pearleus

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568

สกู๊ปออนไลน์ กาชาดสมุทรสาครลงพื้นที่ มอบถุงยังชีพ 250 ครัวเรือน เติมกำลังใจยามยาก

เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่วันที่ 3 กันยายน 2568  เสียงปรบมือกึกก้องไปทั่วอาคารประชุมเทศบาลเมืองพันท้ายนรสิงห์ เมื่อ นาย นริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก้าวเข้าสู่พิธีเปิดโครงการกาชาดมอบถุงยังชีพ พร้อมด้วยคู่ชีวิต นางสุพิณญา นิรามัยวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร และคณะกรรมการเหล่ากาชาดฯ ที่ตั้งใจเดินทางมาเพื่อส่งต่อพลังแห่งน้ำใจให้ประชาชนถึงพื้นที่

ในงานนี้ ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้กล่าวต้อนรับด้วยน้ำเสียงจริงใจ รายงานข้อมูลพื้นที่ที่ยังคงมีผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ และกลุ่มเปราะบางที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะชุมชนพันท้ายนรสิงห์และโคกขาม ที่วันนี้มีประชาชน รวม 250 ครัวเรือน เดินทางมารับสิ่งของจำเป็นเพื่อบรรเทาทุกข์


ไม่เพียงเท่านั้น บรรยากาศอบอุ่นยิ่งขึ้นเมื่อ นายวัฒนา แตงมณี นายกเทศมนตรีเมืองพันท้ายนรสิงห์ ร่วมให้การต้อนรับและดูแลพี่น้องชาวบ้านในพื้นที่ด้วยตัวเอง ตอกย้ำพลังความร่วมมือของผู้นำท้องถิ่นและจังหวัด ที่พร้อมลงมือทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวอย่างหนักแน่นว่า ถุงยังชีพเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งของ แต่คือ “กำลังใจ” ที่มาจากรายได้การจัดงานกาชาด สลากกาชาดการกุศล และการบริจาคของชาวสมุทรสาครผู้มีน้ำใจ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนให้กับประชาชนที่กำลังลำบาก ทั้งนี้ ผว.สค.พร้อมด้วย นางสุพิณญา นิรามัยวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร และคณะกรรมการเหล่ากาชาดฯยังได้เดินทางไปมอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ให้แก่ผู้ป่วยติดเตียงอีก 2 หลายอีกด้วย


สรุปชัด ๆ  โครงการกาชาดครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแจกถุงยังชีพ แต่คือการแสดงพลังของ “ความร่วมมือ” ที่ผสานทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น และประชาชน เพื่อสร้างรอยยิ้มและความหวังในวันที่หลายครอบครัวต้องเผชิญความยากลำบาก




แหกตา “เหมียวน้อยขายยา”! ผัวเมียสุดแสบเปิดร้านออนไลน์ขายไอซ์ แต่สุดท้ายไม่รอดตำรวจ พิกัดดังทั่วโซเชียล!

นนทบุรี-ปทุมธานี – งานนี้มีสะเทือนวงการคนชอบของเถื่อน! เมื่อแก๊ง “ผู้กองแมว” หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.1 ได้เปิดปฏิบัติการเด็ดหัว “MEOWSNOW SHOP” ร้านค้าออนไลน์สุดป่วนบนแอปฯ X (เอ็กซ์) ที่ลักลอบโฆษณาขายยาเสพติดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เล่นเอาชาวเน็ตแห่เข้าไปส่องกันเพียบ

จับตาผัว-เมีย แสบตัวตึง!

เบาะแสสุดร้อนแรงส่งตรงจากเจ้าหน้าที่ว่า เจ้าของบัญชีนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคู่รักสุดอันตราย "นาย A" และ "น.ส. B" ที่พักอาศัยย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี โดยทั้งคู่ใช้บ้านเป็นฐานบัญชาการลับในการแพ็กยาเสพติดใส่กล่องพัสดุ ส่งตรงถึงมือลูกค้าที่ติดต่อผ่านช่องทางโซเชียล เจ้าหน้าที่ได้สะกดรอยตามอย่างเงียบๆ จนแน่ใจว่าได้ตัวการใหญ่

รวบคาที่หน้าบริษัท KEX!

แล้ววินาทีระทึกก็มาถึง!

เมื่อเวลา 14.30 น.ของวันที่ 2 กันยายน 2568 นาย A และ น.ส. B ได้ขับรถเก๋ง Nissan Almera สีดำ พร้อมกล่องพัสดุปริศนาตรงดิ่งไปที่บริษัทขนส่งชื่อดังอย่าง KEX สาขาบางคูวัด จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มโป่งอยู่ไม่รอช้า เข้าชาร์จตัวทันที! ตรวจสอบกล่องพัสดุสุดพิลึก พบของกลางที่ซ่อนอยู่คือ "ไอซ์" หนักกว่า 10 กรัม พร้อมส่งให้ลูกค้าที่กำลังรอรับอย่างใจจดใจจ่อ!

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังยึดทรัพย์สินของผัว-เมียคู่นี้ได้อีกเพียบ รวมมูลค่าสูงถึง 900,000 บาท! งานนี้ต้องปรบมือให้ตำรวจที่ตามแกะรอยจนสามารถลากคอเจ้าของร้าน “MEOWSNOW SHOP” เข้าซังเตได้สำเร็จ

'ผู้ว่าฯ นริศ' ลุยเอง! ปิดตำนาน 'อันดามัน' บาร์ลับเมืองสมุทรสาคร ซีลผับเถื่อน! เจอทั้งยาเสพติด-ต่างด้าวผิดกฎหมาย คดีพลิกหลังมีเหตุยิงกันเลือดสาด!

สมุทรสาคร - เมื่อเวลา 01.00 น.ของวันที่ 3 กันยายน 2568 นาทีนี้คงไม่มีใครร้อนแรงเท่ากับ "นายนริศ นิรามัยวงษ์"

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครอีกแล้ว! หลังผุดไอเดียสุดโต่ง ยกทีมชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองบุกจู่โจมร้านอาหาร "อันดามัน" ย่านตัวเมืองสมุทรสาคร หลังมีเสียงร่ำลือหนาหูว่าบาร์แห่งนี้มีพฤติกรรมสุดแสบ จนล่าสุดเกิดเหตุยิงกันจนมีผู้บาดเจ็บถึง 3 ราย! งานนี้ผู้ว่าฯ ถึงกับทนไม่ไหว ต้องลงมาบัญชาการด้วยตัวเอง!

ปฏิบัติการสุดระห่ำเริ่มขึ้นเมื่อทีมเจ้าหน้าที่กรูเข้าร้านแบบไม่ทันตั้งตัว! และผลลัพธ์ที่ได้ก็ทำเอาอึ้งกันไปทั้งทีม เพราะสิ่งที่เห็นไม่ใช่แค่ร้านอาหารธรรมดา แต่เป็น "สถานบริการเถื่อน" เต็มรูปแบบ! ที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังกล้าท้าทายกฎหมายด้วยการแอบ "ขายเหล้าเกินเวลา" อย่างไม่เกรงกลัว

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น! เพราะการบุกตรวจค้นครั้งนี้ไม่ได้มีแค่การจับกุมความผิดซึ่งหน้า แต่ยังได้สาวไปถึงต้นตอของสารเสพติดและแรงงานเถื่อนที่ซุกซ่อนอยู่ภายในร้านอีกด้วย! เจ้าหน้าที่สั่งตรวจปัสสาวะลูกค้าและพนักงานรวม 47 คน ผลปรากฏว่าพบ พนักงานสาวสวย (PR) ถึง 5 ราย มีสารเสพติดในร่างกาย! งานนี้ไม่ใช่แค่บาร์ธรรมดา แต่เป็นแหล่งมั่วสุมชั้นดี!

ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือการค้นพบ แรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวถึง 4 ราย ที่ทำงานในร้านอย่างโจ่งแจ้ง และที่พีคสุดๆ คือในจำนวนนี้ มีถึง 2 รายที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง! งานนี้ไม่ได้แค่ผิดกฎหมายสถานบริการ แต่ยังพ่วงด้วยความผิดตาม พ.ร.ก. การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งในส่วนของลูกจ้างและเจ้าของร้านอีกด้วย!

รายงานระบุว่า หลังจากนี้ทางกลุ่มงานความมั่นคงจะเร่งสรุปผลการจับกุมทั้งหมด เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาสั่ง "ปิดร้านอันดามัน" อย่างเด็ดขาด! เป็นอันจบสิ้นตำนานบาร์สุดฉาวที่เปิดมาท้าทายกฎหมายมายาวนาน

การจู่โจมครั้งนี้ของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปถึงสถานบริการผิดกฎหมายทุกแห่งว่า ถึงเวลาต้องปิดกิจการได้แล้ว! เพราะอำนาจรัฐไม่ปล่อยให้ใครมาลอยนวลอยู่เหนือกฎหมายได้อย่างแน่นอน!

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568

กาชาดสมุทรสาครลงพื้นที่กระทุ่มแบน มอบถุงยังชีพ สร้างกำลังใจแก่ผู้ยากไร้


เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 2 กันยายน 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย

นางสุพิณญา นิรามัยวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร และคณะกรรมการเหล่ากาชาด ลงพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน มอบถุงยังชีพตาม “โครงการกาชาดให้การสงเคราะห์ มอบถุงยังชีพบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขปวงประชา ประจำปี 2568”

โดยมี นายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี

นายอำเภอกระทุ่มแบน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้ส่งมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส จำนวน 150 ราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการดำรงชีวิต

กิจกรรมดังกล่าวเกิดจากรายได้การจัดงานกาชาดและน้ำใจจากผู้มีจิตศรัทธาชาวสมุทรสาคร นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สะท้อนพลังแห่งการแบ่งปัน ช่วย “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง

ชาวนนท์เฮ! มิติใหม่แห่งการบริการ “บางใหญ่” เปิดสำนักทะเบียนท้องถิ่นแล้ว!

นนทบุรี – (1 กันยายน 2568) ปลัดชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี สั่งลุยเดินหน้าพัฒนาการบริการประชาชนแบบสุดลิ่มทิ่มประตู! ล่าสุดได้เป็นประธานเปิดโครงการอบรมกฎหมายพร้อมกับเปิดตัว สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองบางใหญ่ อย่างเป็นทางการ งานนี้บอกเลยว่าชาวบางใหญ่ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางเข้าเมืองเพื่อทำเรื่องทะเบียนราษฎรอีกต่อไป!

สะดวก ประหยัด เข้าถึงง่าย ไม่ต้องรอแล้ว!

งานนี้เรียกได้ว่าพลิกโฉมการให้บริการประชาชนอย่างแท้จริง เพราะสำนักทะเบียนท้องถิ่นแห่งใหม่นี้จะช่วยให้ชาวบางใหญ่เข้าถึงบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ทั้งการทำบัตรประชาชน, แจ้งเกิด-แจ้งตาย, ย้ายเข้า-ย้ายออก หรือแม้แต่การขอทะเบียนบ้านก็ทำได้ที่นี่ที่เดียว!


ด้วยนโยบายที่มุ่งเน้นความสะดวกและประหยัดเวลาให้กับประชาชน ทำให้การบริการภาครัฐไม่ได้อยู่แค่ในศูนย์ราชการที่ไกลหูไกลตาอีกต่อไป แต่มาอยู่ในชุมชนใกล้บ้านคุณแล้ว!

กฎหมายทะเบียนราษฎร หัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ


นอกจากจะอำนวยความสะดวกแล้ว การอบรมกฎหมายในครั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของ “ฐานข้อมูลประชากร” ที่ถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการวางแผนและพัฒนาประเทศในทุกๆ ด้าน ทั้งการจัดเก็บภาษี, การเลือกตั้ง, การรักษาความปลอดภัย, ไปจนถึงการจัดสรรสวัสดิการของรัฐ การเปิดสำนักทะเบียนแห่งใหม่นี้จึงไม่ใช่แค่การเปิดจุดบริการธรรมดาๆ แต่เป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของคนในชาติอย่างแท้จริง!





สกู๊ปพิเศษ : ป.ป.ช.สมุทรสาคร เปิดเกมรุกปี 2568 “ล้างโกง” ทุกซอกทุกมุม

สมุทรสาคร – บ่ายของวันที่ 1 ก.ย. 2568 ห้องประชุมสำนักงาน ป.ป.ช.

น.ส.นิตรา เพิ่มทรัพย์ ลิ้มกาญจนาพันธุ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.สมุทรสาคร และโฆษกหน่วยงาน เปิดเวทีแถลงผลงานประจำปีงบประมาณ 2568 พร้อมคำประกาศชัด “ปีนี้ไม่ใช่แค่ตรวจสอบ แต่คือการเปิดศึกใหญ่ปราบโกงเชิงรุก!”

ในงานนี้ยังมี นางสายเพชร จังกาจิตต์ หัวหน้าประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมให้การสนับสนุนและประสานงานกับสื่อมวลชน ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ทำให้เวทีแถลงข่าวมี

นักข่าวที่รอฟังประเด็นร้อน

🎯 ไฮไลต์ผลงานปีนี้ชัดเจนใน 3 ด่าน — ไต่สวนการทุจริต, ตรวจสอบทรัพย์สิน, และ ป้องกันการโกงเชิงระบบ ซึ่งถูกขับเคลื่อนอย่างเข้มตามนโยบายเลขาธิการ ป.ป.ช.

สิ่งที่สะเทือนใจสังคม คือคำย้ำหนักแน่นของ น.ส.นิตรา ที่บอกว่า

“ทุจริตมันฝังรากลึกในทุกพื้นที่ ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาปราบอย่างจริงจัง วันหนึ่งประชาชนจะหมดศรัทธา”

👉 ปี 2568 จึงเป็นปีที่ ป.ป.ช.สมุทรสาครเดินหน้าสร้าง เครือข่ายประชาชนร่วมเฝ้าระวัง ตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงภาคธุรกิจ เพื่อให้การต่อต้านคอร์รัปชันกลายเป็นพลังร่วมของทั้งจังหวัด

⚡ การแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ใช่แค่สรุปผลงาน แต่คือ “สัญญาณเตือน” ไปยังผู้มีอิทธิพลทุกกลุ่มในพื้นที่ ว่าการโกงไม่มีทางรอดสายตา ป.ป.ช. อีกต่อไป