pearleus

วันพุธที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2561

แจ้งจับแก๊งพระยึดวัดร้างหลอกชาวบ้านก่อนโกยเงินหนี

ชาวบ้านแจ้งจับแก๊งพระยึดวัดร้างหลอกชาวบ้านทำบุญสร้างวัด ก่อนโกยเงินและทรัพย์สินหนีหายไป

ที่ กองปราบปราม เมื่อวันที่ 24 ม.ค.เวลา 11.30 น.นายศิริพงษ์ เลิศขวัญวรชัย อายุ 50 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างใน จ.นครราชสีมา พร้อมชาวบ้านใน ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา 10 คนเดินทางเข้าพบ
ร.ต.อ.สุนทร ทองมณี รอง สว.( สอบสวน) กก.3 บก.ป.เพื่อแจ้งความ ดำเนินคดีกับ นายอานนท์ มาตรโคกสูง หรืออดีตพระอานนท์ อายุ 31 ปี กับพวกรวม 5 ราย ในข้อหาลักทรัพย์ของ สำนักสงฆ์วัดบ้านอรุณพัฒนา เลขที่ 96 หมู่ 11 บ้านอรุณพัฒนา ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้วนายอานนท์ และพวกได้เข้ามาจำวัดที่วัดอรุณพัฒนา ซึ่งตอนนั้นเป็นวัดร้าง ต่อมานายอานนท์ ได้เชิญชวนให้ชาวบ้านทำบุญทอดผ้าป่าเพื่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรม และพัฒนาวัด ตนจึงร่วมกับชาวบ้านทอดกฐินหลายครั้งรวมเงินนับล้านบาท เนื่องจากเห็นว่านายอานนท์ เป็นพระหนุ่มนักพัฒนา แต่เวลาผ่านไป 5 ปี ปรากฏว่าเขากลับนำเงินไปเข้าบัญชีส่วนตัว และไม่มีการสร้างอาคารตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

นายศิริพงษ์  กล่าวต่อว่า พวกตนมาทราบภายหลังว่า นายอานนท์ ได้นำเงินบริจาคไปซื้อรถยนต์ให้กับบิดามารดาและตัวเองถึง 4 คัน และเมื่อตรวจสอบใบอนุโมทนาบัตรก็พบว่าพระอานนท์ไม่ใช่เจ้าอาวาส ไม่มีอำนาจลงนามใบดังกล่าว โดยเจ้าคณะอำเภอระบุว่าวัดดังกล่าวไม่มีเจ้าอาวาสปกครอง เสมือนวัดร้าง จึงได้มีการแต่งตั้งพระรูปหนึ่งไปรักษาการเจ้าอาวาส แต่พระกลุ่มดังกล่าวกลับมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเจ้าอาวาส จนเจ้าคณะอำเภอได้มีคำสั่งขับไล่นายอานนท์กับพวกออกจากวัดภายใน 7 วัน แต่ระหว่างนั้นนายอานนท์ได้พาพวกมาเอาแอร์ หม้อหุงข้าว สายไฟ ท่อปะปา ประตู หน้าต่างของกุฏิ พระประธาน ผงกว่า 4 พันองค์ เงินสดกว่า 3 แสนบาท รวมถึงรถยนต์ที่ญาติโยมซื้อถวาย เพื่อกิจของสงฆ์ไปด้วย โดยอ้างว่าทั้งหมดเป็นของที่หาซื้ิอมาด้วยเงินส่วนตัว ทำให้ญาติโยมไม่พอใจและตัดสินใจมาแจ้งความดำเนินคดี

นายศิริพงษ์  กล่าวด้วยว่า จากการสอบถามชาวบ้านยังพบว่ากลุ่มพระอานนท์ได้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อการเป็นสงฆ์ เช่น ซื้อหมูกระทะ อาหารทะเลมาปิ้งย่างในตอนเย็น ไม่ทำวัด ไม่บิณฑบาต และเปิดเพลงเสียงดังเหมือนกับมีงานวัด และเมื่อเกิดเรื่องก็สึกแล้วไปบวชใหม่ในต่างอำเภอ ทำให้กลุ่มชาวบ้านสันนิษฐานว่าพระกลุ่มดังกล่าวนั้นไม่ได้มีเจตนามาบวชเพื่อศึกษาพระธรรม แต่มีเจตนามาบวชเพื่อหลอกลวงเงินบริจาคจากประชาชน


เบื้องต้น พนักงานสอบสวน กองปราบปรามรับเรื่องไว้ และจะตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น