pearleus

วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

สาวตกใจกระโดดลงมาจากรถกระบะถูกรถไฟทับดับ

เมื่อเวลาประมาณ 08.30น.ของวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.สุรพล วิชิต รองสารวัตรสอบสวนสภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งอุบัติเหตุรถไฟชนคนเสียชีวิตบริเวณณรงค์มิตรซอย1 ถ.เดิมบาง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร พบศพนางสาวเพียว เพียว สัญชาติเมียนมา อายุ 28 ปี นอนเสียชีวิตคารางรถไฟสภาพศพสวมชุดคนงานสีฟ้านอนหงายโดยช่วงล่างขาดครึ่งท่อน สภาพสยดสยอง โดยใกล้กันพบรถกระบะรับส่งคนงานยี่ห้อโตโยต้ายี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ผก 687 ลำปาง จอดอยู่ริมทาง



จากการสอบถามนายปราโมทย์ จำปาดิบ พนักงานบนขบวนรถ บอกว่ารถไฟเที่ยวนี้เป็นขบวน 4341ออกจากวงเวียนใหญ่เวลา07.40 จะเข้าสถานีมหาชัยเวลา08.36น. แต่มาเกิดอุบัติเหตุก่อนจะเข้าสถานี ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบ

ส่วนทางด้านนายคมสัน มีจินดา อายุ 43 ปี คนขับรถส่งคนงานบอกว่าตนรับคนงานโรงถ้วยแถวพันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร มาประมาณ7-10คนเพื่อมาส่งที่หอพักบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ตนขับรถมาและพอดีมันมีเสียงแตรปริ๊ด รถของตนก็ข้ามมาแล้วและตนก็ได้ยินเสียงลูกน้องเอะอะอะไรไม่รู้ ซึ่งเสียงแตรอยู่ด้านหลังแต่รถตนผ่านไปแล้วไม่รู้คืออะไร ลงรถอีกทีก็มาเห็นแบบนี้ 

โดยทางด้านญาติของผู้เสียชีวิตบอกว่ารถกระบะจะข้ามไปฝั่งตรงข้ามแต่รถไฟมาพอดี ซึ่งผู้ตายตกใจได้กระโดดลงจากรถกระบะลงมาก็เลยชนจนเสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครนำศพส่งโรงพยาบาลสมุทรสาครและจะติดต่อญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป 

ขณะที่ในส่วนของแก้ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณทางลักผ่านที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งนั้น ทางด้านของนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้บอกผ่านผู้สื่อข่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างรถไฟกับผู้ใช้ทางที่เกิดบริเวณจุดตัดทางลักผ่านนั้น จากการสอบถามพื้นที่ๆ เกิดเหตุเบื้องต้นก็ทราบว่า สำหรับทางลักผ่านในเขตเทศบาลนครสมุทรสาคร ก็ได้มีการประชุมหารือร่วมกับทางคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยทางเทศบาลนครสมุทรสาคร  ได้ทำเรื่องขออนุญาตกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการจัดสร้างโลคัลโรด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มาติดช่วงเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อ กกต.ประกาศรับรองแล้วมีการเปิดสภาฯ ก็จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เพื่อขอความเห็นชอบตามกระบวนการและขั้นตอนที่กำหนดไว้ จากนั้นก็จะทำ MOA ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการสร้างโรคัลโรดต่อไป  ส่วนอีกหนึ่งพื้นที่ๆ ทางรถไฟตัดผ่านและเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งเหมือนกัน คือพื้นที่ความรับผิดชอบของ อบต.โคกขาม ก็มีการจัดสรรงบประมาณสร้างอุปกรณ์สำหรับกั้นทางรถไฟแล้ว แต่ค่อนข้างใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงสามารถดำเนินการได้ทีและแห่ง โดยจะเริ่มจากที่สถานีบ้านขอมก่อน ส่วนจุดอื่นก็จะดำเนินการต่อไปตามลำดับ


สมุทรสาคร จัดกิจกรรม Big Cleaning Day คนละไม้คนละมือ เพื่อบ้านเมืองสะอาดลดฝุ่น Pm 2.5

  

เมื่อ เวลา 09.00 น.  ของวันที่ 31 พฤษภาคม 2568  ที่ริมพระราม 2 ฝั่งขาออก กทม. บริเวณวัดพันท้ายนรสิงห์ เทศบาลเมืองพันท้ายนรสิงห์  อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  นำส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมทำความสะอาด Big Cleaning Day เพื่อความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยร่วมกันฉีดน้ำล้างถนนพระราม 2  กวาดถนน  ตัดหญ้า  เก็บขยะบริเวณฟุตบาท  เก็บป้ายโฆษณาที่ไม่ได้รับอนุญาตทิ้ง เพื่อไม่ให้บดบังทัศนะวิสัยในการมองของผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้สัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว



  

สำหรับ กิจกรรม  Big Cleaning Day เป็นกิจกรรมแห่งความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ของทุกภาคส่วน ภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการทำกิจกรรมทำความสะอาดบ้านเมืองของจังหวัดสมุทรสาครให้มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เพื่อมิให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยในบริเวณนั้นๆ  และเพื่อการรณรงค์ จิตสํานึก ให้คนสมุทรสาครรักษาความสะอาด การทิ้งขยะให้ถูกทาง เพื่อให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นเมืองน่าเที่ยว น่ามอง น่าอยู่  ต่อไป......










รวบยกแก๊ง "บึงพระราม 9" ลักรถจักรยานยนต์ส่งขายข้ามชาติ ก่อเหตุกว่า 20 คันใน 2 เดือน

วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ. ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 และ พ.ต.อ. ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง พร้อมด้วย พ.ต.ท. ชนภัทร สุขสวัสดิ์ สารวัตรสืบสวน สน.ห้วยขวาง และทีมงานชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายสำคัญที่รู้จักกันในชื่อ "แก๊งบึงพระราม 9" ผู้ต้องหาประกอบด้วย:

 - นายธนกรฯ หรือบัส อายุ 20 ปี (หัวหน้าแก๊ง)

 - นายธีรยุทธฯ หรือป๊อก อายุ 28 ปี

 - นายยุทธนาฯ หรือเป้ อายุ 29 ปี

 - นายอมรพงศ์ฯ หรือเอ็ม อายุ 20 ปี


ทั้งหมดถูกจับกุมตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน"

พฤติการณ์ของแก๊งการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ว่าถูกลักรถจักรยานยนต์ ทีมสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน





จากการสืบสวนเชิงลึก เจ้าหน้าที่ทราบว่าแก๊งนี้มักจะนัดรวมตัวกันบริเวณ บึงพระราม 9 เพื่อวางแผนออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ โดยมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน ตั้งแต่การตระเวนหารถเป้าหมาย เมื่อขโมยได้แล้วก็จะส่งต่อให้สมาชิกอีกคนขับขี่ไปจอดไว้บริเวณถนนพระราม 9 ก่อนจะติดต่อผู้ซื้อให้มารับรถอีกทอดหนึ่ง โดยจะเลือกก่อเหตุในช่วงเวลา 24.00 น. ถึง 04.00 น. และก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ไปแล้วกว่า 20 คันภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน


หลังจากทราบที่อยู่ของกลุ่มคนร้ายทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ได้วางแผนเข้าติดตามและจับกุมผู้ต้องหาได้ยกแก๊งในเวลาต่อมา จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ด้านพ.ต.อ. ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 ได้กล่าวชื่นชมทีมงานชุดสืบสวนของ สน.ห้วยขวาง ที่สามารถคลี่คลายคดีนี้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง และพื้นที่ใกล้เคียงที่กลุ่มผู้ต้องหาออกตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ พร้อมกันนี้ยังได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับเหตุรถหาย หากมีข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ ขอให้เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อไป


ตรวจยึดบุหรี่ลักลอบขนข้ามแนวเทือกเขาบรรทัดจากประเทศเพื่อนบ้าน มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ภูวเนตร เม็ดดี สว.ส.รน.6 กก.5 บก.รน.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.รน.6 กก.5 บก.รน.

        ตรวจยึดของกลาง

 1.บุหรี่ที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ รวมจำนวนบุหรี่      505 คอตตอน 5,050 ซอง  101,000 มวน

    2.รถเก๋ง จำนวน  1  คัน 

สถานที่ตรวจยึด บริเวณลานจอดรถ หมู่ที่ 7 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด


พฤติการณ์  สืบเนื่องจากการสืบสวนหาข่าวและได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบขนบุหรี่โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรผ่านแนวเทือกเขาบรรทัดจากประเทศเพื่อนบ้าน(กัมพูชา) ลงมาตามแนวสันเขาโดยใช้บุคคลแบกใส่หลังลัดเลาะมาตามแนวช่องทางเดินตามธรรมชาติ และมาเก็บใส่รถเก๋งที่เป็นพาหนะในการลำเลียงส่งไปยังผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และพื้นที่ใกล้เคียง โดยผู้ค้ารายย่อยจะเปิดเพจขายทางสื่อสังคมออนไลน์ 


ต่อมาชุดสืบสวนของ ส.รน.6 กก.5 บก.รน. ได้พบกับรถต้องสงสัยตรงตามที่ได้รับแจ้งขับออกมาจากจุดที่รับของจึงได้ติดตามเพื่อจับกุมคนร้าย จนกระทั่งคนร้ายได้ขับรถมาจอดที่เกิดเหตุ บริเวณลานจอดรถหน้าศาล หมู่ที่ 7 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพื่อจะมาส่งให้กับผู้ค้ารายย่อย จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนร้ายได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้ไหวตัว รีบลงจากรถแล้วปิดประตูรถและล็อคประตูรถคันดังกล่าว แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างลานจอดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามในระยะกระชั้นชิด และเรียกให้คนร้ายหยุด แต่คนร้ายได้หันหลังกลับมามองแต่ไม่หยุดแล้ววิ่งหลบหนีต่อไปในความมืดด้วยความชำนาญ โดยบริเวณลานจอดรถดังกล่าวมีแสงสว่างจากเสาไฟฟ้าริมทางส่องสว่างเห็นได้ชัดในระยะ 5 – 15 เมตร จึงได้วางกำลังปิดล้อมที่เกิดเหตุและตรวจสอบโดยรอบบริเวณแล้ว ไม่พบตัวคนร้าย จึงประสานร้อยเวรสอบสวนตรวจที่เกิดเหตุ แล้วนำรถคันดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ที่สภ.คลองใหญ่ และประสานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตราด ร่วมกันทำการตรวจสอบ รถยนต์คันดังกล่าวโดยละเอียด ปรากฏว่าพบกล่องกระดาษห่อด้วยถุงดำภายในบรรจุบุหรี่ต่างประเทศจำนวนมาก ปกปิดด้วยผ้าห่มสีครีมลายดอกไม้สีเขียวและผ้าขนหนูสีน้ำตาลปกคลุมปกปิดไว้ จำนวน 6 กล่อง และฝากระโปรงท้ายด้านหลังรถจำนวน 5 กล่อง จึงได้ร่วมกันทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด  และนำส่งพนักงานสอบสวน  สภ.คลองใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป              


รมวลล.สธ เปิดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข จัด 14 คลินิกดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนชาวสมุทรสาคร พร้อมชวน อสม. นับคาร์บ ลดป่วย NCDs

 

เมื่อเวลา 12.20 น.  ของวันที่ 30 พฤษภาคม 2568  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายนริศ  นิรามัยวงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  ร่วมกันเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข  ภายใต้แนวคิด  “อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs” ที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยมี ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 นพ.ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 5 นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระทุ่มแบน  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน)  เจ้าหน้าที่สาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ และ อสม. เข้าร่วมงานกว่า 1,500 คน

   


สำหรับ การจัดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข  ภายใต้แนวคิด  “อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs”กล่าวว่าเป็นการจัดกิจกรรมเชิงรุกให้คนไทยทุกภูมิภาคของประเทศได้เข้าถึงบริการสาธารณสุข ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพ คัดกรอง ป้องกัน และดูแลรักษา เป้าหมายสำคัญคือลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลในอนาคต จังหวัดสมุทรสาครมีประชากรกว่า 400,000 คน พบผู้ป่วยกลุ่มโรค NCDs  ป่วยเป็นความดันโลหิตสูงสูงสุด  รองลงมาเป็นโรคเบาหวาน และหลอดเลือดสมอง ในการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุขโดยการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเองผ่านกลไก อสม. ซึ่งเป็นแกนนำสุขภาพ สอนนับคาร์บให้กับประชาชนในพื้นที่  



ซึ่ง 14 คลินิกที่เปิดให้บริการ ได้แก่ คลินิกโรคอ้วน, NCDs และตรวจเท้าเบาหวาน, โรคไต, โรคหลอดเลือดสมอง, ต้อกระจกและจอประสาทตา, โรคหัวใจและหลอดเลือด, กระดูกและข้อและผ่าตัดนิ้วล็อก, ตรวจการได้ยิน, คัดกรองมะเร็งลำไส้และ ODS, ตรวจมะเร็งปากมดลูก / ฉีดวัคซีนHPV, ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ , สุขภาพใจ, กายภาพบำบัด และการแพทย์แผนไทย  อีกด้วย.......



สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม โดยนางยลกานต์ เที่ยงแท้ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยนายอาณัติ สนธิทรัพย์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และนายธีรยุทธ พบหิรัญ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน วัดอัมพวันเจติยาราม ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อร่วมวางแผน และดำเนินการจัดหาทุนเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน วัดอัมพวันเจติยาราม (พระปรางค์ พระพุทธรูป พระพุทธไสยาสน์ พระวิหารคด พระที่นั่งทรงธรรม และภูมิทัศน์)

 วันศุกร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘

🔔เวลา ๑๓.๓๐ น.🔔                                                                                                                            

🍃 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม โดยนางยลกานต์ เที่ยงแท้ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยนายอาณัติ สนธิทรัพย์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และนายธีรยุทธ พบหิรัญ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน วัดอัมพวันเจติยาราม ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อร่วมวางแผน และดำเนินการจัดหาทุนเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน วัดอัมพวันเจติยาราม (พระปรางค์ พระพุทธรูป พระพุทธไสยาสน์ พระวิหารคด พระที่นั่งทรงธรรม และภูมิทัศน์) 



🔸 โดยมีพระวชิรรัตนาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ที่ปรึกษาคณะกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน วัดอัมพวันเจติยาราม พระศรีสิทธิวิเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาพฤฒาราม และนางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักศิลปากรที่ ๑ ราชบุรี สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด นายอำเภออัมพวา อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย  โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ เข้าร่วมประชุมฯ ณ เรือนอาวุธสร้าง อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย  (อุทยาน ร.๒) อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม








นายอาคม ศาณศิลปิน ศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการนิเทศการจัดกิจกรรมยุวกาชาดในสถานศึกษา

 วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นายอาคม ศาณศิลปิน ศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการนิเทศการจัดกิจกรรมยุวกาชาดในสถานศึกษา โดยมีนายกฤษธร กรีดกราย นักวิชาการศึกษาชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกลุ่มลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียนกล่าวรายงาน มีครูผู้สอน และผู้บริหารจากสถานศึกษา จำนวน 14 แห่ง เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น 52 คน การประชุมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นางบุศรา แดงเพ็ชร ครูโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี เป็นวิทยากร เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมยุวกาชาดให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และเสริมสร้างประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมยุวกาชาดในสถานศึกษาอย่างยั่งยืน ท่านวิทยากรได้บรรยายครอบคลุมเนื้อหาสำคัญหลายประการ ได้แก่ ประวัติกาชาดและยุวกาชาดไทย แนวทางการจัดกิจกรรมยุวกาชาดในสถานศึกษา การจัดตั้งหมู่ยุวกาชาด รางวัลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับยุวกาชาด แบ่งปันสื่อการสอนกิจกรรมยุวกาชาด และตอบคำถามหรือข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมยุวกาชาด ณ ห้องประชุม โรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร)