ที่ประชุมบอร์ดปาล์มน้ำมันกระบี่ ให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มจัดทำแผนการผลิต การระบายปาล์มที่ค้างลานและการกำหนดโควตาการรับซื้อปาล์ม พร้อมทั้งขอให้เกษตรกรชะลอการตัดปาล์ม โดยให้ตัดปาล์มที่สุกเต็มที่และประสานลานเทก่อนตัดปาล์ม ไม่อยากให้ตัดปาล์มแล้วไม่มีที่ขาย

วันที่ 24 เมษายน 2568 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมปลายพระยา ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ได้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกลไกการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มจังหวัดกระบี่ (Krabi Oil Palm Board) หรือบอร์ดปาล์มน้ำมันกระบี่ ร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนกลไกบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มจังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 1/2568 ร่วมกับผู้แทนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ผู้ทรงคุณวุฒิ นายกสมาคมชาวสวนปาล์มจังหวัดกระบี่ สภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ ชมรมลานเทกระบี่ และตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตปาล์มน้ำมันของจังหวัดกระบี่ล้นตลาด เนื่องจากมีผลผลิตปาล์มออกมามากกว่าปกติ ตามข้อเรียกร้องของสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ โดยในช่วงแรกนายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ติดราชการสำคัญในพื้นที่จึงได้มอบหมายให้นายนิรันดร์ ปราบอักษร ปลัดจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการประชุมไปพลางก่อน จากนั้นผุ้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้เข้าประชุมด้วยตัวเอง ซึ่งมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เช่น เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกระบี่ พาณิชย์จังหวัดกระบี่ อุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ เกษตรจังหวัดกระบี่ สหกรณ์จังหวัดกระบี่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่ รอง ผอ.รมน.จังหวัดกระบี่(ฝ่ายทหาร) เป็นต้น 

โดยที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ มีพื้นที่ปลูกประมาณ 1.2 ล้านไร่ ผลผลิตประมาณ 3.88 ล้านตัน มีเกษตรกร 40,000 ราย โดยผลผลิตออกมากในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม 2568 คาดว่ามีมากถึง 418,000 ตัน ส่วนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มปัจจุบันมีจำนวน 16 โรงงาน มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 1,045 ตันทะลายต่อชั่วโมง หรือประมาณ 20,000 ตันทะลายต่อวัน มีปาล์มค้างลานและติดคิวอยู่บนรถรวมประมาณ 45,000 ตัน เนื่องจากตั้งแต่หลังช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดมากกว่าปกติ แม้ว่าโรงงานสกัดน้ำมันได้เดินเครื่องเต็มกำลังแล้ว แต่ก็ยังมีปาล์มค้างลานและติดคิวอยู่บนรถดังกล่าว 

สำหรับข้อเรียกร้องของสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่และเครือข่าย จำนวน 6 ข้อเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 นั้น ที่ประชุมได้มีการหารือร่วมกันนานเกือบ 5 ชั่วโมง โดยมีข้อสรุปดังนี้ 

ข้อ 1.) ขอให้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการฯปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ เป็นการเร่งด่วนนั้น ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้นัดประชุมในวันนี้ 

ข้อ 2.) ขอให้จังหวัดทำการตรวจสอบกำลังการผลิตที่มีศักยภาพจริงของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทั้ง 16 โรงงาน เพื่อให้เกิดการทำแผนการผลิตให้พอดีกับศักยภาพของแต่ละโรงงาน โดยให้โรงงานมีแผนปริมาณการรับซื้อปาล์มต่อลานเทและเกษตรกรตามกำลังการผลิต และให้โรงงานเดินเครื่องผลิตให้เต็มกำลัง เพื่อระบายผลผลิตปาล์มทะลายที่เกินกำลังการผลิต ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด สภาเกษตรกร และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทั้ง 16 โรงงาน ร่วมกันจัดทำแผนการผลิตเพื่อระบายปาล์มทะลายที่เกินกำลังการผลิตโดยเร็วที่สุด รวมทั้งการจัดสรรโควตาการรับซื้อปาล์มใหม่ให้ลานเทและเกษตรกรรับซื้อปาล์มตามโควตา เพื่อชะลอการตัดปาล์มของเกษตรกรให้ตัดปาล์มที่สุกเต็มที่ เพื่อเร่งระบายปาล์มที่ตกค้างออกก่อน 

ข้อ 3.) ขอให้มีการตรวจสอบอัตราการสกัดน้ำมันปาล์มของโรงงานสกัดเป็นรายวัน โดยมอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดกระบี่ ดึงข้อมูลจากเว็บไซต์กรมการค้าภายใน นำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดทุกสัปดาห์ หากโรงงานใดมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มที่สกัดได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดอย่างมีนัยสำคัญ ให้ลงไปตรวจสอบเพื่อป้องกันการรับซื้อปาล์มดิบ และสร้างความเป็นธรรมด้านราคาในการรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรด้วย 

ข้อ 4.) ขอให้คณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กจร. ใช้อำนาจหน้าที่ตามมาตรา 25(1)กำหนดราคารับซื้อปาล์มน้ำมัน ให้ผู้ซื้อซื้อในราคาไม่ต่ำกว่าที่กำหนด ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดไปปรับปรุงรายชื่อ กจร.ผู้ทรงคุณวุฒิให้ครบตามจำนวนที่กำหนด คือ 9 คน เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามแต่งตั้งในคำสั่งแล้วนัดประชุม กจร.ต่อไป

ข้อ 5.) ขอให้ทำการประชุมสัมพันธ์ต่อเกษตรกร ลานเททั้งจังหวัดกระบี่ เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก ให้ตัดปาล์มเฉพาะที่สุกเต็มที่ และทยอยเลื่อนการตัดปาล์มกึ่งสุก โดยฝากไว้บนต้นทำให้การตัดปาล์มช้าลง จะได้ปาล์มสุกเต็มที่ มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง จะได้ราคาสูงขึ้น มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง 

และ ข้อ 6 .) ขอให้มีการเปิดดำเนินการโรงงานสกัดของบริษัทกระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัดที่อำเภอคลองท่อม ซึ่งทราบว่าปัจจุบันได้ดำเนินการอยู่แล้ว 

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีข้อเสนอเชิงนโยบายต่อคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลไกบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม คณะกรรมการบริหารปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป.ให้เพิ่มอัตราส่วนผสมไบโอดีเซล บี 5 เป็น บี 7 

        นายสมชาย ประชาบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านปาล์มน้ำมัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงงานต้องการช่วยเกษตรกรอยู่แล้ว ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ ปกติช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาโรงงานจะหยุด 3-5 วัน แต่ในเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาโรงงานเดินเครื่องตลอด แต่ด้วยผลผลิตที่ออกมาเยอะ เรามีนโยบายในการช่วยเหลือลูกค้าก่อน ปัจจุบันนี้เรามีแผนในการรับซื้อปาล์มโดยมอบโควตาให้กับลูกค้าที่อยู่ใกล้โรงงานที่เป็นลูกค้าประจำ โดยจะแจ้งว่าแต่ละวันจะรับซื้อได้เท่าไหร่ มีกำลังผลิตแค่นี้ เพื่อให้ลูกค้าไปวางแผนต่อว่าจะตัดปาล์มเมื่อไหร่ สามารถขายปาล์มได้วันละกี่ตัน ซึ่งทางโรงงานพยายามทำกันอยู่ แต่ขอให้สบายใจได้ว่าโรงงานเปิดขึ้นมาเราก็จะเดินเครื่องให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ในช่วงที่ปาล์มเยอะ เพราะว่าหัวใจของการทำธุรกิจในภาวะเช่นนี้เราก็อยากดูแลลูกค้าของเรา เพื่อให้ลูกค้าได้อยู่กับเรา ในช่วงที่ผลผลิตน้อยเห็นความสำคัญกับเรา ขอให้มั่นใจได้นโยบายของจังหวัดทุกอย่างทางโรงงานพร้อมสนับสนุนทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของกระบวนการอุตสาหกรรม ให้เกษตรกรอยู่ได้ ลานเทอยู่ได้ โรงงานอยู่ได้ ในส่วนที่ปาล์มกระจุกมาตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์นั้น ค่อย ๆ ระบายออกไปจนหมด หลังจากนี้จะได้วางแผนในการซื้อว่าซื้อได้วันละกี่ตัน ระบายออกได้กี่ตัน โดยอาศัยการพูดคุยในกลุ่มลูกค้าของเราเอง

นายอธิราษฎร์ ดำดี นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ กล่าวว่า จากการรับฟังรายงานข้อมูลปัจจุบันโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทั้ง 16 โรงงาน มีกำลังการผลิตประมาณ 20,000 ตันต่อวัน แต่มีปาล์มค้างลานและติดคิวอยู่บนรถประมาณ 44,000 ตัน หากไม่มีการซื้อปาล์มเข้ามาใหม่ต้องใช้เวลาเคลียร์ประมาณ 2 วันเศษ เพราะฉะนั้นจากการหารือร่วมกันแล้วเนื่องจากโรงงานไม่สามารถเดินเครื่องผลิตที่ 25,000 ตันต่อวันได้ โรงงานจึงใช้วิธีการลดปริมาณการรับซื้อลงมาประมาณครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตของตัวเองเพื่อให้ปาล์มที่ค้างอยู่และปาล์มที่จะเข้ามาใหม่ได้ทยอยกันออกไป พี่น้องเกษตรกรเองก็ยังสามารถตัดผลปาล์มขายได้เรื่อย ๆ เพียงแต่ว่าให้ตัดปาล์มที่สุกเต็มที่ โดยให้ติดต่อโรงงาน หรือลานเท ก่อนที่จะตัดปาล์ม อย่าตัดแล้วไม่มีที่ส่งหรือไม่มีที่ขายซึ่งจังหวัดเป็นห่วงกันมาก ถ้าหากโรงงานทำแผนลดการรับซื้อลงมาครึ่งหนึ่งแค่ 3-4 วัน ปัญหาปาล์มล้นลาน ปาล์มติดคิวก็จะหายไปทันที หลังจากนั้นก็ขอให้โรงงานประบปรุงกำลังการผลิตว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเดินเครื่องได้เต็มที่ ซึ่งเดือนพฤษภาคม ผลผลิตปาล์มจะออกมากกว่านี้ และพื้นที่จอดรถบริเวณภายในโรงงาน หรือลานเทภายในโรงงานก็ต้องปรับปรุง เพื่อไม่ให้รถมาจอดรอบนผิวจราจรบนถนนหลวงเป็นสิ่งสำคัญมาก ส่วนปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ ถ้าหากมีการชะลอการตัดปาล์มทำให้ปาล์มสุกเต็มที่ก่อน การที่ปาล์มสุกเต็มที่ก็จะทำให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันเพิ่มขึ้น ก็จะได้รับราคาเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งสมาคมกำลังดูให้ราคาเป็นไปตามคุณภาพของปาล์มให้ได้รับราคาที่สูงขึ้น ..

ส.ปชส.กระบี่ ภาพ/ข่าว

Posted in: