เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 18 ก.ค. 2568 ที่ห้องประชุมวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร พระราชวัชรสาครคณี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยเจ้าคณะระดับต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือแนวทางเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขสถานการณ์ข่าวสารที่กระทบความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่
ก่อนการประชุม พระราชวัชรสาครคณี ยังได้นำเงินส่วนหนึ่งจากอดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ลาสิกขาแล้ว ส่งคืนวัดเพื่อใช้ในค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยเงินจำนวนกว่า 30,000 บาท เป็นยอดเงินบริจาคที่เหลือจากการจัดการก่อนหน้านี้
การประชุมเน้นสร้างความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครองกับคณะสงฆ์ เพื่อเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา พร้อมชี้แจงแนวปฏิบัติการเปิดบัญชีวัด การจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย และแนวทางจัดการพระภิกษุกระทำผิดวินัย
พระราชวัชรสาครคณี ยืนยันกรณีอดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท “มหาทิวากร” หรือ “ทิดทิ” ที่ลาสิกขาเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าไม่ได้กระทำปาราชิก แต่สึกเพื่อความสบายใจของคณะสงฆ์ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด และสั่งเจ้าคณะตำบลทุกแห่งเข้มงวดตรวจสอบวินัยสงฆ์ในพื้นที่
นายนริศ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ระบุว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครองกับคณะสงฆ์ เพื่อเสริมสร้างความศรัทธาของประชาชนและควบคุมดูแลพระสงฆ์ให้เป็นไปตามระเบียบ ขณะเดียวกันยังมีการกำชับให้ตรวจสอบอย่างรวดเร็วหากพบปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยเรื่องการใช้เทคโนโลยี เช่น QR Code สำหรับบริจาคเงินวัด การทำบัญชีวัดในระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการตั้งกรรมการดูแลทรัพย์สินวัดเพื่อเพิ่มความโปร่งใส
เจ้าคณะจังหวัดฯ ฝากถึงประชาชนและสื่อมวลชน หากพบการกระทำที่ส่งผลเสียต่อพระพุทธศาสนา ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทันที เพื่อร่วมกันปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น