pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

รมช.มท. ตรวจเยี่ยมการให้บริการของสำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร

หลังมีประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมขาย โอน  เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล และก่อนจะมีการปรับราคาประเมินที่ดินใหม่ ในวันที่ 1 มกราคม 2559
          เมื่อ 30 ธ.ค. 58 เวลา 14.00 น. นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชนของสำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีประชาชนมาขอรับบริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันหยุดราชการในช่วงเทศกาลปีใหม่
          โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจเยี่ยมการทำงานและกระบวนการให้บริการต่างๆ พร้อมให้กำลังใจแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของกรมที่ดินทุกคน ที่ได้ร่วมกันให้บริการประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ได้กำหนดให้ลดค่าธรรมเนียมการโอน การจำนอง เหลือร้อยละ 0.01 ทำให้ประชาชนเร่งทำนิติกรรมเพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนตามมาตรการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ประกอบกับกรมธนารักษ์ได้ประกาศปรับราคาประเมินที่ดินใหม่โดยบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนสิ่งปลูกสร้างใหม่สำหรับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ  และนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 นี้เป็นต้นไป
          ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมที่ดินพบว่าก่อนมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครและสาขา มียอดผู้เข้ารับบริการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2558 – ถึงวันที่ 30 กันยายน 2558 ( 2 เดือน) จำนวน 77,266 ราย ภายหลังมีมาตรการฯ มีผู้เข้ารับบริการงานทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2558 ถึงปัจจุบัน กว่า 1.2 แสนราย โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เข้ารับบริการเพิ่มขึ้น กว่า 5 – 6 เท่า จากเดิม 150 รายต่อวันเป็นกว่า 650 รายต่อวัน เฉพาะวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมาในกรุงเทพมหานครมีผู้มารับบริการงานทุกประเภท จำนวน 5,587 ราย
          ในส่วนของต่างจังหวัดโดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ เช่น จังหวัดชลบุรี นครราชสีมา และจังหวัดสงขลา มีผู้เข้ารับบริการเฉลี่ยวันละกว่า 300 รายต่อวัน โดยสำนักงานที่ดินทุกแห่งได้เปิดให้บริการประชาชนตั้งแต่เวลา 08.00 น. ไปจนกว่างานทุกรายจะแล้วเสร็จ ซึ่งบางแห่งต้องให้บริการถึงเวลา 02.00 น. ในภาพรวมเป็นไปด้วยเรียบร้อยสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของกระบวนการทำงาน สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงบริการด้านอื่นๆ ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน







วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

นครปฐมผู้ว่าฯออกเยี่ยมจุดตรวจจุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่

วันที่ 30 ธันวาคม 2558 นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมคณะ ออกเยี่ยมจุดตรวจและจุดบริการประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ณ บริเวณหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดนครปฐม อำเภอเมือง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการเดินทางให้กับประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งได้มีการตั้งจุดตรวจรถโดยสารประจำทาง ทั้งรถตู้ รถทัวร์ และจุดตรวจวัดความเร็ว โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีการตรวจสภาพร่างกายของผู้ขับขี่ ว่ามีการพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ ซึ่งดูจากสมุดลงเวลาการขับรถจากต้นทางถึงปลายทางในแต่ละวัน จะต้องไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง อีกทั้งทั้งผู้ขับขี่จะต้องผ่านการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย และตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ จากเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม และนอกจากนี้ได้ตรวจความพร้อมของตัวรถ อาทิ ไฟส่องสว่าง ไฟสูง ไฟต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ที่ปัดน้ำฝน และยางรถ จะต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

จากการตรวจสอบยังไม่พบผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทางรายใดที่กระทำความผิด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้กำชับเจ้าหน้าที่ขนส่ง และผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทาง ให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เนื่องจากพี่น้องประชาชนจะเดินทางสัญจรกันเป็นจำนวนมาก ทั้งกลับไปเยี่ยมญาติ และพักผ่อนท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครปฐมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้เจ้าหน้าที่มีความพร้อม มีความเข้มแข็งและอดทนในการปฏิบัติหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการเดินรถโดยสารให้แก่พี่น้องประชาชน หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้มอบน้ำดื่ม กาแฟ นม และน้ำผลไม้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย















กระทรวงมหาดไทยห่วงความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่

กระทรวงมหาดไทยห่วงความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่
กำชับทุกจังหวัดคุมเข้มสถานบริการ เครื่องเล่นให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
  เมื่อ 30 ธ.ค. 58  ที่กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เนื่องด้วยขณะนี้   เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สถานบริการจะมีการจัดงานหรือกิจกรรมพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่    เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนที่จะเข้าไปใช้บริการในสถานบริการและสถานประกอบการต่างๆ
          กระทรวงมหาดไทยจึงได้กำชับให้ทุกจังหวัด ดำเนินมาตรการควบคุมสถานบริการทุกแห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันสถานบริการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในช่วงที่มีการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เช่น     การเข้มงวดเรื่องเวลาเปิด ปิด ของสถานบริการ กวดขันมิให้ผู้อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการในระหว่างเวลาทำการ ควบคุมไม่ให้มีการนำอาวุธเข้าไปในสถานบริการโดยเด็ดขาด และป้องกันมิให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด    ในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการสถานบริการ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ตรวจสอบระบบความปลอดภัยในอาคารสถานบริการ เช่น การติดตั้งถังดับเพลิง อุปกรณ์ดับเพลิงต่างๆ ประตูทางเข้า ออก ทางหนีไฟ การติดตั้งระบบสัญญาณแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ ระบบไฟส่องสว่าง และไม่ให้มีการใช้อุปกรณ์ประกอบการแสดงที่อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้หรือเกิดระเบิดได้โดยเด็ดขาด และกำชับให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ตรวจสอบดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้เข้าใช้บริการ เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมและการมั่วสุมภายในพื้นที่โรงแรม ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอความร่วมมือแจ้งไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้กำชับสถานีตำรวจนครบาลดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวด้วย รวมไปถึงการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยของเครื่องเล่นตามสถานบริการและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเครื่องเล่นไว้ให้บริการ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
          นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ กระทรวงมหาดไทย   ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรม สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ พุทธศักราช 2559” ซึ่งจัดขึ้น ตามมติคณะอนุกรรมการกำกับติดตามการส่งเสริมคุณธรรมในสังคมไทย เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่   จากรัฐบาล นำความเป็นไทยสู่ใจประชาชน โดยให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ประสานงานโครงการสวดมนต์ข้ามปีระดับจังหวัด และระดับอำเภอ เพื่อทำหน้าที่ประสานงานในระดับพื้นที่ สนับสนุนคณะสงฆ์ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว และให้ทุกหน่วยงานในจังหวัดร่วมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในบทบาทของแต่ละหน่วยงาน เช่น มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ตกแต่งสถานที่ การเป็นจิตอาสาร่วมจัดกิจกรรม เป็นต้น รวมทั้งให้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในภาพรวมของจังหวัด เพื่อเผยแพร่เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้คนไทยได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เกิดความเป็นสิริมงคลความร่มเย็นเป็นสุขทั้งต่อตนเอง ต่อสังคม และประเทศชาติต่อไป


กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย มอบของขวัญปีใหม่ 2559

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ดำเนินโครงการ “ท้องถิ่นไทยใส่ใจความสะอาด คนในชาติมีความสุข” โดยประยุกต์ผ่านโครงการมอบของขวัญปีใหม่ 2559 “เสริมสร้างชีวิตใหม่ ให้คนไทยมีความสุข” ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “รู้ รัก สามัคคี” ที่มุ่งเน้นในเรื่อง การทำงานให้ประสบผลสำเร็จ จะต้องมีความรอบรู้ทุกมิติ ปฏิบัติงานด้วยใจที่มุ่งมั่น ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และต้องรวมพลังหรือบูรณาการ เพื่อให้งานบรรลุผลสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และเกิดความยั่งยืน

นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เพื่อให้การดำเนินโครงการ ท้องถิ่นไทยใส่ใจความสะอาด คนในชาติมีความสุข เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการทั้งในมาตรการระยะสั้น มาตรการต่อเนื่อง และมาตรการตรวจติดตามผล โดยมาตรการระยะสั้น ให้จัดกิจกรรมรณรงค์ทำความสะอาดใหญ่ (Big Cleaning Day) ในช่วงเดือนธันวาคม 2558 – มกราคม 2559 โดยดำเนินการทำความสะอาดและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ถนนสาธารณะในที่ชุมชน ให้ทำความสะอาดอย่าให้มีสิ่งกีดขวาง ปรับปรุง ซ่อมแซมป้ายเครื่องหมายจราจรให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ทำความสะอาดสถานที่ราชการ สำนักงาน ห้องส้วมสาธารณะ ตลอดจนรั้ว กำแพง ที่มีข้อความไม่เหมาะสม ทางด้านมาตรการต่อเนื่อง ให้องค์กรปกครอง   ส่วนท้องถิ่นจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะมูลฝอยในครัวเรือน และการใช้ประโยชน์จากขยะมูลฝอย การรักษาความสะอาดในสถานที่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดระเบียบสายไฟฟ้า หรือสายสื่อสารโทรคมนาคมที่มีการติดตั้งไม่เป็นระเบียบ ทำความสะอาดภาชนะใส่ขยะมูลฝอยตามสถานที่สาธารณะให้สะอาดถูกสุขลักษณะอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงให้จังหวัดพิจารณาประกาศเกียรติคุณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือบุคคลที่ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ทำคุณงามความดี สำหรับมาตรการติดตามผล ให้จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตามผลการดำเนินงานดังกล่าว และรายงานผลให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทราบ       ในทุกๆ 3 เดือน

นำคณะชุมชนเยี่ยมชมการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทน

นายวาทินทร์ ทองแก้ว พลังงานจังหวัดนครปฐม นำคณะชุมชนเยี่ยมชมการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ ม.ศิลปากร การนำผักตบชวามาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง ตามโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคประชาชน และโครงการเพิ่มสมรรถนะด้านการบริหารจัดการพลังงานครบวงจรในชุมชนระดับตำบล 

สถ.ประชุมคณะทำงานปรับปรุง แก้ไขระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นายจรินทร์  จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ตั้งคณะทำงานปรับปรุงแก้ไขระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น    ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทยสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยโดยมีนายดุษฎี สุวัฒวิตยากร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานมีหน้าที่เพื่อแก้ไขระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ศึกษาปัญหาอุปสรรคที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณ เสนอแนะแนวทางที่เหมาะสมในการยกร่าง ปรับปรุงแก้ไขระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง
                ประธานคณะทำงานฯ เปิดเผยว่า คณะทำงานได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือ เกี่ยวกับปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า โปร่งใส ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ดี ซึ่งผลการประชุมที่ผ่านมาที่ประชุมได้หยิบยกปัญหาการใช้จ่ายเงินสะสม การเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันกีฬาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วนโดยที่ประชุมมีมติเบื้องต้นให้พิจารณายกเลิกหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินสะสมตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากเห็นว่าไม่สอดคล้องกับสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบันและมีมติให้ยกร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดงานและการแข่งขันกีฬาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายจ่ายในเรื่องดังกล่าวอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ







สถ.เชิญชวนโรงเรียนโครงการเด็กไทยแก้มใสในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการ “100 โรงเรียน...สู่ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส.....ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ”

นายจรินทร์  จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าตามที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ ได้จัดทำโครงการเด็กไทยแก้มใส....ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนในการน้อมนำแนวทางการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จการบริหารจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจรของโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปปฏิบัติในการพัฒนาอาหารกลางวันและภาวะโภชนาการของเด็กและเยาวชน โดยในปี พ.ศ.2557 – 2558 มีโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 46 โรงเรียนได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจากจำนวน 544 โรงเรียนทั่วประเทศ และในปี พ.ศ.2558-2559 ศูนย์ประสานงานโครงการเด็กไทยแก้มใสร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้จัดทำโครงการ 100 โรงเรียน...สู่ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส...ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนในโครงการฯ ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบเด็กไทยแก้มใส...ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ทุกสังกัด ครอบคลุมทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ในเมืองและนอกเมือง  โดยสร้างความเป็นเจ้าของ (Ownership) ร่วมกันระหว่างภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่  โดยจะคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อม จำนวน 100 แห่ง เป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่
                                กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจึงขอเชิญชวนโรงเรียนโครงการเด็กไทยแก้มใส ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สนใจให้ส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อคัดเลือกรับการสนับสนุนพัฒนาโรงเรียนเป็น 100 โรงเรียนศูนย์เรียนรู้ต้นแบบโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส...ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ ซึ่งกำหนดหมดเขตส่งใบสมัครในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และจะประกาศผลโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการในวันที่ 31 มกราคม 2559 ผ่านช่องทาง www.foodforthaihealth.com







หม่องชาวพม่าขยายเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ท่าทราย

เมื่อ 29 ม.ค. 59  เจ้าพนักงานตำรวจภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ถมยา ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ,พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ แก้วพลน้อย รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร ,พ.ต.ท.จักรพัฒน์ จันทร์เที่ยง สวป.ฯ นำโดย พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ อ่อนละออ สวป.ฯ ,พ.ต.ต.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม สวป.ฯ ,พ.ต.ต.อนุชา จิตนิยม สวป.ฯ ,ร.ต.อ.กิตติ์ธีธัช คงกระพันธ์ รอง สว.สส.ฯ ,ร.ต.ท.วัชระ พัฒนกุลอนันต์ รอง สวป.ฯ พร้อมกำลัง ป.นอกเครื่องแบบ ชุด ปส.ฯ 2 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 1 ราย  ผู้ต้องหา 1 คน มีรายละเอียดดังนี้
เวลาประมาณ 20.00 น.จับกุม นายหม่องเล ไม่มีนามสกุล อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 175 เม็ด กล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิด หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
จากการสืบสวนขยายผลนายหม่องเลฯ รับว่ารับยาบ้ามาจากเพื่อนชาวพม่าด้วยกัน ในราคาถุงละ(200เม็ด)12,000 บาท ไม่มีเบอร์โทรติดต่อ โดยเพื่อนชาวพม่าจะนำยาบ้ามาให้ตนจำหน่าย 20วันมา1ครั้ง ไม่สามารถขยายผลได้จึงได้บันทึกนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีต่อไป.

 เงาพญาราหู รายงาน

จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมและปล่อยขบวนรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางน้ำในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 “สุขกาย สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย รับปีใหม่ 2559”

เมื่อ 29 ธ.ค.58 นางสาวจิตรา พรหมชุติมา  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมและปล่อยขบวนรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางน้ำในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559พร้อมด้วยนายอำพล อังคภากรณ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีนายธีระชาติ ไทรทอง หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวรายงาน พร้อมมี สถานศึกษาศึกษา ภาครัฐ ภาคเอกชน  มูลนิธิฯ  อาสาสมัคร  ร่วมรณรงค์ พร้อมทั้งมีพระคุณเจ้าประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนที่จะปล่อยขบวนรถ ซึ่งจังหวัดสมุทรสงคราม มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จุดอำนวยความสะดวก ทั้งในถนนสายหลัก ถนนสายรอง ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม2558 - 5 มกราคม 2559 ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสัญจรอย่างปลอดภัยตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 เนื่องจากจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
และในวันเดียวกันกลุ่มอาชีวศึกษา ประกอบด้วยวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม  วิทยาลัยการอาชีพอัมพวา และวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรสงคราม ได้บูรณการร่วมจัดตั้งศูนย์ให้บริการตรวจซ่อมรถ บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่สัญจรไป-มา ที่ประสบปัญหาเรื่องรถตลอดเทศกาลปีใหม่ 2559







สืบสวนบางโทรัด จับ"เอ็ม" ยาไอซ์

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 58 ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.นภดล รุ่งสาคร  ผกก.สภ.บางโทรัด  , พ.ต.ท.สมโภชน์ จูเจริญ รอง ผกก.สส.ฯ  สั่งการให้  พ.ต.ท.รังสี ประทุมพร สวป.ฯ , ร.ต.อ.ดำเกิง เรือนวิลัย รอง สวป.ฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด  ปส.1 ได้นำ
1.เวลา 06.00 น. นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ค.483/2558 ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 43/3 ม.6 ต.บางโทรัดฯ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ นายชิษณุพงศ์ หรือเอ็ม ปานสาคร  อายุ 27 ปี ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้าและยาไอซ์)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย  ของกลาง
1.) ยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาวขุ่นบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบปิดเปิด น้ำหนักชั่งรวมถุง ประมาณ 3.0 กรัม
2.) ยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาวขุ่นบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบปิดเปิด น้ำหนักชั่งรวมถุง ประมาณ 1.0 กรัม
3.) ยาบ้าเม็ดสีส้มกลมแบนมีอักษรwyบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบปิดเปิด จำนวน 8 เม็ด
4.) ถุงพลาสติกใสแบบปิดเปิด ใช้สำหรับแบ่ง จำนวน 5 ถุง
5.) เครื่องชั่งน้ำหนัก จำนวน 1 เครื่อง
 จากการซักถามทราบว่า ซื้อยาไอซ์และยาบ้ามาจาก นายพงศ์ธิพันธ์ หรือหมี สิทธิรุ่ง ที่อยู่บ้านเลขที่ 37/6 หมู่ที่6 ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จว.สมุทรสาคร ซึ่งถูกจับกุมไปเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 58 จึงไม่สามารถทำการขยายผลได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการเก็บข้อมูลเครือข่ายไว้ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พงส.สภ.บางโทรัด
เหตุเกิด ม.6  ต.บางโทรัด อ.เมือง จว.สมุทรสาคร
2.เวลา 08.00 น. นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ค.481/2558 ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 4/4 ม.3 ต.บ้านบ่อฯ ผลการตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย.

 เงาพญาราหู รายงาน

ปมท.เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 พร้อมConference ไปยัง 76 จังหวัด สั่งคุมเข้มทุกมาตรการเพื่อดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้ขับขี่ต้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์

           เมื่อ 29 ธ.ค.58 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นาย กฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ในการอำนวยการ สั่งการ และบูรณาการการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงการเดินทาง 
          โอกาสนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายในการทำงานให้กับศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ผ่านระบบ Video conference โดยกล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปีจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงปกติ ถึง 2 เท่า จากปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนโดยมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเป็นองค์กรหลักรับผิดชอบในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของประเทศ เน้นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนภาคประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในการเดินทางและมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากข้อห่วงใยและแนวทางในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ดังนี้ 1. ให้ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน    ในระยะยาว มียุทธศาสตร์การดำเนินงานในระยะ 20 ปี และมีแผนการดำเนินงานเป็น 4 ระยะ ตั้งแต่ปี 2558 – 2576 เน้นให้มี    การปรับปรุง พัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง 2. ให้มีการติดตั้งเครื่องมือ หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้ประกอบการจดทะเบียนรถใหม่ 3. การปรับปรุง ซ่อมแซม สภาพถนนด้านกายภาพให้มีความปลอดภัย เช่น     ไฟส่องสว่าง ทางลาดชัน ทางเลี้ยว ป้ายเตือน จุดเสี่ยงจุดอันตราย เป็นต้น และ 4.ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนน รวมถึงการพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูล การติดตามประเมินผลให้มีประสิทธิภาพ
          ดังนั้น จึงขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดบูรณาการการดำเนินงานในพื้นที่ร่วมกันทั้งฝ่ายพลเรือนตำรวจ ทหาร และเอกชน ในลักษณะ ยึดพื้นที่เป็นตัวตั้งและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด เน้นความเข้มแข็งของสังคมและชุมชน โดยให้เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน และนอกจากความปลอดภัยทางถนนแล้วขอให้ดูแลความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำ ทางราง และทางอากาศด้วย
          นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงการทำงานของข้าราชการและพนักงานปกครองท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน (กม.) ซึ่งปฎิบัติหน้าที่อยู่ทั่วทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด ให้ร่วมกันแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเกี่ยวกับการเสียชีวิตของประชาชนที่เกิดจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะสาเหตุจากการดื่มสุรา โดยขอให้ร่วมกันเป็น ผู้นำประชารัฐในการวางมาตรการและสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนในทุกหมู่บ้าน ตำบล โดยร่วมกันประชุมจัดทำ ประชาคมเพื่อกำหนดวิธีการห้ามปรามประชาชนในหมู่บ้านชุมชนไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะเมื่อมีการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอลล์ในหมู่บ้าน/ตำบลอย่างเด็ดขาด และให้ใช้ทั้งวิธีการรณรงค์เชิญชวนและอาจกำหนดเป็นกฎกติกาประจำหมู่บ้านชุมชนเพื่อสร้างกระแสและปลุกจิตสำนึก รวมทั้งขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยการติดตั้งป้ายตามแหล่งชุมชนต่างๆ ด้วย
          สุดท้ายปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้อวยพรและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกท่านให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน   อย่างเข้มแข็ง เชื่อว่าความร่วมมือในการดำเนินงานในครั้งนี้ของทุกหน่วยงานจะเป็นพลังสำคัญในการรักษาชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และขอให้เทศกาลปีใหม่นี้เป็นเทศกาลแห่งความสุขและความปลอดภัยของคนไทยทุกคน





นครปฐม มอบรางวัลสลากกาชาดการกุศล ประจำปี 2558

  เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม มอบรางวัลแก่ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากการออกสลากกาชาดการกุศล ประจำปี 2558
            วันที่ 29 ธันวาคม 2558 ที่บริเวณหน้าสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นางศศิวิมล อุทัยพันธ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด ร่วมมอบรางวัลแก่ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากการออกสลากกาชาดการกุศล ในงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ประจำปี 2558 ซึ่งเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐมได้ทำการหมุนวงล้อจับรางวัล เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่าน โดยรางวัลใหญ่ในปีนี้เป็นรถยนต์กระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ 4 ประตู เลขที่ออก คือ 000531 ผู้โชคดี ได้แก่ นางเบญจวรรณ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท อริยทอยส์ จำกัด ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยได้ซื้อสลากกาชาดการกุศลไป 40 เล่ม เป็นจำนวนเงิน 80,000 บาท อีกทั้งยังได้รับรางวัลรถจักรยานยนต์ อีก 1 คัน และพัดลมอีก 3 เครื่อง ส่วนรางวัลที่ 2 รถจักรยานยนต์ ผู้โชคดีได้แก่ นางมีนา วิริยาภรณ์โสภณ และ นางสมควร จูมิจฉะ , รางวัลที่ 3 ตู้เย็น ผู้โชคดีได้แก่ นายบุญเลิศ บุญเพิ่ม , นางสินีนาถ จะพิพิชกาน และ นางโชติมา โพธิ์ศรี และรางวัลที่ 4 ทีวีสี ผู้โชคดีได้แก่ นางจิวัชยา รอบคอบ , นางจันทร์เพ็ญ ทุ่งพรหมศรี และ นายเอกลักษณ์ นวลรัตน์ นอกจากนี้ นางเบญจวรรณ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ได้มอบสิ่งของให้กับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐมเพื่อไปมอบให้กับเด็ก ในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2559 รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท อีกด้วย














วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

นครปฐม ประชุมมอบนโยบายตามแผนปฏิบัติการป้องกันยาเสพติด

ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย จัดประชุมมอบนโยบายตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่จังหวัดนครปฐม
             วันที่ 29 ธันวาคม 2558 ที่ห้องประชุมโรงแรมไมด้า ทวารวดี แกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายชาติชาย อุทัยพันธ์ เป็นประธานเปิดการประชุมมอบนโยบายตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 ธันวาคม 2558 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปี 2559 อีกทั้งมอบแนวทางการขับเคลื่อนจากผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ให้กับศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้สามารถแปลงนโยบายและยุทธศาสตร์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่จากโดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้