น.ศ.มหาลัยร้องทนายดังถูกการ์ดสถานบันเทิงรุมสาหัส 2 ราย

   เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 68 ที่สำนักงานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี  นายนัฐพงศ์ (หรือชื่อเล่นยูโร) อวยศิลป์ อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์  ประธานมูลนิธิ นายรภัสสิทธิ์  ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิ โดยผู้เสียหายนำเอกสารหลักฐานพร้อมทั้งคลิปวงจรปิดที่ถ่ายไว้มามอบให้กับทาง ทนายรณณรงค์  

  นายนัฐพงศ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วยเพื่อนๆรวม 4 คน ได้เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิง บาร์โรน ในเขตตัวเมืองจังหวัดนครสวรรค์  จนกระทั่งเวลา 03.30 น. ตนกับเพื่อนได้เช็คบิลและเดินทางกลับ ระหว่างออกมาถึงบริเวณหน้าร้านได้แวะซื้อลูกชิ้นรถเข็นที่จอดอยู่หน้าสถานบันเทิงแห่งนี้ 

ปรากฏว่าได้มีชายฉกรรจ์ 5 คน ซึ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นการ์ดของสถานบันเทิงแห่งนี้เข้ามาเตะต่อยรุมทำร้ายตนเองกับนายรัชต  (หรือชื่อเล่นร๊อค) อายุ 20 ปี เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกัน ตั้งแต่ชั้นมัธยม ปัจจุบันศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยโปลีเทคนิค ปวส. ปี 2 จังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ ตนถูกทำร้าย ที่บริเวณ หน้า และตามลำตัว ส่วนเพื่อนนายรชต โดนหนักมาก ต้องผ่ากระดูกบริเวณใบหน้า อาการสาหัส แพ้แน่นอนพักรักษาตัวนานกว่า 20 วัน

  หลังเกิดเหตุตนและเพื่อนได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เดินทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว คนก่อเหตุไว้ได้ 4 คนยังเหลืออีก 1 คนอยู่ระหว่างหลบหนี ปรากฏว่าหลัง สอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับปล่อยตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดกลับไปโดยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และแจ้งข้อกล่าวหาเพียงว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกาย

  ต่อมากลุ่มผู้ทำร้ายตนเองยังได้โพสต์ ข้อความลงใน Facebook เป็นเชิงข่มขู่ว่า บอกผมขยะเปียกบ้าง ขยะสังคมบ้าง ระวังขยะเปียกอย่างพวกผมจะไปเช็ดปากพวกพี่นะครับไว้เจอกันครับพ่อเสือรุ่นใหญ่อย่าหนีอีกละรอบนี้ ทำให้ตนและเพื่อนๆรู้สึกหวาดกลัวเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย อีกทั้งคดีกลับไม่มีความคืบหน้าจึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆมาร้องเรียนกับทางมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อให้ช่วยเหลือติดตาม คดีและให้ความเป็นธรรมกับพวกตนด้วย

  ทางด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า วันนี้มีผู้ช่วยส.สจากจังหวัดนครสวรรค์รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม มาร่วมรับฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย ในส่วนของมูลนิธิเอง จะเข้าไปติดตามคดีกับทาง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นตนมองว่าไม่ใช่แค่เพียงทำร้ายร่างกายธรรมดา คดีนี้อาจจะสามารถแจ้งความ ดำเนินการในข้อหาพยายามฆ่าได้เลย เพราะผู้ก่อเหตุ เล็งทำร้ายกะเอาให้ถึงตาย โชคดีที่มีชาวบ้านและพลเมืองดีแถวนั้น รวมทั้งเพื่อนคนเจ็บ เข้ามาห้าม สถานบันเทิงแห่งนี้เคยถูกสั่งปิดเนื่องจากมีโครงสร้างผิดระเบียบไม่สามารถเปิดเป็นสถานบันเทิงได้ แต่ทำไมกลับมาเปิด บริการได้ ในเวลาต่อมา อย่าฝากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเทศบาลนครนครสวรรค์ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยมาดูแลตรงจุดนี้ด้วยรวมทั้งระหว่างที่เกิดเหตุ ก็เป็นช่วงเวลา 03.30 น. ทำไมถึงยังไม่ปิดบริการ หรือว่าตั้งอยู่ในโซนนิ่งที่เปิดบริการได้อันนี้ก็อยากให้ตรวจสอบด้วย

  ส่วนสาเหตุที่ 2 นักศึกษา ม,ดัง ถูกทำร้ายในครั้งนี้ คาดว่าน่าจะมาจาก ก่อนหน้านี้พี่ชายของคนเจ็บ ได้เคยร้องเรียนสถานบันเทิงดังกล่าวว่าเปิดเกินเวลา ทำให้ถูกปิดในเวลาต่อมา อาจสร้างความเจ็บแค้น ให้กับเจ้าของ เมื่อรู้ว่า คนเจ็บเป็นน้องชาย มาเที่ยวกับเพื่อนๆ เลยอาจสั่งการให้การ์ดรุมทำร้าย เพื่อเป็นการสั่งสอนเอาคืนที่เคยมาร้องเรียนจนถูกสั่งปิด มาก่อนหน้านี้แล้ว

  

Posted in: