pearleus

วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2568

คลองสานเคยมีทางรถไฟ

        เส้นทางรถไฟสายปากคลองสาน- มหาชัย  และรถไฟสายบ้านแหลม - แม่กลอง  เกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕  เปิดให้ประชาชนใช้งานตั้งแต่วันที่ ๔ มกราคม ร.ศ. ๑๒๓  (พ.ศ. ๒๔๔๘)


        ต่อมาสถานีรถไฟปากคลองสานหยุดการใช้งานมาตั้งแต่วันที่ ๑  มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๔ สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๒ ในรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ให้ยกเลิกเส้นทางช่วงปากคลองสาน-วงเวียนใหญ่ โดยรางรถไฟยังคงอยู่ แต่ราดยางมะตอยทับไว้ใต้พื้นถนน ส่วนตัวอาคารสถานี ไม่เหลือสภาพเดิมแล้ว



                    ปัจจุบันบริเวณที่ตั้งสถานีรถไฟปากคลองสานในอดีตได้เปลี่ยนแปลงเป็นตลาดคลองสาน และคลองสานพลาซ่าในปัจจุบัน ส่วนเส้นทางรถไฟช่วงสถานีปากคลองสานถึงสถานีวงเวียนใหญ่ได้เปลี่ยนแปลงเป็นแนวถนนเจริญรัถในปัจจุบัน 



                    สำหรับการก่อสร้างรถไฟสายท่าจีน ช่วงปากคลองสานถึงมหาชัย มีกำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ ๒๓๓๙  ขุนภาษาปริวัตร  (บริษัทรถไฟท่าจีนเรลเวลกัมปานี ลิมิเต็ด ทุน จำกัด)  พระยาวุฒิวิเศษวิทย์  ขออนุญาตทำทางรถไฟตั้งแต่ปากคลองสาน- มหาชัย ระยะทาง ๓๓.๑ กิโลเมตร  และเมื่อดำเนินการสร้างเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ขณะนั้นทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร  เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดเส้นทางรถไฟสายนี้ เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ร.ศ. ๑๒๓  โดยรถไฟสายนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ เคยประทับรถไฟพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงกระทำพิธีเปิดถนนถวายที่ตำบลท่าฉลอมเมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๔๘๙   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘  พร้อมด้วยสมเด็จพระอนุชาเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช  (พระอิสริยยศขณะนั้น) ประทับรถไฟพระที่นั่งขบวนพิเศษเพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนชาวมหาชัยและท่าฉลอมทั้งเที่ยวมาและเที่ยวกับพระนคร



                    ส่วนรถไฟเส้นทางบ้านแหลมท่าฉลอม - แมกลองระยะทาง ๓๓.๘ กิโลเมตร กำเนิดขึ้นเมื่อพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสมมตอมรพันธ์ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรควรพินิจ พระยาพิพัฒน์โกษา พระยาบำเรอภักด์ พระยานรฤทธิ์ราชหัช  พระยาบริบูรณ์โกษากร พระยาไวยวุฒิวิเศษฤทธิ์ มิสเตอร์ ซี. กรามอร์ มิสเตอร์ ซี. เอสยอร์ช  มิสเตอร์ เย. แมกคาย  มิสเตอร์ แมกอิแวน  มิสเตอร์ ซี. แซนเดอรสกี และมิสเตอร์ เย. โรเบิตเซน ร่วมกันขอพระราชทานบรมราชานุญาตตั้งบริษัท รถไฟแม่กลองทุน จำกัด  ขอสัมปทานสร้างทางรถไฟสายบ้านแหลม - แม่กลองขึ้น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๘  (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๒๒ วันที่ ๖ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๔) เปิดเดินรถตั้งแต่วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๔๔๘ ต่อมาบริษัทรถไฟท่าจีน และบริษัทรถไฟแม่กลอง รับพระบรมราชานุญาตให้รวมเป็นบริษัทเดียวกันในนามบริษัทแม่กลอง ทุน จำกัด เดินรถจนสิ้นสุดสัปทานในปี ๒๔๘๘ เปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทรถไฟสายแม่กลอง เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๙๘  และมารวมเข้ากับการรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงปัจจุบัน สมัยก่อนไม่มีถนนพระรามที่ ๒  ชาวแม่กลองจังหวัดสมุทรสงครามนิยมเดินทางเส้นนี้ไปกรุงเทพฯจำนวนมากโดยมาลงที่สถานีบ้านแหลมแล้วต่อรถไฟที่สถานีมหาชัยซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำท่าจีน เนื่องจากไม่มีสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำบริษัทรถไฟได้จัดเรือยนต์โดยสารขนาดใหญ่รับส่งโดยไม่เสียค่าโดยสารเพิ่มทุกขบวนทั้งสองฝั่ง



            ปัจจุบันรถไฟสายชานเมืองสายนี้จึงมีสถานีเริ่มต้นที่วงเวียนใหญ่ถึงมหาชัย ตลอดเส้นทางมีสถานีจอดรับส่ง ๒๐  สถานี   ส่วนเส้นทางบ้านแหลม - แม่กลอง  มีสถานีทั้งหมด ๑๕ สถานี   และสถานีที่มีชื่อดังไปทั่วโลกคือ "ตลาดร่มหุบ" ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟแม่กลองซึ่งบรรดาแม่ค้านำสินค้าใส่กระจาดหรือภาชนะต่างๆวางขายบนริมทางรถไฟและบนรางรถไฟ มีร่มชนิดกางบังแดดตั้งเป็นระยะตลอดแนวรางรถไฟนับร้อยร่ม   และเมื่อขบวนรถไฟแล่นออกหรือเข้าสถานี  แม่ค้าจะหุบร่มหลบรถไฟพร้อมเพรียงกันเสียงดังพรึบ ๆ ๆ ๆ แข่งกับรถไฟที่กำลังวิ่งมา  ภายในพริบตาทุกอย่างโล่งตา  และจะกางขึ้นเมื่อรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว (มองเหมือนดอกเห็ดกำลังบานพร้อมกัน)    แต่ปัจจุบันสถานีรถไฟแม่กลองจัดระเบียบใหม่ห้ามแม่ค้าวางสินค้าบนรางรถไฟและริมทางรถไฟ  รวมทั้งร่มด้วย "ตลาดร่มหุบ"  จึงหมดเสน่ห์ไปไม่เหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวมายืนถ่ายรูปรถไฟที่แล่นเข้า ออกสถานีอย่างช้า ๆ เนืองแน่นทุกวัน



                ปัจจุบันรถไฟสายวงเวียนใหญ่ - มหาชัย  มีเที่ยววิ่งวันละ ๓๔ เที่ยว (ไป - กลับ)   สายบ้านแหลม - แม่กลอง วันละ ๘ เที่ยว (ไป - กลับ)  สำหรับค่าโดยสารมีราคาถูกมากโดยเก็บเงินตามระยะทาง ตั้งแต่ ๓ - ๑๐ บาท ส่วนตู้โดยสารปรับอากาศมีพ่วงท้าย (บางขบวน) ก็ราคาไม่แพง  จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวประเภทสะพายเป้ ถือกล้องส่องชมภูมิทัศน์จังหวัดใกล้เคียงราคาถูก ไปกลับ
ได้ในวันเดียว



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น