สกู๊ปออนไลน์เจาะลึก นริส. อยู่ในใจ....ด้วยสายใยผูกผัน เลี้ยงอำลา : การมาอยู่ เกือบปี

“ผู้ว่าฯ นริศ” ปฏิบัติการเปลี่ยนสมุทรสาคร

ค่ำคืนวันที่ 29 กันยายน 2568 สมุทรสาครทั้งจังหวัดร่ำไห้… ไม่ใช่แค่เลี้ยงอำลา แต่คือการรวมใจครั้งใหญ่ เพื่อส่ง นาย นริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ไปสานภารกิจใหม่ในฐานะผู้ว่าฯ ชลบุรี

วันที่ 30 กันยายน 2568… วันสุดท้ายที่ “พ่อเมืองเหล็ก” นาย นริศ นิรามัยวงศ์ ยังสวมเครื่องแบบผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนก้าวสู่ตำแหน่งใหม่ที่ชลบุรี เช้านั้นเขาและนางสุพิณญา นิรามัยวงศ์ ภริยา ได้ออกเดินสายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วเมือง—ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง, พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5, หลวงปู่แก้ว, พระพุทธมหาชัยสิทธิมงคล, พระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธนวราชบพิตร เพื่ออำลาและขอพร ก่อนเก็บข้าวของกลับจวน เตรียมออกเดินทางในรุ่งเช้าวันถัดไป

🔎 10 เดือนกว่า แห่งการเปลี่ยนแปลง: “จากเมืองอึมครึมสู่เมืองสว่าง”

เพียง 365 วัน แต่ “นโยบายผู้ว่าฯ นริศ” กลายเป็นกรณีศึกษาให้ทั้งประเทศจับตามอง

1. บริหารเชิงรุก – ไม่รอให้ปัญหามาหา

แทนที่จะนั่งรอรายงาน เขาเลือกลงพื้นที่ทันที น้ำท่วม-ไฟดับ-โรงงานเดือดร้อน เขาอยู่หน้างานเสมอ “สายลุย” ของจริง จนเกิดวลีติดปากว่า “ไม่รู้จักวันหยุด คือนริศ”

2. ปราบระบบราชการเช้าชามเย็นชาม

ประโยคเด็ดวันเข้ารับตำแหน่ง 1 ต.ค. 2567 คือหมุดหมาย:

“งานต้องจบ ถ้าไม่เดิน ผมจะแจ้งต้นสังกัดว่าคุณไม่ทำตามคำสั่งผู้ว่าฯ”

คำนี้ทำให้หัวหน้าส่วนราชการขยับตัวทั้งจังหวัด ผลคือโครงการสำคัญเดินหน้าแบบไม่สะดุด

3. ฟื้นความเชื่อมั่น – จากแรงงานถึงนักธุรกิจ

สมุทรสาครเคยถูกมองว่าเป็น “เมืองแรงงานราคาถูก” แต่ในยุคนริศ ภาคเอกชนกลับเชื่อมั่นว่ามีผู้ว่าฯ ที่จริงจัง แก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว สุขอนามัยอาหารทะเล และการค้าชายฝั่งอย่างเข้มแข็ง

4. ภาพลักษณ์ใหม่ – “พ่อเมืองข้างประชาชน”

ทุกวิกฤติ ไม่ว่าจะพายุ “เคน” ที่ถล่ม หรือโควิดระลอกย่อยที่ยังหลงเหลือ เขาคือคนแรกที่ยืนเคียงข้างชาวบ้าน ทำให้ประชาชนรู้สึกว่า “ผู้ว่าฯ อยู่ตรงนี้ ไม่ได้อยู่บนหอคอยงาช้าง”

⚖️ เปรียบเทียบ “ก่อน–หลัง นริศ”

• ก่อนตุลา 2567: สมุทรสาครถูกมองว่าหนักอึ้ง ปัญหาทับถม ราชการเชื่องช้า

• หลัง 10 เดือนกว่าของ นริศ: กลายเป็นเมืองที่คนทำงานแข่งกับเวลา โครงการท้องถิ่น–เอกชน–รัฐวิสาหกิจเชื่อมโยงกันทันตาเห็น

💬 เสียงสะท้อนในงานอำลา 29 ก.ย. 2568

“เขามาเกือบปี แต่เปลี่ยนโฉมเมืองได้มากกว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา” – นักธุรกิจท้องถิ่น

“ผู้ว่าฯ แบบนี้ เราอยากให้ไทยมีอีกสักสิบคน” – ข้าราชการอาวุโส

🚩 บทสรุป

30 กันยายน 2568 ปิดฉาก “เกือบ 1 ปีสมุทรสาคร” ของนริศ นิรามัยวงศ์ แต่เปิดฉาก “ชลบุรีโมเดล” ที่หลายคนเฝ้าจับตา คำถามคือ—เขาจะเปลี่ยนบ้านเกิดได้ยิ่งใหญ่แค่ไหน? และสมุทรสาครจะรักษามาตรฐานที่เขาวางไว้ได้หรือไม่?

นี่คือสกู๊ปที่ไม่ได้เขียนด้วยหมึก แต่ด้วย เหงื่อ น้ำตา และความหวัง ของคนทั้งเมือง

Posted in: ข่าวสมุทรสาคร,บทความพิเศษ