pearleus

วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กลุ่มทวงคืนพลังงานสาครคัดค้านขึ้นราคาแก๊ส LPG



























หลังจากที่รัฐบาลได้มีประกาศจะขึ้นราคาแก๊สแอลพีจีในภาคครัวเรือนและยานยนต์ นับตั้งแต่ปีใหม่ 2556 เป็นต้นไปนั้น ในวันนี้ 20 ธันวาคม 2555 เวลาประมาณ 11.0 น. ก็ได้มีการขับเคลื่อนของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวแล้ว โดยภาคประชาชนที่รวมตัวกันแล้วเรียกตัวเองว่ากลุ่มทวงคืนพลังงานสาครกว่า 30 คนนั้น ก็ได้ขับเคลื่อนขบวนมาที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ไปถึงกระทรวงพลังงานและรัฐบาล โดยในหนังสือได้ชี้แจงถึงปัญหาและทางออกกรณีก๊าซแอลพีจี ซึ่งกลุ่มทวงคืนพลังงานสาคร ได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและการกำหนดราคาแอลพีจีที่เป็นธรรมต่อประชาชน 5 ข้อ คือ ข้อที่ 1 รัฐควรจัดลำดับความสำคัญในการใช้ก๊าซแอลพีจีที่ผลิตได้จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติให้ภาคประชาชนใช้ก่อน เนื่องจากก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแอลพีจีมาจากแผ่นดินไทยอันเป็นทรัพยากรของประชาชน ซึ่งแอลพีจีในส่วนที่เหลือจากการใช้ของภาคประชาชนก็ให้จำหน่ายกับภาคอุตสาหกรรม แต่ถ้าหากไม่เพียงพอให้ภาคอุตสาหกรรมก็ต้องให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้รับภาระในการนำเข้าเอง ข้อ 2 เนื่องจากการให้สัมปทานปิโตเลียมของประเทศไทยเป็นระบบสัมปทานที่รัฐได้รับผลประโยชน์ตอบแทนต่ำที่สุดในอาเซียน ทำให้ผู้รับสัมปทานมีต้นทุนการผลิตก๊าซแอลพีจีที่ต่ำ ซึ่งเมื่อต้นทุนการผลิตแอลพีจีบวกกำไรของผู้รับสัมปทานอยู่ที่ประมาณ 9 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ขณะที่ราคาค้าปลีกแอลพีจีที่จำหน่ายให้แก่ภาคครัวเรือน และภาคยานยนต์ ซึ่งรวมกำไรของผู้ค้าและภาษีแล้ว อยู่ที่ 18.13 บาท ( 18 บาท 13 สตางค์) ต่อกิโลกรัม และ 21.38 บาท ( 21 บาท 38 สตางค์) ต่อกิโลกรัม ตามลำดับ จึงเป็นราคาที่ผู้ค้าได้กำไรมากอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่สมควรที่รัฐจะให้มีการปรับราคาแอลพีจีกับภาคครัวเรือนและภาคยานยนต์เพิ่มขึ้นอีก ข้อที่ 3 ให้เลิกนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปอุดหนุนการใช้แอลพีจีเป็นวัตถุดิบของธุรกิจปิโตรเคมี ข้อที่ 4 ปัญหาหลักกที่ต้องมีการนำเข้าแอลพีจี และมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากประชาชนเกิดจากนำเงินไปอุดหนุนธุรกิจปิโตรเคมีซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ปตท. ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรม จึงควรให้ ปตท. ส่งคืนเงินที่ได้รับชดเชยส่วนต่างราคาแอลพีจีกลับมาให้แก่กองทุนน้ำมันโดยเร็ว และข้อที่ 5 ให้ปลัดกระทรวงและข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงาน แสดงความรับผิดชอบต่อการนำเสนอนโยบายทีเป็นการเอาเปรียบประชาชนด้วยการลาออกจากการเป็นกรรมการของธุรกิจพลังงานทั้งหมด
ทั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้มอบหมายให้นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้ลงมารับหนังสือคัดค้านจากกลุ่มทวงคืนพลังงานสาคร ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนตัวไปยังตลาดมหาชัย เพื่อแจกจ่ายแผ่นพับการคัดค้านดังกล่าวให้กับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น