ชมรมมวยจอมเตะบางนกแขวก จ.สมุทรสงครามเตรียมจัดงานครอบครูมวยไทย “รำลึก อภิเดช ศิษย์หิรัญ” พร้อมจัดเวทีมวยชั่วคราวคับคั่งไปด้วยนักชกมากประสบการณ์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติชายหญิงรวม 12 คู่

     ที่ค่ายมวย อบต.ปรีชา ต.ท่าคา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม นายพิมพ์ลักษณ์ อยู่วัฒนา ประธานชมรมมวยจอมเตะบางนกแขวก เป็นประธานประชุมคณะกรรมการเพื่อหารือเรื่องการจัดพิธีครอบครูมวยไทย “รำลึกจอมเตะบางนกแขวก” และปลุกเสกสายมงคลมวยไทย วันจันทร์ที่ 26 พ.ค.68 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่วัดเจริญสุขารามวรวิหาร ต.บางนกแขวก อ.บางคนที 

            จากนั้นนายบุญสร้าง บุญกอง ที่ปรึกษาชมรมฯ แจ้งว่า วันดังกล่าวจะมีพิธีมาติกาบังสุกุลให้กับ อภิเดช  ศิษย์หิรัญ เจ้าของฉายา จอมเตะบางนกแขวก เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. โดยพระราชภาวนาวชิราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม เจ้าอาวาสวัดประดู่ พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ปลุกเสกเดี่ยว สายมงคลและผ้าประเจียด โดย พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ จันทรกูล ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก มวยไทยลุมพินี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเทียนชัยในขันสาคร มีนายเสน่ห์ ทับทิมทอง คณะกรรมการสมาคมสยามยุทธ์และผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธี ก่อนจะถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ และพิธีครอบครูมวยไทย

    ส่วนช่วงบ่ายเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป มีพิธีบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ค่ายบางกุ้ง ต.บางกุ้ง อ.บางคนที พร้อมมีการบรรยายประวัติศาสตร์สถานที่วัดบางกุ้ง ค่ายบางกุ้ง และพระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช การรำถวายมือโดยนักชกชาวต่างชาติ เทิดพระเกียรติพระบรมราชานุสรณ์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อด้วยชุดการแสดงรำกระบี่กระบอง จากนั้นเวลา 19.00 น. เข้าสู่งาน “ศึกช้างมวยไทยลุมพินีสัญจร และ ศึกมวยไทย รำลึกจอมเตะบางนกแขวก ณ เวทีมวยชั่วคราว โรงแรมเออบาร์น่าเฮาส์ ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม โดยมีการแข่งขันกีฬามวยไทยชาย-หญิงจำนวน 12 คู่แยกเป็นนักมวยต่างชาติชกกับนักมวยต่างชาติ 2 คู่นักมวยต่างชาติชกกับนักมวยไทย 3 คู่ และนักมวยไทยชกกับนักมวยไทยอีก 7 คู่ 

             สำหรับ “อภิเดช ศิษย์หิรัญ” เจ้าของฉายา “จอมเตะบางนกแขวก” มีชื่อเดิมว่า นายณรงค์ ทรงมณี เกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2484 ที่หมู่ 4 ต.บางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เป็นผู้ที่มีใจรักด้านกีฬาตั้งแต่เด็กจนได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียนวัดเจริญสุขารามวรวิหาร เริ่มหัดชกมวยไทยตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นชกมวยครั้งแรกที่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรีคว้าชัยชนะมาได้ จึงตระเวนชกมวยไทยทั้งใน จ.สมุทรสงครามและ จ.ใกล้เคียงจนเริ่มเป็นที่รู้จักโดยเฉพาะลีลาการเตะที่หนักหน่วง กระทั่งถูกชักชวนชวนเข้าสู่สังเวียนผ้าใบ ใช้ชื่ออภิเดช ลูกพรชัยต่อมาปี พ.ศ. 2500 ย้ายไปสังกัดค่ายมวยศิษย์หิรัญ แล้วใช้ชื่อ อภิเดช ศิษย์หิรัญ ใช้พลังแข้งที่หนักหน่วงเอาชนะคู่ต่อสู้นับไม่ถ้วนจนได้ฉายา “จอมเตะแห่งบางนกแขวก” 

   โดยช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุดของอภิเดชฯ คือปี 2503-2514 โดยปี 2507 ครองแชมป์เปี้ยนรุ่นเวลเตอร์เวททั้งมวยไทยและสากลรวมถึงแชมป์เปี้ยนมวยสากลภาคตะวันออกไกลรวม 7 เส้น และได้ครองแชมป์คราวเดียวกันถึง 5 รุ่น คู่ชกที่สำคัญ ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น เช่น เดชฤทธิ อิทธิอนุชิต, เขียวหวาน ยนต์กิจ, ธานี พยัคฆโสภณ, เผด็จศึก พิษณุราชัน, สมพงษ์ เจริญเมือง, เด่น ศรีโสธร, ทองใบ เจริญเมือง ,พฤหัสเล็ก ศิษย์ชุนทอง,ชูชัย พระขันธ์ชัย, ก้องนภา พยัคฆโสภณ,เจนศึก สกุลชัย,พันธ์ทิพย์ แก้วสุริยะ,โผผิน เพชรชิงชัย และชำนาญเดช บขส.”เป็นต้น

             หลังจากหาคู่ชกยากขึ้น อภิเดช ศิษย์หิรัญ จึงหันไปชกมวยสากลรุ่นเวลเตอร์เวท และได้แชมป์ทั้งเวทีราชดำเนินและเวทีลุมพินี จากนั้นก็ได้ขึ้นชกกับนักมวยต่างชาติ กระทั่งอายุมากขึ้นจึงได้แขวนนวมและห่างหายไปจากวงการมวยหลายปี ก่อนจะหวนกลับมาสู่วงการมวยไทยอีกครั้งด้วยการเป็นเทรนเนอร์ให้นักมวยค่าย แฟร์เท็คซ์ 

              อย่างไรก็ตาม สมัยนายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สมุทรสงครามได้เคยจัดงานยกย่องเชิดชูเกียรติเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนรุ่นหลัง พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับ อภิเดช ศิษย์หิรัญ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2548 ซึ่งนับเป็นเกียรติประวัติครั้งสุดท้ายก่อนจะล้มป่วยและเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง

Posted in: