pearleus

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีผู้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาเนื่องจากได้ความเดือดร้อนจากน้ำเน่าเสีย ทำให้ส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวัน และการทำเกษตร

 

เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่บ้านเลขที่ 82 ม.2 ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี นายอำเภอกระทุ่มแบน, นายรณกฤต อุดมสุขโกศล ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนญ์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร, นายสุพจน์ สุวรรณจิตร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ สำนักงานชลประทานที่ 11, นายธราเทพ กุลพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5, นายเชษฐ พวงจิตร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร, ผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร, ผู้แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร, ผู้แทน อบต.ท่าเสา, ผู้แทนชลประทาน, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ฯ โดยมีเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้ข้อมูล

เนื่องด้วยมีประชาชน ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา ได้ความเดือดร้อนเนื่องจากมีน้ำเน่าเสียไหลมาจากโรงงานอุตสาหกรรม ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบนลงมาในลำคลองธรรมชาติบริเวณหลายพื้นที่ ในตำบลท่าเสา อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่ วันที่ 28 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาน้ำมีลักษณะดำเข้มข้น มีกลิ่นฉุน คล้ายสารเคมีส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ จึงทำให้ทำให้ส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมากที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลอง ซึ่งได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสีย

โดยหลังจากได้รับฟังปัญหาของประชาชน นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ได้สั่งการให้ อำเภอกระทุ่มแบนกำกับดูแลภาพรวมทั้งหมดในการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสีย, อบต.ท่าเสา ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการผันน้ำเพื่อให้น้ำดีได้หมุนเวียนระบายเข้ามา, โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ ให้บริหารจัดการน้ำโดยวิธีนำน้ำดีจากแม่น้ำท่าจีนเข้ามาเจือจาง แล้วระบายออกจากคลองผ่านอาคารชลประทานประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำท่าเสาลงแม่น้ำท่าจีน ซึ่งวิธีดังกล่าวเป็นวิธีบรรเทาความเน่าเสียของน้ำในลำคลองในเบื้องต้น ให้มีคุณภาพน้ำที่อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถใช้เพื่อการเกษตรสำหรับพืชทั่วไปได้ แต่ยังไม่เหมาะสมในการใช้น้ำเพื่ออุปโภคด้านต่างๆ และไม่สามารถรักษาคุณภาพน้ำที่เหมาะสมในการใช้อย่างถาวร, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำรวจแหล่งกำเนิดบริเวณคลองใกล้เคียงที่คาดว่าจะปล่อยน้ำเสีย, สนง.อุตสาหกรรมจังหวัด ตรวจสอบโรงงานที่มีน้ำเสียอย่างเข้มข้นและเฝ้าระวังต่อเนื่องตามแผนการตรวจสอบและเก็บตัวอย่างนำทิ้งโรงงาน หากพบว่าโรงงานใดกระทำความผิดมีการระบายน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดจะสั่งการให้หยุดระบายน้ำทิ้งและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมดำเนินการตามแผนการบริหารจัดการปัญหาในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จะทำแผนร่วมตรวจสอบกับทุกภาคส่วน คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ทสจ. และภาคประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องต่อไป


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น