จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพวงจรปิด โดยระบุข้อความว่า “คนที่บอกว่าลูกเป็นถึงผู้พิพากษา แต่ตัวเองมายืนชี้บ้านแล้วด่าคนอื่น ตะโกนแหกปากตั้งแต่ช่วงเที่ยงยันเย็น ไปทิ้งขยะก็ยังด่าไม่เลิก แบบนี้เรียกปกติมั้ยคะ? ร้องเรียนหน่วยงานไหนได้บ้าง ช่วยแนะนำด้วยค่ะ แชร์ได้แชร์ค่ะ ลูกเขาจะได้มารับรู้บ้าง #อยากดังเดี๋ยวจัดให้ #กันจอมพลัง #อีซ้อขยี้ข่าว #โหนกระแส #สายไหมต้องรอด #ข่าวคนนนท์ #มนุษย์ป้า หมู่บ้านชื่อดังบนถนน 340 ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี“
วันที่ 23 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับนายโสภณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ผู้เสียหาย (พ่อของเจ้าของโพสต์) ได้นำใบลงบันทึกประจำวัน พร้อมด้วยสำเนาโฉนดที่ดิน บ้านหลังเก่ามาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า สามีของคู่กรณีเป็นลุงของภรรยาตน (ป้าสะใภ้) ซึ่งตนมาซื้อบ้านหลังนี้เมื่อปี 2561 ตอนแรกคุยกันดี เข้า-ออกบ้านตนประจำ พอหลังจากทำบุญบ้านป้าสะใภ้มาถามภรรยาตนว่าผ่อนบ้านเท่าไหร่ เมื่อรู้ว่าบ้านตนซื้อด้วยเงินสดก็ไม่คุยด้วย คาดว่าน่าจะอิจฉา แม่ยายตนก็อยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่ไม่รู้ไปพูดอะไรทำให้เขามองเราไม่ดี ซึ่งแม่ยายตนเข้าใจผิดว่าตนไปโกงบ้านหลังเก่าแล้วเอาไปขายนำเงินมาซื้อบ้านหลังนี้ ทั้งที่จริงๆแล้ว ลูกสาวคนเล็ก (น้องภรรยา) ที่เขาเซ็นยกบ้านแถวสวนผัก 32 ให้เมื่อปี 2547 เป็นคนนำมาประกาศขายเอง เพราะไม่มีเงิน ตนเห็นราคาถูกเป็นเท่าตัวจึงซื้อต่อมาโดยกู้ซื้อกับธนาคารอย่างถูกต้อง จากนั้นได้มีการขายบ้านหลังนั้น ตนจึงนำเงินมาซื้อบ้านหลังปัจจุบันเพื่อนำพ่อตากับแม่ยายมาอยู่ด้วย ตนไม่รู้ว่าแม่ยายไปสื่อสารอะไร เพราะตนก็ไม่ได้อยากนำแม่ยายมาประจาน แต่ป้าสะใภ้ชอบมาด่าภรรยาตนว่าโกงแม่ อวดร่ำรวย ไม่มีปัญญาเลี้ยงแม่ ตะโกนด่า เปิดลำโพงด่า ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนยืนเอาผ้าคุมรถอยู่กับลูกสาว ป้าสะใภ้ทำทีตะโกนคุยกับสุนัขที่บ้านว่า “ให้รีบเข้าบ้าน เดี๋ยวตัวเหี้ยกัด” โดยที่ตนยืนอยู่กัน 2 คน จะไปด่าใคร เหมือนที่เขาตะโกนด่ามาอย่างที่นักข่าวได้ยิน ตนไม่อยากทะเลาะกับคนสติไม่ดี ตนคงไปสู้อะไรไม่ได้เพราะลูกป้าสะใภ้เป็นถึงผู้พิพากษา จังหวัดนนทบุรี
ป้าสะใภ้ชอบพูดว่า “ไม่มีใครทำอะไรกูได้ ลูกกูเป็นผู้พิพากษา” ซึ่งตนก็ไม่เคยคุยกับลูกของป้าสะใภ้ ดูแล้วเหมือนพยายามกันท่าที่จะไม่ให้ตนเจอและพูดคุยกับลูกชายเขา ตอนนี้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนมาก ถูกตะโกนด่าทุกวันจนภรรยาของตนเส้นเลือดในสมองแตก ต้องคอยหลบอยู่ในบ้านเพราะไม่อยากปะทะ ตอนนี้ตนประกาศขายบ้านแล้วในโซเชี่ยล และตนได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนอยากจะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทที่กล่าวหาว่าตนไปโกงแม่ของภรรยา ตนมีหลักฐานทุกอย่าง วันนี้มาร้องสื่อเพราะอยากให้ลูกชายของป้าสะใภ้มาดูแล ต่างคนต่างอยู่ ตนคงไปพูดอะไรไม่ได้มาก ขนาดสุนัขยังหาเรื่องทะเลาะด้วย ไม่รู้สรรหาคลิปด่ามาจากไหน มาเปิดลำโพงให้ครอบครัวตนต้องทนฟังไปด้วย
น.ส.วิลาสินี อายุ 25 ปี ลูกสาวผู้เสียหาย (ผู้โพสต์) กล่าวว่า คู่กรณีเคยกล่าวอ้างว่าลูกเขาเป็นถึงผู้พิพากษา ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่มีปัญหากันนี้เกิดมานานกว่า 6 ปีแล้ว ต้องอยู่แบบหวาดระแวงแม้แต่จะเดินไปทิ้งขยะหน้าบ้าน ยังต้องคอยระวังว่าจะถูกตะโกนด่าหยาบคายหรือไม่ ซึ่งก็เคยมีบ้างที่เกือบจะเกิดการปะทะกัน ล่าสุดที่เกิดเหตุตามกล้องวงจรปิดคู่กรณีตะโกนด่าตลอดเวลา เมื่อพบเจอคนในบ้านตนออกไปนอกบ้าน และก็อยากให้ตนด่ากลับ โดยที่ตนพยายามไม่ตอบโต้
ทุกวันต้องคอยดูวงจรปิด และปิดประตูบ้านไม่ให้ได้ยินว่าบ้านตนพูดคุยอะไรกัน ทั้งที่ต้องการความสงบที่มาอยู่บ้านหลังนี้ ซึ่งเราไม่รู้ว่าบ้านเขาอยู่ตรงนี้ มีคนมาบอกก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นถึงขนาดนี้ ที่บ้านตนไม่อยากเข้าไปคุยด้วยเพราะแม้แต่คนส่งพัสดุยังถูกตะโกนด่า ตนอยากให้สื่อเป็นตัวกลางที่จะทำให้ทั้งบ้านตนและบ้านของคู่กรณีต่างคนต่างอยู่ รวมทั้งเป็นกระบอกเสียงให้ลูกของคู่กรณีรับรู้ คุณเป็นผู้พิพากษา แต่ทำไมถึงปล่อยให้แม่ตัวเองมาสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้าน คนในซอยเดือดร้อนกันหมด แต่ไม่มีใครกล้ายุ่ง ตอนนี้รู้สึกเดือดร้อนและเสียสุขภาพจิตมาก
นอกจากนี้ น.ส.วิลาสินี ยังเปิดคลิปให้ผู้สื่อข่าวดูว่าทุกครั้งที่ครอบครัวตนเองออกจากบ้าน จะถูกคู่กรณีตะโกนด่าทอ บางครั้งก็ด่าผ่านกล้องวงจรปิด หรือเปิดลำโพงเสียงดังหันหน้ามาทางบ้านตนเอง เปิดคลิปคำคม บทความจากไลฟ์โค้ช เช่น อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม และคนอื่นๆ ที่เป็นการด่าทอ พูดถึงการโกงกินคนอื่น อยู่ตลอดเวลา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น