วันที่ 13 ก.พ.63 พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า
ด้วยในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563
เป็นวันวาเลนไทน์
ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการและผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม
อาจมีการจัดกิจกรรมรื่นเริงและเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเข้าไปใช้บริการและร่วมกิจกรรม
ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กและเยาวชนมากขึ้น
ทำให้อาจมีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น การค้าประเวณี การทะเลาะวิวาท
การทำร้ายร่างกาย การมั่วสุมเสพสารเสพติด
และการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เป็นต้น
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ขับเคลื่อนนโยบาย
"ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม" อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคม
และเพื่อให้การควบคุมดูแลสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการและสถานที่ประกอบธุรกิจโรงแรมในช่วงวันวาเลนไทน์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ไม่เป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กและเยาวชน จึงได้มอบหมายให้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ
ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด
บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวด
ตรวจตราสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ
ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ทั้งการกำหนดวันเวลาเปิด-ปิดสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการกวดขันมิให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า
20 ปีบริบูรณ์ซึ่งมิได้ทำงานในสถานบริการนั้นเข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการ
ควบคุมมิให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
ป้องกันมิให้มีการนำอาวุธปืนเข้าไปในสถานบริการ
และมิให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ยาเสพติด
และการแสดงที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบกิจการฯ
ตรวจสอบระบบความปลอดภัยไม่ให้มีการใช้อุปกรณ์ประกอบการแสดงที่อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้หรือเกิดระเบิดได้
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวต่อว่า
ในส่วนธุรกิจโรงแรมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับดูแลผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เช่น การบันทึกรายการต่าง ๆ เกี่ยวกับผู้พักและจำนวนผู้พักลงในบัตรทะเบียนผู้พักในทันทีที่มีการเข้าพัก
และหากผู้พักมีอายุต่ำกว่า 18
ปีบริบูรณ์เข้าพักตามลำพัง
ให้ผู้จัดการหรือผู้แทนลงลายมือชื่อกำกับ
รวมถึงการส่งสำเนาทะเบียนผู้พักในแต่ละวันไปให้นายทะเบียนทุกสัปดาห์
และต้องสอดส่องดูแลไม่ให้บุคคลหลบซ่อนหรือมั่วสุมในเขตโรงแรมในลักษณะที่เชื่อว่าจะก่อความไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองและให้แจ้งฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบทันที
และกำชับผู้จัดการโรงแรมให้ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและครบถ้วนตามกฎหมาย เป็นต้น
รวมทั้งให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมรวมถึงสถานที่พักอื่นๆ
ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ โดยเน้นตรวจสอบเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของอาคาร
รวมถึงระบบป้องกันอัคคีภัยเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เข้าพักโรงแรม
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้มงวด
กวดขัน ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่
และดูแลเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นลูกหลานของเรา เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย
หรือการกระทำที่ขัดต่อวัฒนธรรมอันดีงามของไทย
เพื่อสร้างสังคมไทยให้มีความสงบสุขอย่างยั่งยืน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น