pearleus

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ครรชิตยอมขึ้นนั่งฟังศาลนัดสืบพยานโจทก์คดียิงนายกตุ่น ขณะที่เฮียม้อเชื่อมั่นความยุติธรรมมีอยู่จริง




ตามที่ศาลจังหวัดสมุทรสาครได้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 20 ธันวาคม 2555 กรณีที่นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2554 โดยมีนายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นบิดาของผู้เสียชีวิต เป็นโจทก์ในการยื่นฟ้อง และมีนายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาครเขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นจำเลยในคดีนั้น ปรากฏว่าเมื่อเวลา 08.50 น.ของวันนี้ นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาครฯ ก็ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อร่วมรับฟังการสืบพยานโจทย์ครั้งแรก ซึ่งตามกฎหมายระบุว่าต้องมีจำเลยมาร่วมรับฟังด้วย ขณะที่ฝ่ายของผู้เสียหายก็เดินทางมาที่ศาลในเวลาเดียวกันมีนายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ ,นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ น้องชายนายอุดรฯ คนในครอบครัวไกรวัตนุสสรณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง  มารับฟังการสืบพยานโจทก์ในครั้งนี้ที่ห้องบัลลังก์ 8  โดยศาลได้เริ่มทำการสืบพยานโจทก์ปากแรกในเวลาประมาณ 10.30 น. ซึ่งในวันนี้ได้นัดสืบพยานโจทก์ทั้งหมด 4 ปากด้วยกัน ส่วนที่บริเวณด้านล่างหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร ก็มีกลุ่มกองเชียร์ของทั้งสองฝ่ายมาเฝ้ารอให้กำลังใจ ซึ่งแม้จะมีการพูดจากระทบกระเทียบกันบ้างเล็กน้อย แต่เหตุการณ์ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งในเวลา 12.40 น. นางทัศนีย์ ทับสุวรรณ มารดาของ ส.ส.ครรชิต ได้ลงมาจากศาลเป็นคนแรก ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม พร้อมกับพูดคุยกับกลุ่มที่มารอให้กำลังใจเกือบ 100 คน ก่อนที่จะขึ้นรถออกไปจากบริเวณหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร
ต่อมาในเวลาประมาณ 12.55 น. นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีก็ได้ลงมาที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ใส่เสื้อจิตอาสา นายกอุดร และผู้ที่มาคอยให้กำลังใจเกือบ 100 คนเช่นกัน เข้ามาหาพร้อมกับแสดงความยินดีกับเฮียม้อ ที่วันนี้กระบวนการยุติธรรมได้เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งทางด้านของนายมณฑลเองก็ได้เปิดใจว่าการเดินทางมาในครั้งนี้ตนเองไม่ได้เข้าไปนั่งฟังในห้องไต่สวนสืบพยานโจทย์ เพราะมีคนในครอบครัวเข้าไปรับฟังแล้ว แต่โดยส่วนตัวก็เชื่อมั่นว่าความยุติธรรมยังมีอยู่จริง เพราะพยานคนสำคัญที่มาให้ปากคำในวันนี้ เป็นบุคคลที่ไม่รู้จักใครเลยทั้งนายกตุ่น หรือแม้แต่ผู้ที่ตกเป็นจำเลยในคดี ซึ่งการพิจารณาคดีนั้นตนเองและครอบครัวก็อยากจะให้เรื่องนี้ดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งไม่เป็นการดีสำหรับฝ่ายโจทย์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลที่ต้องทำไปตามกระบวนการ
                ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้ถามกับนายมณฑลฯ ว่า ในการสืบพยานโจทย์วันนี้เป็นวันที่ใกล้กับวันที่นายอุดรถูกยิงเสียชีวิตนั้น ทางด้านของเฮียม้อมีอะไรที่อยากจะบอกกับดวงวิญญาณของอดีตนายก อบจ.หรือไม่ ซึ่งคำถามนี้ก็ทำให้นายมณฑล ถึงกับตาแดงและพูดไม่ออก บอกได้เพียงแค่ว่า ความยุติธรรมกำลังเกิดขึ้นกับลูกชายแล้ว จากนั้นก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร
                และในเวลาประมาณ 13.15 น. นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร จำเลยในคดีก็ได้เดินลงมาขึ้นรถที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีกลุ่มคนที่เฝ้ารอเข้าไปให้กำลังใจพร้อมกับส่งเสียงเชียร์และมอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจ ซึ่งนายครรชิตก็ได้กล่าวเพียงสั้นๆว่า เรื่องการสืบพยานโจทก์ในวันนี้ ตนเองมีหน้าที่เพียงแค่มานั่งรับฟังพร้อมกับทนายความอีก 4 คนเท่านั้น และโดยส่วนตัวก็ไม่เคยคิดหนีไปไหนตามที่มีกระแสข่าวออกมา ส่วนเรื่องการต่อสู้คดีขอให้เป็นหน้าที่ของทนาย และเรื่องการตัดสินคดีก็เป็นอำนาจหน้าที่ของศาลที่ท่านจะพิจารณา โดยส่วนตัวไม่ขอพูดอะไรทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากที่นายครรชิตให้สัมภาษณ์สั้นๆ เสร็จแล้ว ก็ได้ขึ้นรถขอตัวไปรับประทานอาหารก่อนที่จะกลับมารับฟังการสืบพยานโจทก์ต่อ โดยต้องใช้เวลายาวนานถึง 6 ชั่วโมง นับตั้งแต่การสืบพยานโจทก์ปากแรกจนถึงปากสุดท้าย
                สำหรับการนัดสืบพยานโจทก์นั้น ก่อนหน้านี้ศาลจังหวัดสมุทรสาครได้นัดนายครรชิต ทับสุวรรณ ให้มารับฟังการสืบพยานโจทก์ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 12 และ 13 ธันวาคม เวลา 09.00 – 10.30 น. ที่ผ่านมา แต่นายครรชิตได้ยื่นเรื่องต่อศาลเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2555 ตามคดีหมายเลขดำที่ 4591/2555 ขอเลื่อนมาเป็นวันที่ 20 ธันวาคม 2555 เนื่องจากติดภารกิจต้องเดินทางไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศกับคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬาสภาผู้แทนราษฎร 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น