pearleus

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กีฬาเยาวชนนักกีฬาจาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้

 เยาวชนนักกีฬาจาก  4 จังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศมาเลเซีย กว่า 300 คนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเทควันโด ชิงถ้วยเกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและนายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก

วันนี้ (30 ส.ค.57) ที่ลานเอนกประสงค์ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้มีเยาวชนนักกีฬาเทควันโดจาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้  ได้แก่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี  จ.ยะลา และจ.สงขลา รวมถึงจากประเทศมาเลเซีย กว่า 300 คน เดินทางเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเทควันโด “สุไหงโก-ลก แชมป์เปี้ยนชิพ ใต้สุดแดนสยามโอเพ่นคัพ ครั้งที่ 6”  ชิงถ้วยเกียรติยศจากนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และนางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก
โดยความร่วมมือของชมรมเทควันโดจังหวัดนราธิวาส  ชมรมเทควันโดประเทศมาเลเซีย สมาคม หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ร่วมกันจัดขึ้น

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้  นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ นายอำเภอสุไหงโก-ลก นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนราธิวาส ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ตัวแทนส่วนราชการ ทีมนักกีฬาเทควันโด และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมในพิธีเปิด โอกาสนี้ได้มอบของที่ระลึกให้กับนักกีฬาที่เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

ด้านนายนายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ปัจจุบันกีฬาเทควันโดเป็นที่นิยมสูง  นอกจากเป็นกีฬาที่ให้ความเพลิดเพลินแล้ว ยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เยาวชนห่างไกลยาเสพติด และยังสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอสุไหงโก-ลกและจังหวัดนราธิวาส อีกทั้งเป็นนิมิตหมายอันดีที่กีฬาชนิดนี้จะได้รับความสนใจและขยายออกไปอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นด้วย

ทางด้านนายสุรินทร์ อบโอ ประธานชมรมกีฬาเทควันโดจังหวัดนราธิวาส เผย การแข่งขันในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเด็ก นักเรียน และเยาวชน นอกจากเป็นกีฬาที่ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกระดูกและข้อต่อต่างๆ ของร่างกายแล้ว ยังสามารถฝึกความคล่องแคล่วว่องไวของประสาทสัมผัส ฝึกสมาธิ ความมีระเบียบวินัยและความมีน้ำใจนักกีฬาด้วย อย่างไรก็ตามชมรมเทควันโดจังหวัดนราธิวาส จะยังคงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันกีฬาประเภทนี้ให้เป็นที่แพร่หลายและช่วยแก้ปัญหาสังคม ปัญหายาเสพติดต่อไป




บันทึกการตรวจค้นยึดผู้ลักลอบนำไม้ผิดกฏหมาย

บันทึกที่  ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1  ต.ท่าทราย อ.เมือง จว.สมุทรสาคร
บันทึกฉบับนี้จัดทำขึ้นไว้เป็นหลักฐานแสดงว่า
วันนี้ 29  ส.ค.  57  เวลา  11.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร รส.ส1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน  เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร  เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร  เจ้าหน้าที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่  10  สาขาเพชรบุรี  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่  1  ตำบลท่าทราย  ผู้มีรายชื่อและตำแหน่งท้ายบันทึกนี้  ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณหมู่ที่ 1 ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง  จังหวัดสมุทรสาคร  ตามที่มีสายลับ  ร้อย  รส.ส.1ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน  แจ้งว่ามีผู้ลักลอบนำไม้มาเก็บโดยการแช่น้ำไว้  ซึ่งสงสัยว่าน่าจะเป็นไม้ที่ผิดกฎหมายบริเวณบ่อน้ำหมู่ที่ 1  ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร  โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก  พ.ศ. 2457  และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ฉบับที่  2/257 ลงวันที่  23  พ.ค. 2557 เรื่องใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร  ประกอบคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่64/2557  ลงวันที่  14  มิ.ย.  57  เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรกทำลายทรัพยากรป่าไม้ เข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว
ก่อนการตรวจค้น  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันรับทราบข้อมูลและได้ร่วมกันอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก  พ.ศ. 2457  และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่  2/2557  ลงวันที่  22  พ.ค.  57  เรื่อง  ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร  ประกอบคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่  64/2557 ลงวันที่  14  มิ.ย.  57  เรื่อง  การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ นำโดย  ร้อยโทอาทิตย์  ภูหวดน้อย  กับพวกเป็นผู้นำการตรวจค้น  ผลการตรวจค้นปรากฏว่าพบ
1. สถานที่ตรวจค้น  เป็นพื้นที่สวนผสม  มีบ่อน้ำและร่องน้ำทำการเกษตร  ในพื้นที่มีเสาไฟฟ้าแรงสูงอยู่กลางพื้นที่และมีบ่อน้ำติดกับฐานเสาไฟฟ้าแรงสูง  ทิศเหนือติดบ้านชาวบ้าน  ทิศตะวันออกติดถนนทางสาธารณะสวนส้มซอย 5  และทิศใต้ติดบ่อเลี้ยงปลา  ตรงข้ามที่ดินเป็นโรงงานยิ่งเจริญพลาสติก  ไม่มีรั้วกัน  ที่ดินมีเนื้อที่ประมาณ  2 ไร่ 2 งาน  อยู่ที่ ม. 1  ต.ท่าทราย  อ.เมือง จว.สมุทรสาคร
2. ระหว่างเข้าตรวจค้นปรากฏว่าพบ  นายไพศาล เหล็กทะเล  อายุ 51 ปี บัตรประจำตัวประชาชนที่  33004 00043 41 8 แสดงตัวเป็นลูกจ้างของโรงงานไทย ริ จิดส์ พลาสติก  ตำแหน่งผู้จัดการวิจัยและพัฒนาสินค้า  มีเงินเดือน  20,000 บ.และนายสมชาย  ก้อนคำ  อายุ  40 ปี แสดงตัวเป็นช่างไม้ผู้รับจ้างเหมาสร้างบ้านให้  นายสมบัติ  พัฒนกิจกุล  เจ้าของโรงงานไทย ริ จิดส์ พลาสติก  ตั้งอยู่เลขที่  8/8 ม. 4 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ในราคา เหมา 1.4 ล้านบาท  โดยแจ้งว่าเป็นที่ดินของน.ส. สุนิสา  ศรีคงอยู่  ภรรยาของนายสมบัติ  พัฒนกิจกุล  โดยนายไพศาลฯ  และ นายสมชายฯ  แจ้งว่าเจ้าของโรงงานฯ  ให้มาพบเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจค้นและตอบข้อซักถาม  คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งความประสงค์และเหตุในการตรวจค้นพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ให้นายไพศาลฯและนายสมชายฯทราบและเข้าใจดีแล้วจึงยินดีและเต็มใจให้เข้าทำการตรวจค้นและเป็นผู้นำการตรวจค้น
3. ตรวจค้นในพื้นที่ตามข้อ 1 พบไม้สักท่อนแซ่อยู่ในบ่อน้ำ  รายละเอียดปรากฏตามบัญชีรายการไม้ท่อนที่ตรวจพบแนบท้ายบันทึก
4. นายไพศาลฯและนายสมชายฯแจ้งว่าไม้ตามข้อ 3. เป็นไม้ของนายสมบัติ  พัฒนกิจกุล  ที่เหลือเศษจากการทำบ้านเลขที่  8/8 ม. 4 ต.บ้านเกาะ  อ.เมือง จ.สมุทรสาคร  แล้วนำมาเก็บรักษาเนื้อไม้ไว้โดยการแช่น้ำในบ่อน้ำในพื้นที่ดังกล่าว
5. นายสมชายฯได้ยื่นเอกสารทั้งหมดที่มีที่เกี่ยวข้องกับการได้มาของไม้สัก  ดังนี้
5.1 หนังสือแสดงบัญชีรายการไม้สักที่ได้มาจากการทำสวนป่า (ส.ป.15)เล่มที่  153/2556 ฉบับที่ 38 ลงวันที่  10 ก.ย. 56 พร้อมบัญชีแสดงรายการไม้เป็นไม้สัก  จำนวน  294 ลำดับ รวมเอกสาร  13 แผ่น
5.2 หนังสือรับรองการแจ้งตัดหรือโค่นไม้ที่ได้มาจาการทำสวนป่า (สป.1)เล่มที่ 81 ฉบับที่ 38ให้ไว้ ณ วันที่  27 ส.ค. 56 ไม้สัก จำนวน 294 ต้น โดยแจ้งว่าไม้สักที่พบเห็นเป็นไม้สักของสวนป่าแห่งนี้
5.3 ในเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ เล่มที่ 12759 เลขที่  02 ที่ทำการด่านป่าไม้เด่นชัย  ลงวันที่  14 พ.ย. 56 ไม้สักแปรรูป จำนวน 17 แผ่นเหลี่ยม รวมเอกสาร 3 แผ่น
5.4 ใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่  เล่มที่ 12759 เลขที่  74 ที่ทำการด่านป่าไม้เด่นชัย ลงวันที่  24 พ.ย. 56 ไม้สักแปรรูป จำนวน 326 แผ่นเหลี่ยม รวมเอกสาร 3 แผ่น
5.5 ใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่  เล่มที่ 13439 เลขที่  20 ที่ทำการด่านป่าไม้เด่นชัย ลงวันที่  10 ก.พ. 57 ไม้สักแปรรูป จำนวน 198 แผ่นเหลี่ยม รวมเอกสาร 3 แผ่น
5.6 ใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่  เล่มที่ 13439 เลขที่  04 ที่ทำการด่านป่าไม้เด่นชัย ลงวันที่  22  เม.ย. 57 ไม้สักแปรรูป จำนวน 195 แผ่นเหลี่ยม รวมเอกสาร 2 แผ่น
5.7 หนังสือกำกับสิ่งประดิษฐ์  เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใด บรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้าม ฉบับที่  42 เล่มที่ 300 ลงวันที่  16  ธ.ค. 56 เป็น ประตูไม้สักจำนวน 25 ชิ้น รวมเอกสาร 2 แผ่น
5.8 ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่มีเหตุสงสัยถึงที่มาของไม้ตามข้อ 3 ที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านตามข้อ 4 และเอกสารกำกับ ไม้ตามข้อ 5 จึงได้ร่วมกันอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก  พ.ศ. 2457  และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่  2/2577 ลงวันที่  22 พ.ค. 57 เรื่อง ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาราจักราประกอบคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่  64/2557  14  มิ.ย.  57  เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ นำโดย ร้อยโทอาทิตย์  ภูหวดน้อย  กับพวก  และนายไพศาลฯ และนายสมชายฯเป็นผู้นำการตรวจค้น  บ้านเลขที่ 8/8 ม. 4 ต. บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
6 บ้านเลขที่ 8/8 ม. 4 ต. บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร  มีเนื้อที่ประมาณ 300 ตารางวา ตั้งอยู่ในซอยเทศบาลตำบลบางปลา ทิศตะวันตกติดแม่น้ำท่าจีน ทิศใต้ติดคลอง เป็นบ้านไม้สัก เสาไม้สัก ใต้ถุนสูง
7 สถานที่ตาม ข้อ 7.  พบไม้สักท่อนและแปรรูป รายละเอียดปรากฏตามบัญชีรายการไม้ท่อนที่ตรวจพบ และบัญชีรายการไม้แปรรูปที่ตรวจพบ แนบท้ายบันทึก
8 สถานที่ตามข้อ 7. พบเครื่องจักรที่ใช้ในการแปรรูปไม้สัก  ปรากฏตามบัญชีรายการเครื่องจักรที่ตรวจพบแนบท้ายบันทึก
9 เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าในเบื้องต้น
9.8 ไม้สักท่อนที่ตรวจพบตามข้อ 3. ไม่มีร่องรอยดวงตรา ไม่มีเลขลำดับ เป็นไม้สักท่อนที่ไม่มีร่องรอยผ่านการทำเป็นสิ่งปลูกสร้างมาก่อน  มีผิวเปลือกติดอยู่ที่ลักษณะเปื่อยยุ่ย  เมื่อนำมา  เปรียบเทียบกับเอกสารตามข้อ 5.1 และ 5.2 ที่นายสมชายฯ  อ้างว่าเป็นเอกสารกำกับไม้ตามข้อ 3. ปรากฏว่ามีข้อพิรุธ  คือมีร่องรอยการเขียนข้อความเพิ่มเติมในใบ ส.ป.15  และไม้ตามบัญชีรายการไม้มีจำนวนถึง 294 ต้น ซึ่งไม่สามารถขนได้หมดภายในเที่ยวเดียวโดยใช้รถบรรทุก 10ล้อ ทะเบียน SI-3939 แพร่ เพียงคันเดียว และเอกสาร ส.ป.15 และเอกสาร ส.ป. 13 ตามข้อ 5.2ท ระบุสวนป่าอยู่ในพื้นที่  จว.น่าน แต่ในบัญชีรายการไม้แนบท้าย ส.ป. 15 ระบุหมายเหตุรูปรอยตราเป็น จว.แพร่  จึงเชื่อว่าไม้สักท่อนที่ตรวจพบตามข้อ 3. ไม่มีเอกสารกำกับไม้ การครอบครองไม้สักท่อนของ น.ส. สุนิสา  ศรีคงอยู่ และนายสมบัติ พัฒนกิจกุล  จากการแจ้ง ตามข้อ 2. และ 4.เป็นความผิดฐาน ทำไม้สักและมีไม้สักท่อนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม.11,69,73 และให้ริบตาม ม.74 และ 74 ทวิ
9.9 ไม้สักท่อนที่ตรวจพบตามข้อ 8. ไม่มีร่องรอยดวงตรา  มีเพียงเลขลำดับเท่านั้น  และไม้สักแปรรูปที่ตรวจพบตามข้อ 8. บางแผ่นเหลี่ยมมีรอยเลื่อยโซ่ยนต์ มีขนาดและปริมาตรไม่ใกล้เคียงกับเอกสารตามข้อ 5.3,5.4และ 5.5 การครอบครองไม้สักท่อนและไม้สักแปรรูปตามข้อ 8. ของน.ส.สุนิสา  ศรีคงอยู่ และนายสมบัติ พัฒนกิจกุล
จากการแจ้ง ตามข้อ 2. และ 4.  เป็นความผิดฐาน  ทำไม้สัก  มีไม้สักท่อนและมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม.11, 48, 69, 73  และให้ริบตาม ม. 74 และ 74 ทวิ
9.10 เครื่องจักรที่ตรวจพบตามข้อ 9. มีรอยเศษขี้เลื่อยกองอยู่ได้ในเลื่อยและมีลักษณะพร้อมใช้งานสามารถเปิดใช้งาน ได้ทันที และบริเวณด้านข้างโต๊ะเลื่อยมีกองเศษปีกไม้สักกองอยู่ เชื่อว่าเครื่องจักรตามข้อ 9.  เป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการแปรรูปไม้สักท่อน ซึ่งได้สอบถาม นายสมชายฯแล้วแจ้งว่าไม่มีในอนุญาตให้ทำการแปรรูปไม้แต่อย่างใดการกระทำของ น.ส.สุนิสา ศรีคงอยู่และนายสมบัติ  พิพัฒนกิจกุล  เจ้าของบ้านและเจ้าของไม้สัก  เป็นความผิดฐาน  แปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม. 48, 73
9.11 ใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ตามข้อ 5.3 , 5.5 และ5.6 ระบุ นายสมชาย ก้อนคำ เป็นผู้ควบคุมการนำไม้เคลื่อนที่ เข้าเขตด่านป่าไม้โดยไม่แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ด่านป่าไม้ปากน้ำโพและใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ตามข้อ 5.4 ระบุ นายภูชิสศ์ มางิ้ว  อยู่บ้านเลขที่ 28 ต. แม่ต้ำ อ.เมือง จว.พะเยา เป็นผู้ควบคุมการนำไม้เคลื่อนที่  เข้าเขตด่านป่าไม้โดยไม่แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ด่านป่าไม้ปากน้ำไพ  ซี่งการกระทำดังกล่าวของ นายสมชายฯ และนายภูชิสส์ฯ เป็นความผิดฐาน เป็นผู้นำไม้สักเคลื่อนที่  เข้าเขตด่านป่าไม้โดยไม่แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่  ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม.40
10 คณะเจ้าหน้าที่ฯ มอบหมายให้นายชำนาญ  สมบัตินิมิต  เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน  ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน  สภ. เมืองสมุทรสาคร  ได้ดำเนินกับน.ส.สุนิสาฯ นายสมบัติฯ  นายสมชายฯ และนายภูชิสส์ฯ  ตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
11 คณะเจ้าหน้าที่ ฯ มอบของกลางให้  นายชำนาญ  สมบัตินิมิต  เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานที่  มาร่วมปฏิบัติหน้าที่  รับของกลางไปเก็บรักษา  ตามข้อตกลงระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับของกลางในคดีความผิดเกี่ยวกับป่าไม้  แต่เนื่องจากของกลางมีจำนวนมากต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและจัดทำบัญชีไม้โดยระหว่างการจัดทำบัญชีไม้ของกลาง  มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน  และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกันเฝ้ารักษา  ณ  ที่เกิดเหตุ
12 เหตุเกิดที่บ่อน้ำและร่องน้ำทำการเกษตร  ม. 1 ท่าทราย  อ.เมือง จว.สมุทรสาคร  และบ้านเลขที่  8/8 ม. 4 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จว.สมุทรสาคร
13 เสร็จสิ้นการตรวจค้นเวลา  16.30 น.
14 อนึ่งในการตรวจยึดครั้งนี้  คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานผู้ร่วมตรวจเช็ค  ได้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่  มิได้ทำให้ทรัพย์สินของผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย  ชำรุด ทรุดโทรม สูญหายแต่อย่างใด






ชมรมสื่อมวลชนรักษ์สันติ

 วันนี้(28 ส.ค.57) เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
นายรพี มามะ ประธานชมรมสื่อมวลชนรักษ์สันติ จชต. Peace media พร้อมด้วยนายมะดารี โตะลาลา ช่างภาพ afp นายตูแวดุนยา มารรีงิง จาก ปัตตานี ผู้สื่อข่าว ช่อง 3 มาเลเซีย สมาชิกกลุ่มฯ ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ เข้าให้ความรู้เทคนิคการทำข่าวและ เทคนิคการถ่ายภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้กับเยาวชนนักข่าว โรงเรียนอัตตัรกียะห์ อิสลามียะห์ ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนได้มีความรู้ด้านการประชาสัมพันธ์ สามารถนำเสนอหัวข้อข่าวกิจกรรมเชิงบวกและสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดนราธิวาสได้
โอกาสนี้ได้มีนายไพศาล ตอยิบ ผจก. รร. อัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ให้เกียรติ เป็นประธานในพิธีเปิด




ฝึกอบรมภาคประชาชนจิตอาสา ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว จัดฝึกอบรมภาคประชาชนจิตอาสา ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายกระตุ้นเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สถานีตำรวจท่องเที่ยว 8 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว จัดการฝึกอบรมภาคประชาชนที่มีจิตอาสาช่วยเหลือกิจการของตำรวจท่องเที่ยว ใน “โครงการ อาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยว” รุ่นที่ 1 ประจำปี 2557 โดยมุ่งเน้นภาคประชาชนจิตอาสาตัวแทนจากองค์กรภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส อาทิ ผู้แทนจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ผู้ประกอบการร้านค้า บริษัทท่องเที่ยว พนักงานรถตู้โดยสาร รถจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้แทนองค์กรสื่อประชาสัมพันธ์ เข้ารับการฝึกอบรม จัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยมีนายสว่าง ศรีชัย ผอ.ททท.สนง.จ.นราธิวาส นายอะหมาน หมัดอาดัม ร่วมเป็นประธาน คณะวิทยากรและผู้เข้ารับการฝึกอบรม เข้าร่วมในพิธีเปิด ณ ห้องบังสูรย์ โรงแรมเก็นติ้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

สำหรับการฝึกอบรมอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยว รุ่นที่ 1 ประจำปี 2557 ได้จัดฝึกอบรมในหลักสูตรการท่องเที่ยว เพื่อให้ทราบถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวและการเป็นเจ้าบ้านที่ดี  เรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษสำหรับนักท่องเที่ยว จากอ.คณะศิลปศาสตร์ ม.นราธิวาสราชนครินทร์  จัดการฝึกยุทธวิธีการตำรวจเบื้องต้น โดย ชปพ.ศชต. การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับนักท่องเที่ยว โดยจนท.รพ.สุไหงโก-ลก เข้าให้ความรู้และฝึกอบรม

ด้าน ร.ต.ท เนาวรัตน์ ผาตะนนท์ ผบ.มว.กก.ปพ.ศชต.กล่าวว่า ตนในฐานะวิทยากรบรรยายและฝึกยุทธวิธีการตำรวจเบื้องต้น รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้ และเห็นว่าการจัดให้ผู้มีจิตอาสาได้เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวถือมีความสำคัญมาก สำหรับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมืองหน้าด่านอย่างอำเภอสุไหงโก-ลก ที่ต้องเจอกับนักท่องเที่ยวทุกวัน และเห็นสมควรจัดโครงการนี้ หากมีโอกาสอยากเข้าให้ความรู้ทั้งในเรื่องยุทธวิธีและเพิ่มเติมเรื่องกฎหมายให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม อีกทั้งขอเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ผู้มีจิตอาสาได้มีส่วนช่วยเหลือสังคมในทุกด้านต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.แวสาแม สาและ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ผู้แทน พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภว.จ.นราธิวาส  เป็นประธานในพิธิปิดและมอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการฝึกอบรม เผย เป็นครั้งแรกที่ตนเองได้มอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนส่งเสริมผู้มาจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจะนำความรู้ที่ได้สร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.นราธิวาสและประเทศไทยในอนาคตได้อย่างเต็มศักยภาพ




โครงการปลูกป่าชายแดน สู่ป่าอาเซียน

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีเปิด "โครงการปลูกป่าชายแดน สู่ป่าอาเซียน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ (Border forest to Asian project.)" ซึ่งจัดขึ้นบริเวณริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก บ้านน้ำตก ม.4 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส









วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

โครงการ ธปท.อาสา เครือข่ายการเงินไทย

           144403เมื่อวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมาเวลา 10.00 น.ธนาคารแห่งประเทศไทย เดินสายออกแนะนำโครงการ ธปท.อาสา เครือข่ายการเงินไทย สานสายใย สู่ใจประชาชน เพื่อแนะนำวิธีการดูและสังเกตธนบัตรปลอมและธนบัตรแท้ ซึ่งขณะนี้ธนบัตรปลอมกำลังระบาดหนักในหลายพื้นที่

         ณ.ที่ห้องประชุมกิ่งดาว โรงแรมเวล จังหวัดนครปฐม นางเต็มมาศ ชุตินิมิตกุล ผอ.สำนักจัดการธนบัตร ฝ่ายบริหารจัดการธนบัตร สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหน.โครงการ ธปท.อาสา ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ได้จัดแถลงข่าว เพื่อแนะนำโครงการ ธปท.อาสา v10 เครือข่ายการเงินไทย สานสายใย สู่ใจประชาชน มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างเครือข่ายและช่องทางการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ทางการเงินและธนบัตรให้กระจายเป็นวงกว้าง โดยขอความร่วมมือจาก องค์กร หน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธนบัตรไทย วิธีสังเกตธนบัตรปลอม การแลกค่าธนบัตรชำรุด การใช้ธนบัตรอย่างถูกวิธี รวมทั้งความรู้ทางการเงินอื่นๆ การออม ภัยทางการเงิน โดยมีเป้าหมาย ได้แก่ ข้าราชการ เกษตรกร หัวหน้าผู้นำองค์กรชุมชน ท้องถิ่น สื่อมวลชนแขนงต่างๆ นักเรียน นักศึกษาผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไป

        144404 ทั้งนี้ นางเต็มมาส ชุตินิมิตกุล ได้แนะนำความรู้เกี่ยวกับวิธีสังเกตธนบัตรปลอมง่ายๆ 3 วิธี คือ สัมผัส ยกส่อง พลิกเอียง  ดังนี้ 1. การสัมผัส เนื้อกระดาษธนบัตร เป็นกระดาษชนิดพิเศษ มีความเหนียว แกร่งทนทาน ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากกระดาษทั่วๆไป การสัมผัสคำว่า รัฐบาลไทย และตัวเลขแจ้งชนิดราคา เมื่อใช้ปลายนิ้วมือลูบจะรู้สึกนูนสะดุดมือกับหมึกพิมพ์ 2. การยกส่อง เมื่อยกธนบัตรส่องกับแสงสว่าง จะเห็นลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในเนื้อกระดาษอย่างชัดเจนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และแถบสีโลหะฝังอยู่ในเนื้อกระดาษซึ่งมีตัวเลขและตัวอักษรขนาดจิ๋วโปร่งแสงแจ้งชนิดราคา 3. พลิกเอียง เมื่อพลิกเอียงธนบัตรบริเวณมุมบนขวาของธนบัตรชนิดราคา 500 บาทและ 1000 บาท พิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์ชนิดพิเศษ เมื่อพลิกธนบัตรไปมา สีของตัวเลขจะเปลี่ยนสลับจากสีหนึ่งเป็นอีกสีหนึ่งได้

         นางเต็มมาศ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ได้รับธนบัตรปลอม หรือสงสัยว่าเป็นธนบัตรปลอม ขอความร่วมมือไม่ควรนำออกไปใช้ เพราะจะมีความผิดตามกฎหมาย แต่ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  หากการแจ้งเบาะแสนี้นำไปสู่ให้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดฐานปลอมแปลงธนบัตร ผู้แจ้งจะได้รับรางวัลนำจับอีกด้วย

          ส่วนการแลกค่าบัตรชำรุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท. ) ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชน สามารถนำธนบัตรชำรุไปแลกเปลี่ยนได้ที่ธนาคารออมสิน ทุกวัน และทุกสาขาทั่วประเทศรวมถึงสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า และที่ธนาคารพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศเฉพาะวันพุธยกเว้นสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งธนบัตรชำรุดที่มีเนื้อธนบัตรเหลือเกิน 3 ใน 5 สามารถแลกเปลี่ยนค่าได้เต็มราคา แต่หากธนบัตรชำรุดยากต่อการตรวจพิสูจน์ ธนาคารต่างๆ จะให้เขียนคำร้องและนำส่งให้ ธปท. ตรวจพิสูจน์เพื่อแลกค่าและนำเงินเข้าบัญชี ซึ่งการแลกเปลี่ยนธนบัตรชำรุดไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แผนกวิเทศสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์ สายออกบัตรธนาคาร โทรศัพท์ 02-356-8687-9

ภาพ/ข่าว  ชัยยะ พานโพธิ์ทอง

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คนดีศรีแผ่นดิน พุทธศักราช 2557

143237 143238 ประมวลภาพ คับ ร่วมแสดงความยินดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายประชาชน ที่ได้รับประทานรางวัล "คนดีศรีแผ่นดิน พุทธศักราช 2557" สาขาผู้ทำประโยชน์ต่อแผ่นดิน จากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2557 ณ. ศูนย์ประชุม สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรุงเทพมหานครฯ

143239 143240

ผลการดำเนินงานโครงการตำบลเอาชนะยาเสพติด

142880 วันนีที่24สค57เวลา10.00น ท่านพลโทวลิต โรจนภักดี ผอ.รมน.ภาค4/ผอ.ศพส.จชต.(ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้)เป็นประธานการประชุมศพส.จชต.วาระพิเศษ โดยมีท่านเลขาปปส./(รองเลขาฯศอ.บตและรองผู้ว่ายะลา/ปัตตานี/นราธิวาสรวมทั้งคณะทำงานโดยมีหน.สง.ศพส.ศชต.ทำหน้าที่เลขานุการโดยมีวาระการประชุมชี้แจงผลการดำเนินงานโครงการตำบลเอาชนะยาเสพติดที่ผ่านมา(ห้วง1-23สค57) ณห้องประชุมชั้น2 ศปก.กอ.รมน.ภาค4สน.ค่ายสิรินธร  อ.ยะรัง  จ.ปัตตานี โดยกระผมได้เป็นผู้แทน ศชต.เข้าร่วมประชุม. เสร็จการประชุมเวลา11.50น.ปรากฎตามภาพฉายครับ

142884

พ.ต.อ.ชัยโรจน์ ชัยยะรอง ผบก.กองปราบปรามยาเสพติด2/รายงาน

วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บก.ปคบ. รวบพ่อค้าเร่ขายปุ๋ยปลอม หลอกตุ๋นเอาเปรียบชาวนา

 

141355           ตามที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรด้วยการลดต้นทุน ด้านปัจจัยการผลิตต่างๆ ทั้งค่าปุ๋ย ค่าสารกำจัดวัชพืช ค่าเช่าที่นา ค่าใช้รถเกี่ยวข้าว รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้เกษตรกร โดยให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งหา มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องลดต้นทุนการผลิตดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ

         สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจ สอบสวนกลาง ดำเนินการสืบสวนหาข่าว และติดตามจับกุมกลุ่มบุคคลที่เอารัดเอาเปรียบเกษตรกรโดยเฉพาะกรณีจำหน่ายปุ๋ยเคมีและสารกำจัดวัชพืชปลอม ไม่ได้คุณภาพ ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ซึ้งเป็นการหลอกลวงและเพิ่มต้นทุนการผลิต สร้างภาระหนี้ให้กับเกษตรกร 141356

        ต่อมาได้มีประชาชนร้องเรียนผ่านสาย470

ด่วน บก.ปคบ.๑๑๓๕ ว่ามีกลุ่มบุคคลนำปุ๋ยเคมีปลอมมาเร่ขายให้เกษตกรในพื้นที่ จ.สระแก้ว และพื้นที่ใกล้เคียง ในการนี้ พ.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผบก.,ปคบ.,พ.ต.อ.ไพฑูรย์ คุ้มสระพรหม,          พ.ต.อ.อังกรู  คล้ายคลึง,พ.ต.อ.สมชาย ทองศรี,พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ปคบ. ได้สั่งการให้                      พ.ต.อ.วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผกก.๒ บก.ปคบ. ประสารงานกรมวิการการเกษตร โดย นายธีระ รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักควบคุมพื้ชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร มอบหมายให้ นายวุฒิ นิพลกิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรปราจีนบุรี พร้อมพวกร่วมออกสืบสวนกรณีสืบทราบว่ามีกลุ่มบุคคลนำปุ๋ยเคมีและสารกำจัดวัชพืชปลอมและไม่ได้คุณภาพมาจำหน่ายในพื้นที่ตะวันออก ในเขตพื้นที่ จ.สระแก้ว จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณทางแยกสระขวัญ พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยขับมาตามถนนสระแก้ว-จันทบุรี จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบพบปุ๋ยเคมีและผลิตภันฑ์สารกำจัดวัชพืชปลอมจึงขยายผลจับกุมรถยนต์กระบะที่เร่ขายอีกจำนวน ๖ คัน บริเวณ บ้านเลขที่ ๒๒๖ ถนนเทศบาล ๖ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ซึ้งเป็นสถานที่เก็บปุ๋ยเคมีและผลิตภัณฑ์สารกำจัดวัชพืช โดยจับกุม นายทวีชัย ตาลปากดี กับพวกรวม ๓๕ คน พร้อมด้วย รถยนต์กระบะ จำนวน ๗ คัน ปุ๋ยเคมีและวัสดุการเกษตรสารกำจัดวัชพืช และอื่นๆ จำนวน ๑๔ รายการ (มูลค่าของกลาง ประมาณ ๔,๗๐๐,๐๐๐ บาทเศษ ) 141357

            โดยกล่าวหาว่า ๑. ร่ามกันก่อให้เกิดความเข้าผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญ ประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา๔๗ (โทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน ปรับไม่เกิน ห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีทำผิดซ้ำ จำคุกไม่เกิน ๑ ปี ปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ )

                                         ๒. ร่วมกัน ผลิต เพื่อจำหน่าย ซึ้งวัตถุอันตรายชนิดที่ ๓ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๒๓,๗๓ ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.๒๕๓๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.วัตถุอันตราย(ฉบับที่๓)พ.ศ.๒๕๕๑(โทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี ปรับไม่เกิน สองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

                                           ๓. ร่ามกันผลิตปุ๋ยเคมีและจำหน่ายปุ๋ยเคมีโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๑๒,๕๗ ตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.๒๕๑๘ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ปุ๋ย(ฉบับที่ ๒)พ.ศ.๒๕๕๐ (โทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี ปรับไม่เกิน สองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่ง พงส.กก.๒ บก.ปคบ.ดำเนินคดีต่อไป

                                          เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั้นต่อการปฏิบัตงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอารัดเอาเปรียบเกษตรในการในการจำหน่ายปู๋ยเคมีและสารกำจัดวัชพืชปลอม ไม่ได้คุณภาพ จึงขอประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติดังกล่าว และแจ้งให้ประชาชนทราบหากถูกเอารัดเอาเปรียบหรือพบเห้นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ปคบ. ทางสายด่วน ๑๑๓๕ หรือตู้ปณ ๔๕๙ ปณศ. สามเสนใน เขตพญาไท กทม.๑๐๔๐๐ หรือสถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเท                                                                                                                             

จับอดีตช่างพิมพ์โฉนดกรมที่ดินล้วงทรัพย์สินใต้เบาะรถ

141313 วันนี้ (23 ส.ค.2557) พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ยุทธนา ปุญชรัศมิ์ ผกก.สน.บุปผาราม ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีฝ่ายสืบสวน สน.บุปผาราม จับกุมตัวนายพรชัย หรือติ๊ก ผลโยธิน ผู้ต้องหา อายุ 32 ปี โดยกล่าวหาว่า "ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกันสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน โทรศัพท์เคลื่อนที่และกระเป๋าอีกจำนวน 63 รายการ
จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ลานพระรูปวงเวียนใหญ๋ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2557 เวลาประมาณ 18.30 น.
พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้ต้องหานี้ซึ่งพักอยู่แถวบางกะปิ จะแต่งชุดกีฬาเพื่อทำทีว่ามาออกกำลังกาย ตระเวนขับรถจักรยานยนต์ของกลาง ไปจอดซุ่มดูผู้เสียหายซึ่งมาออกกำลังการบริเวณลานพระรูปวงเวียนใหญ่ จากนั้นเมื่อเห็นว่าผู้เสียหายได้เก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ใต้เบาะรถ จากนั้นจะขับรถของตนเองไปชิดกับรถของผู้เสียหายและใช้เสื้อคลุมล้วงเอาไว้ทรัพย์สินใต้เบาะรถเอาหลบหนีไป จากนั้นจะนำทรัพย์สินไปขายเพื่อเล่นการพนัน ส่วนบัตรต่างๆ จะนำไปทิ้งลงท่อน้ำ ส่วนบัตรเอทีเอ็มจะนำไปสุ่มกดรหัสเพื่อกดเอาเงินโดยเลือกเอาวันเดือนปีเกิด หรือเลข141314บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งบ้างก็ได้ทรัพย์สินบางครั้งก็ไม่ได้
จากสืบสวนขยายผลผู้ต้องหานี้มีหมายจับคดีลักษณะเดียวกัน 4 หมาย ท้องที่ สน.สำเหร่ สน.หัวหมาก สน.มักกะสัน สภ.ปากเกร็ด และรับว่าเคยก่อเหตุมาแล้วตามสวนสาธารณะซึ่งใช้ออกกำลังกายในกรุงเทพและปริมณฑลมาหลายครั้ง มีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้หลายคดี ซึ่งผู้เสียหายมีทั้งครู ตำรวจ และประชาชนทั่วไปที่มาออกกำลังกาย
สน.ใดมีแผนประทุษกรรมใกล้เคียงกัน สามารถให้ผู้เสียหายดูของกลางได้ที่ สน.บุปผาราม

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ปคบ.เปิดโครงการอบรมอาสาสมัครปกป้้องคุ้มครองผู้บริโภค

140615 ปคบ.เปิดโครงการ อบรม อาสาสมัครปกป้้องคุ้มครองผู้บริโภค  อปคบ.ปฎิบัติภารกิจ  ปกป้องสิทธิผู้บริโภค  ณ  ห้องจูปิเตอร์ 4-6 อาคารชาเลนเจอร์อิมแพค เมืองทองธานี วันที่ 20 สิงหาคม 2557
พล.ต.ต. นรศักดิ๋ เหมนิธิ ผู้บังคับการ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ( อปคบ.) ครั้งที่ 3 เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวในหน่วยงาน อปคบ และเสริมความรู้ความเข้าใจในการ เรียนรู้การสังเกตุผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร,ลดความอ้วน,อวดอ้างผิวขาว,สารตกค้างในพืชผักผลละไม้,สารเคมีการเกษตรปรอมและผิดมาตรฐาน,การกวาดล้างแหล่งผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ปรอมและไม่มี อย.ุและร่วมลงนามการกวาดล้างแหล่งผลิต จำหน่าย สารเคมี สินค้าผลิตภัณฑ์ปรอมและไม่ผ่าน อย.
และมีผู้ร่วมลงนาม 4 ท่าน

140617 140611 140612 140613 140614 140616

(๑) พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ (บก ปคบ)
(๒) พ.ต.ท. ประวุธ วงศ์สีนิล (ผบช.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีึึพิเศษ (DSI)
(๓) นายธีระ รัตนพันธุ์ ผอ.สำนัก ควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรกรมวิชาการเกษตร
(๔)นาย สยมชัย สิงหรา ณ อยุธยา นายกสมาคมอารักขาพืชไทย
โดยมีแขกผู้มีเกียรติและผู้เข้าอบรมจำนวนมาก  เวลา 13.00น พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผบก.ปคบ ได้ทำการส่งมอบรถปฏิบัติการ จาก อปคบ ให้หน่วยงานราชการ กองกำกับการ ปคบ เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการ และปล่อยแถว ชุดปฏิบัติการ ตรวจจับ 4 กองกำกับการ
และช่วงท้าย พ.ต.อ. อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ และทีมงาน ได้สรุปบรรยาย และมอบบัตรผู้ช่วย พงส.ปคบ และประกาศนียบัตรให้แก่ VIP.ทั้ง 70 ท่านและบัตร สมาชิก อปคบ. ,ประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้าร่วมงาน  ศูนย์รับเรื่อง ปคบ โทร  1135

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ตำรวจสืบสมุทรสาครปิดคดีภายใน 24 ชม.

140077 สองคนร้ายบุกปล้น!! ธนาคารไทยพาณิชย์ พระราม 2 พันท้ายนรสิงห์
เมื่อเวลาประมาณ 14.50  น.ของวันที่ 20 สิงหาคม 2557 ร.ต.ท.อานนท์ ทิพวรรณ ร้อยเวร สภ.โคกขาม ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพระราม 2 หมู่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร  จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ต่อมา พ.ต.อ.ประทีป ราญสระน้อย รอง ผบก.ภ.จว.สค. พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผกก.ภ.จว.สค.  พ.ต.อ.เจนณรงค์ สมเสถียร ผกก.สภ.โคกขาม นำกำลังเจ้าหน้าที่เจ้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการสอบถาม นายจรัญ แอบทิพย์ อายุ 40 ปี พ่อค้าผลไม้ พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุปล้นธนาคาร ตนเองกำลังเข้าไปทำธุรกรรมในธนาคาร มีคนร้าย 2 คนใส่แว่นตาและหมวกปิดบังใบหน้า ถือปืนเข้ามาในธนาคารพร้อมประกาศว่านี่คือการปล้นให้ทุกคนในธนาคารอยู่นิ่งๆ หลังจากนั้นได้กระโดดข้ามเคาเตอร์ธนาคารเพื่อหยิบเอาเงินในลิ้นชักธนาคาร แต่ไม่พบเงินจึงยิงปืนขู่ 1  นัด พร้อมตะโกนขมขู่พนักงานให้เอาเงินมาให้หมด และเข้าไปรื้อค้นตามเคาเตอร์อื่นๆ ก่อนที่จะกวาดเงินสดหลบหนีออกไปจากธนาคาร ซึ่งทราบภายหลังจากเจ้าหน้าที่ว่ายอดเงินที่คนร้ายปล้นไปได้ ประมาณ 212,000 บาท
นายจรัญ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากคนร้ายหลบหนีไปจากธนาคารแล้ว ตนเองก็ได้รีบวิ่งตามออกไปพร้อมตะโกนให้คนช่วยจับโจรปล้นธนาคาร เมื่อเห็นคนร้ายวิ่งไปที่รถจักรยานยนต์ ซึ่งมีผู้หญิงจอดรออยู่และขับขี่หลบหนีออกไปทั้งสามคน ตนเองจึงขับรถกระบะอีซูซุ สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน กล 6582 กทม.เพื่อไล่ตามคนร้าย เมื่อสบโอกาสจึงขับรถพุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์คนร้ายล้มลง แต่หนึ่งในคนร้ายได้เปิดประตูรถกระบะแล้วใช้ปืนยิงตนเองหนึ่งนัดที่โคนขาซ้าย และได้หลบหนีไป ตนเองจึงแข็งใจวิ่งกลับมาที่ธนาคารก่อนที่จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเอกชัย
ทั้งนี้เจ้าหน้าสามารถควบคุมตัวผู้หญิงซึ่งคาดว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุปล้นธนาคาร โดยรับหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชัยเช่นกัน เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถยนต์ของพลเมืองดีขับ ต่อมา พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.ประสพชัย มัสยวานิช ผกก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.สค. พ.ต.อ.เจนณรงค์ สมเสถียร ผกก.สภ.โคกขาม พ.ต.ท.สมชาย ขอค้า สวป.สภ.โคกขาม พ.ต.ต.พีระ อัศวพิบูลย์ผล สว.สส.ภ.จว.สค. ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อสอบปากคำผู้หญิงที่คาดว่าเป็นคนร้ายในการปล้นครั้งนี้ โดยผู้หญิงดังกล่าวอ้างว่า ไม่รู้เห็นกับการปล้นธนาคารในครั้งนี้ ตนเองเพียงแต่ได้รับโทรศัพท์ให้มารอรับสองคนร้ายที่หน้าธนาคาร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากมีเอกสารหลักฐานบางอย่างระบุว่าทั้งสามคนมีการวางแผนร่วมกันก่อนลงมือปล้นธนาคารครั้งนี้
เจ้าหน้าที่กล่าวเพิ่มเติมว่า รถจักยานยนต์ที่คนร้ายใช้หลบหนีและถูกพลเมืองดีขับรถพุ่งชน เป็นรถฮอนด้า คลิก สีแดง-ดำ ป้ายแดงทะเบียน 4293 ส่วนคนร้ายอีกสองคนที่หลบหนีไปได้ จากการสืบสวนทราบว่าหลังจากที่ยิงพลเมืองดีจนได้รับบาดเจ็บ ได้จี้ชิงรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไปภายในซอยโรงเรียนบ้านบางน้ำจืด ก่อนจะทิ้งรถจักรยานยนต์เปลี่ยนมาขึ้นรถโดยสารประจำทางเข้ากรุงเทพฯ และได้ลงรถโดยสารประจำทางที่บริเวณห้างโลตัสพระราม 2 และขึ้นรถแท็กซี่สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทษ 3565 กรุงเทพฯ หลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

รายงานเหตุเบื้องต้น เมื่อ 20 ส.ค.2557 เวลาประมาณ 13.45 น. เกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย 2 คน ใช้อาวุธปืนเข้าปล้นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพระราม2 พันท้ายนรสิงห์ ได้เงินสดไปประมาณ 210,000 บาท จากนั้นได้วิ่งออกมาด้านนอกขึ้นรถจักรยานยนต์ โดยมี น.ส.เกตุไพฑูรณ์  อุทัยพิบูลย์ อายุ 23 ปี ขับรถจักรยานยนต์จอดรออยู่ ในขณะนั้นได้มีพลเมืองดี ชื่อ นายจรัญ แอบทิพย์ ได้ขับรถยนต์กระบะของตนเองไล่ติดตามไป แล้วกลับรถย้อนศรมาชนกับรถคนร้าย เป็นเหตุให้ น.ส.เกตุไพฑูรย์ฯ ได้รับบาดเจ็บ และคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถนายจรัญฯ พลเมืองดี กระสุนถูกขาขวาได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.เอกชัย พร้อม น.ส.เกตุไพฑูรย์ฯ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ได้จี้ชิงรถจักรยานยนต์ในบริเวณที่รถเสียหลักหลบหนีไป จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายอีก 2 คน ชื่อ นายศราวุธ (กุ้ง) บุญยัง อายุ 26 ปี และนายวุฒิชัย (เก่ง) จันธิมา อายุ 23 ปี จากนั้นชุกสืบสวนได้ติดตามจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้พร้อมอาวุธลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และเงินสดจำนวนหนึ่ง(อยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนที่แน่นอน) จับกุมได้ที่ห้องพักไม่มีเลขที่ ต.คูคต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 สค.2557  นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ปลัดจังหวัดสมุทนสาครนายวิจักขณ์ ชินโคตรพงษ์นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจกับนายจรัญ แอบทิพย์พลเมืองดีที่ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายปล้นธนาคารได้ 1 คนโดยที่ตัวนายจรัญพลเมืองดีถูกยิงเข้าที่ต้นขาได้รับบาทเจ็บสาหัส แต่ได้รับการรักษาจากทาง รพ.เอกชัยจนได้พ้นขีดอันตราย

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์รองผู่ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้กล่าวขอบคุณ รพ.เอกชัยที่ให้การดูแลรักษาพลเมือง เป็นอย่างดีและใกล้ชิด

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ศูนย์วิทยุ อปพร บางบอน ประชุมใหญ่สามัญ ปี57

137790 ศูนย์วิทยุ อปพรบางบอน จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี2557สมาชิก อปพรบางบอนจำนวนมาเข้าร่วมประชุมโดยมี  ร.อ สมชัย ม่วงศิริ ประธานที่ปรึษาศูนย์วิทยุ อปพรบางบอน เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี2557 เพื่อชี้แจ้งรายละเอียดเวลาออกปฏิบัติหน้าตอนมีเหตุการต่างๆในท้องที่หรือบริเวณท้องที่ใกล้เคียง และกฏหมายต่างๆเพิ่มเติมแก่สมาชิก อปพรบางบอนทุกๆนายเพื่อเป็นกำลังสนันสหนุนเจ้าหน้าที่ในท้องที่อีกแรงเพื่อความปอดภัยแก่ประชาชนเวลาร้องขอความช่วยเหลือเหตุการณ์ต่างที่จะเกิดขึ้น ให้สมาชิกมีความรู้ความเข้าใจในเวลาประสานเหตุเบี้องต้น ดั่งนั้นศูนย์วิทยุ อปพรบางบอน จึงจัดประชุมใหญ่ประจำปีขึ้น ปีล่ะหนึ่งครั้ง..

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สมุทรสาครโมเดล แก้ไขปัญหา การค้ามนุษย์

          556000016581101 การที่  EU กล่าวหาไทย  “ใช้แรงงานเด็กและการค้ามนุษย์” ทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้สึกไม่สบายใจและที่สำคัญจังหวัดสมุทรสาครถูกจับตามองเป็นอันดับต้นๆ  ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ประกาศ  ฉบับที่ 118/2557 ให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชาได้มาจดทะเบียนให้ถูกต้อง   และง่ายต่อการควบคุม  จังหวัดสมุทรสาคร จึงเป็นจังหวัดแรกและเป็นจังหวัดนำร่อง  ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ ใช้แรงงานเด็ก และแรงงานผิดกฎหมาย ด้วยการให้สถานประกอบการส่งออกกุ้งหรืออื่นๆ  ร่วมรับผิดชอบหากพบการกระทำผิดในสถานประกอบการ   เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น     เมื่อวันที่30 กรกฎาคม 2557 “ทีมข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและสังเกตการณ์  ซึ่งเป็นวันสุดท้าย  ก็ต้องขอชื่นชมทุกหน่วยงาน ที่มีความตั้งใจทำงานกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะท่าน ร้อยตำรวจโท  อาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครของเราเหนื่อยเป็นพิเศษ  ซึ่งท่านรับผิดชอบเป็นแม่งานใหญ่  ที่จะต้องขับเคลื่อนตามนโยบายของ คสช.อย่างเร่งด่วนเพราะมีเวลาจำกัด จึงมีบรรดาแรงงานต่างด้าว มาจดแจ้งกันเป็นจำนวนมากแต่ก็ยังไม่เพียงพอ  โดยทางจังหวัดได้ตั้งเป้าตามนโยบาย คสช.เอาไว้  หนึ่งแสนคน  ปรากฏว่าวันที่ผู้เขียนได้ลงไปตรวจสอบพบว่า ได้มีผู้มาจดแจ้งลงทะเบียนเพียง  60.000  ราย    แต่ยังคงขาดอีก40.000ราย    ล่าสุด วันนี้ (31 กรกฎาคม2557) เวลา 13.30 น. ร้อยตำรวจโทอาทิตย์  บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครพร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พ.อ.นพดลจิเจริญ  ผู้บังคับการกรมทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน นาย นิวัฒน์ รุ่งสาคร ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.ท.โกวิท ม่วงมวล ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร นายสุวรรณ ดวงตา จังหางานจังหวัดสมุทรสาคร และนายแพทย์โมลี วนิชสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ร่วมการแถลงข่าวขยายเวลาการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวของศูนย์บริการออกไปอีก กำหนดให้ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ One Stop Service เปิดดำเนินการถึง วันที่ 31 มีนาคม 2558  เว้นแต่คณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น    ให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชาที่เริ่มจดทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ถึง 30 กรกฎาคม 2557ขยายจน   ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558   ทีมข่าวเห็นด้วยครับที่มีการขยายออกไปอีกระยะหนึ่ง  เพราะบางคนก็ยังกลัวๆกล้าๆหรือยังอยู่ในระหว่างการทบทวนว่าจะเอาไว้ไต้ดินต่อไป  หรือจะเอามาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องซะ    อ่ะ!ทาง คสช.ก็ได้เปิดโอกาสให้บรรดาล้งและผู้ใช้แรงงานหรือผู้ประกอบการต่างๆเหล่านี้อีกครั้ง !  ถ้าเลยกำหนดเวลาแล้ว เจ้าหน้าที่เขาก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที  ไม่ว่ใครจะมาอ้างเหตุผลอื่นๆไม่ได้แล้ว  เพราะงั้น  ผู้ประกอบการ ผู้ใช้แรงงาน ต้องปฏิบัติตามกฎกติกา ยังขืนโอ้เอ้อยู่ ถ้าถูกจับดำเนินคดีในภายหลัง    แล้วจะมาโวย!ไม่ได้นะจ๊ะ!  ขอบอก!  เอ้า!ผู้ประกอบการ ผู้ใช้แรงงานที่เป็นคนต่างด้าวทั้งหลาย “โปรดรับทราบ! และ โปรดทราบ!” นี่คือโอกาสสุดท้าย!

                                             เอกสิทธิ์ พลายภิรมย์

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ิบช.น.แถลงข่าว จับกุมตัว อ้น คนขี่ จยย.ยิงเอกซ์

132490
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล สืบสวนปราบปรามคดีอาญาทุกประเภท ซึ้งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไป พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.น.,พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ๋ศักดิ์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ,พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ รรท.ผบก.สส.บช.น.,พล.ต.เลอชัยมีลีเลิศ ผบ.มทบ.42.พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา,พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้สั่งการให้ พ.ต.อ .กิตติศัพท์ ทองศรีวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.สะบ้าย้อย,พ.ต.ท.ดุสิต พรหมสิน รอง ผกก.สภ.สะท้อนช่วยราชการ กก.สส.ภ.จว.สงขลา ร.ต.อ.ขวัญชาติ จันทะ รอง สว.ฯ,ด.ต.อรุณ กิ้ึมเส้ง ผบ.หมู่ กก.กก.สส.ภ.จว.สงขลา ได้ทำการจับกุมตัว นายธวัธชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.5 ต.สาคู อ.พระแสง จ.สุราษฏร๋ธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 994/2556 ลงวันที่ 8 พ.ย.2556
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติตตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธติตตัวหรือโดยเหตุจำเป็น"จับกุมตัวได้ที่ชายหาดพื้นที่ ม.7ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา พฤติการดังกล่าวคือ เมืีอวันที่19 ตุลาคม 2556 เวลา 18.35 น.ได้มีคนร้าย 2 คนสวมหมวกกันน็อค ขี่ จจย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ประกบยิง จ่าสิบเอก จักรกฤษณ์ หรือ เอกช์ พณิชย์ผาติกรรม อดิตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย และนักแสดง ที่บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถ.รามคำแหง แขวงมีนบุรี กทม.จนถึงแก่ความตาย ซึ่งนายธวัชชัยเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกันฆ่านาย เอกช์จักรกฤษณ์ ที่หลบหนี เจ้าหน้าที่จะนำตัวส่งฟ้องต่อไป...132489