาตรฐานทางวิชาชีพ​ จริยธรรมสื่อมวลชนที่ได้ตราไว้ในตราสารสมาคม  

                    นักข่าวสื่อมวลชนจังหวัดสมุทรสาคร​ มีนักข่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว​   สังกัดหนังสือพิมพ์ส่วนกลางจำนวนหลายคน​ อาทิ​ ประพันธ์​ มณีโรจน์​ อุสาห์  เอกมหาชัย​ สมพงษ์​ มยุระสาคร​ มนัส​ ทับสุข​ ปรีชา​ ฐินากร​ ชาญวิทย์​ หาญวรวงค์​ ณัฐวุฒิ​ ศิริทรัพย์จนันท์​  สำเนียง​ คงคะเชนทร์​  นรินทร์​ ชูติวิสุทธ์​ สมชาติ​ พัฒนแสง​ บัญชา​ ศิลปคัมภีรภาพ​ ไชยา​ กุศลธรรมรัตน์​  ชัยพร ศิริพงษ์เวคิน​ ฯลฯ​ นักข่าวทั้งหมดได้ร่วมประชุมเมื่อวันที่​ ๒๕ ธันวาคม​ ๒๕๓๕ จัดตั้งชมรมผู้สื่อข่าวสมุทรสาครขึ้น​  และต่อมาเมื่อวันที่​ ๓​ มีนาคม​ ๒๕๕๓ ได้จดทะเบียน​เป็นสมาคมผู้สื่อข่าว​จังหวัดสมุทรสาคร​ เป็นสมาคมแรกของจังหวัด


               ปัจจุบันจังหวัดสมุทรสาครมีองค์กรสื่อมวลชนที่เป็นราชการได้แก่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด และสื่อมวลชนที่เป็นองค์กรเอกชนได้แก่ สมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร  สมาคมสื่อมวลชนเพื่อการท่องเที่ยวสมุทรสาคร ชมรมเพื่อนสื่อ น.ส.พ.ชี้ชัดเจาะลึกสมุทรสาคร และชมรมหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์จังหวัดสมุทรสาคร  แต่ละองค์กรจะจัดงานวันนักข่าวเพื่อสังสรรค์และรำลึกผลงานที่ทำมาโดยต่างจัดงานในสถานที่ต่าง ๆ  ตามสะดวก






0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น