pearleus

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2568

แจ้งข่าว​ เล่าขานตำนานศาลหลวงตาทอง

 



        ขอเชิญเที่ยวงานปิดทองหลวงตาทอง​ ตลาดกระทุ่มแบน​ อำเภอกระทุ่มแบน​ จังหวัดสมุทรสาคร​ ระหว่างวันที่​  ๒๗ - ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๘

วันที่​  ๒๗ มีนาคม​ ๒๕๖๘  
       เวลา ๐๙.๐๐ น.  ขบวนแห่​รูปรูปเหมือนองค์หลวงตาทอง
       เวลา​ ๑๓.๐๐ น.​ พิธีบวงสรวงองค์หลวงตาทอง
       เวลา ๑๘.๐๐ น. ชมการแสดงเชิดสิงโต​ -​ มังกร

วันที่​  ๒๘  มีนาคม​ ๒๕๖๘  
      เวลา​ ๑๕.๐๐ น.​ พิธีเปิดงาน พระสงฆ์​เจริญพระพุทธมนต์​  

วันที่​  ๒๙  มีนาคม​ ๒๕๖๘
      เวลา​ ๐๘๐๐ น.​ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารพระสงฆ์ ตลอดงานมีมหรสพชมฟรี​           ภาพยนตร์​ ดนตรี​





            ประวัติ หลวงตาทอง และศาลหลวงตาทองเป็นตำนานที่ชาวกระทุ่มแบนรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากอยู่คู่กับอำเภอกระทุ่มแบนมานานกว่า ๑๐๐ ปี หนังสือศาลหลวงตาทองที่บันทึกโดยนายศิริ เติมประยูร​  พ่อค้าและอดีตกรรมการศาลหลวงตาทอง มีความว่า ศาลหลวงตาทองหลังแรกที่สร้างแบบกึ่งถาวร มีขนาดเล็ก สร้างด้วยไม้ทรงโปร่ง หลังคามุงสังกะสี มีทางเข้าด้านหน้าทางเดียว สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ และมีการก่อสร้างใหม่อีก ๒  ครั้ง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔  และ ๒๕๓๕


            ผู้บันทึกกล่าวว่าหลวงตาทองประวัติแรก ๆ ของท่านไม่มีผู้ใดทราบว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด อุปสมบทวัดใดและเมื่อใด ผู้สูงอายุในละแวกนั้นได้เล่าให้ลูกหลานฟังว่าเดิมจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองพะอง ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ต่อมาย้ายไปจำพรรษาที่วัดนางสาวตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน ครั้นเมื่อท่านมีอายุประมาณ ๕๐ ปี​ได้เดินธุดงค์มาสร้างกุฎีจำพรรษาที่ป่าท้ายตลาดกระทุ่มแบนด้านทิศตะวันตก คือบริเวณที่ตั้งศาลในปัจจุบันจนมรณภาพเมื่ออายุประมาณ ๗๐ ปี ชาวบ้านขนานนามท่านว่า "หลวงตาวัดกุฎิเดียว" หลวงตาทองเป็นพระภิกษุที่เรียกได้ว่าเป็นเกจิอาจารย์ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนา มีเวทย์มนต์ขับไล่ภูติผีปิศาจ และยาสมุนไพรได้ช่วยดูแลรักษาประชาชนในละแวกนั้นและไกล้เคียงจนเป็นที่เคารพนับถือโดยทั่วไป



            เมื่อท่านมรณภาพแล้ว ประชาชนที่นับถือศรัทธาได้ร่วมกันจัดสร้างศาลขึ้นเพื่อสะดวกในการสักการะกราบไหว้​ โดยศาลแรก​ ๆ​ เป็นลักษณะเพิงไม้หลังคามุงจาก   ต่อมาอีกหลายปีจึงก่อสร้างศาลไม้หลังคามุงสังกะสีแห่งแรกขึ้น​ มีขนาด กว้าง ๑.๕ เมตร ยาว ๒ เมตร ภายในมีรูปสมมติหลวงตาทอง ๑  องค์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙
        
         กาลเวลาผ่านไป มีประชาชนเลื่อมใสพากันมากราบไหว้ขอพรมากขึ้นเป็นลำดับทั้งขอให้คุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข ขอให้ประกอบกิจการค้าเจริญรุ่งเรืองเป็นต้น แต่เนื่องจากศาลมีขนาดเล็กไม่สะดวกในการประกอบพิธีต่างๆ คณะกรรมการจึงดำเนินการก่อสร้างศาลขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ ผนังศาลคอนกรีต หลังคามุงกระเบื้อง กว้าง ๓ เมตร ยาว ๕ เมตร หล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริง เสร็จแล้วมีพิธีอัญเชิญดวงวิญญานเข้าสถิตในศาล และมีงานฉลอง ๓  วัน / คืน มีมหรสพทั้งทั้งลิเก ภาพยนตร์ อุปรากรจีน (งิ้ว) แสดงตลอดงาน จากนั้นได้จัดให้มีงานประจำปีปิดทองหลวงตาทองในเดือนมีนาคม ของทุกปี


             งานประจำปีสมัยก่อนนั้นยิ่งใหญ่มากเนื่องจากมีพื้นที่กว้าง​ ไม่มีตึกรามบ้านช่องเหมือนปัจจุบัน​ มหรสพทึ่มีไม่เคยขาดคือ​ "งิ้ว" ตั้งแสดงที่หน้าศาล​ ดนตรีวงใหญ่เวทึ่อยู่หน้าบ้านศรีสุวรรณริมคลองกระทุ่มแบน​ ภาพยนตร์​ ลิเก​ มวย​ ตั้ง​ ๒​ ฝั่งถนนสุคนธวิท​ มีประชาชนมาเที่ยวงานกันมากไม่น้อยกว่างานปีใหม่

               ศาลที่เห็นในปัจจุบันเป็นหลังที่สาม มีขนาดและความสวยงามมากกว่าศาลหลังที่สองกว่าเท่าตัว เป็นอาคารคอนกรีตทรงไทย ประกอบพิธียกช่อฟ้าเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕  โดย พล.ร.อ.ปรีชา สงวนเชื้อ เป็นประธานพิธี​   พล.ร.ต.ชัชวาลย์ ศรีสุวรรณ ประธานคณะกรรมการศาลกล่าวรายงาน มีข้าราชการ พ่อค้าประชาชนมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก รายได้จากการจัดงานประจำปีและรายได้อื่นใด คณะกรรมการศาลได้นำไปช่วยองค์กรการกุศล และสาธารณประโยชน์อื่น ๆ ในทุกปี



        สภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาครเคยนำตำนานนี้เสนอจังหวัด​เพื่อพิจารณาเสนอเป็นมรดกภูมิปัญญา​ทางวัฒนธรรมระดับประเทศ​ประเภทวรรณกรรม​ / ตำนานเมื่อ​ พ.ศ.​ ๒๕๖๐ แต่หลักเกณฑ์ของกระทรวงวัฒนธรรมจังหวัดมีสิทธิเสนอไปได้เพียงปีละ​ ๑​ รายการเท่านั้น​  และจะเสนอรายการที่ตกค้างมาจากปีก่อน​ ๆ​  จึงต้องรอการพิจารณาในปีต่อไป

            สถานะการคงอยู่ ปัจจุบันศาลหลวงตาทองบริหารงานโดยคณะกรรมการอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และพ่อค้าประชาชนในอำเภอกระทุ่มแบน ยังเป็นที่เคารพนับถือของ ประชาชนและเดินทางมาสักการบูชาทั้งในเวลาปกติและเมื่อมีงานประจำปี














0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น