pearleus

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2568

หนุ่มขนส่งหัวสูง บุกขโมยหมวกกันน็อคราคาแพงกลางดึก เจ้าของโร่แจ้งความดำเนินคดี

 

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 68 ทีมข่าวได้รับแจ้งจากนายอนุสรณ์ อนุโยธา อายุ 30 ปี ทำอาชีพรับจ้าง (ผู้เสียหาย) ว่าถูกคนร้ายเข้ามาขโมยหมวกกันน็อค ยี่ห้อ Arai สีดำ ราคาประมาณ 16,000 บาท บนรถจยย.ที่จอดไว้ บริเวณลานจอดรถ SCH แมนชั่น ตรงข้ามซ.ประชาราษฎร์ 5 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เบื้องต้นแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองนนทบุรี



     นายอนุสรณ์ (ผู้เสียหาย) กล่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 17 เม.ย. เวลาประมาณ 03.54 น. ตนถูกคนร้าย เป็นชายวัยรุ่น รูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 18 ปี สวมเสื้อแจ็คเก็ต J&T สีแดง ใส่กางเกงยีนส์ขาสามส่วน สวมรองเท้าแตะ ทำทีเดินเข้ามาบริเวณลานจอดรถของแมนชั่น และเดินออกไป ผ่านไปประมาณ 5 นาที คนร้ายขับขี่รถจยย. (ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น) มาจอดบริเวณใกล้เคียงอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบหมวกกันน็อค ยี่ห้อ Arai ราคา 16,000 บาท ของตนเอง และรีบขับขี่รถจยย.หลบหนีไป ซึ่งแถวนี้ตนได้ยินมาว่าหมวกกันน็อคหายบ่อย แต่ตนเพิ่งจะมาโดนขโมยครั้งนี้ ตอนนี้ตนได้มีการแจ้งความไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ดูกล้องวงจรปิดอยู่ว่าคนร้ายหลบหนีไปทางไหนบ้าง โดยตนไม่ได้ลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐาน แต่แจ้งความดำเนินคดี เรื่องหมวกกันน็อคตนไม่ได้สนใจว่าจะได้คืนหรือไม่ เพียงแค่ทำให้เป็นกรณีตัวอย่าง ถ้าเกิดไม่มีก็ไม่ต้องใส่ ไม่ควรมาหยิบของคนอื่น หมวกกันน็อคของตนใบนี้ราคาหมื่นว่าบาท ไม่ได้คาดคิดว่าวางหมวกกันน็อคไว้หน้าบ้านแล้วจะถูกขโมยเกิดขึ้น



     นายอนุสรณ์ (ผู้เสียหาย) กล่าวต่ออีกว่า ซึ่งจากการดูกล้องวงจรปิด คนร้ายมากัน 2 คน ให้เพื่อนรออีกฝั่งส่วนคนก่อเหตุขับขี่รถจยย.ข้ามถนนมา และเข้ามาหยิบหมวกกันน็อคของตนไป หลังจากได้ของแล้วก็ขับขี่รถจยย.ไปรับเพื่อนที่รออยู่ด้านนอก ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้าม ตนเพิ่งมาอยู่ตรงนี้เมื่อต้นปี แต่ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ เพราะฝั่งนี้มีกล้องวงจรปิด กล้องก็ชัดเจน เจ้าของตึกได้ส่งกล้องวงจรปิดให้ตนเพื่อนำหลักฐานไปแจ้งความ หลังจากนี้ตนคงจะล็อครถให้แน่นหนามากกว่าเดิม คิดว่าคนร้ายคงหลบหนีไม่พ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าน่าจะทำเป็นประจำ ทำไปเรื่อยๆ ภายในโซนจังหวัดนนทบุรี คงเป็นคนในพื้นที่ เพราะรู้เส้นทางหลบหนี ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามอยู่ อยากฝากเอาไว้ว่าอย่าไปทำแบบนี้เลย หากได้หมวกกันน็อคคืนก็ไม่โกรธ แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากตนแจ้งความไว้แล้ว ยืนยันจึงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น